LifeStyle

วันนี้จะพาทุกคนไปนอนพักกันที่ Payaa Hotel โรงแรมพาญา เป็นที่พักเปิดใหม่ พัทยา โลเคชั่นจะอยู่ที่ พัทยา ซอย 3 ทำเลดี เดินทางสะดวก สามารถเดินไปทะเลได้ ไม่ไกลเลย

ภายนอกโรงแรม ดูเป็นอาคารธรรมดาๆ แต่ภายในบอกเลยว่า ดีเทลแน่น สมกับความเป็น ดีไซน์โฮเต็ล จริงๆ ทั้ง Mood & Tone และ Inspiration ต่างๆ จากเรื่องราวประวัติศาสตร์ของพัทยา ว่าเป็นเมืองที่ กองทัพพระยา มาแวะพัก

ทางโรงแรมพยายามจะสื่อสารเรื่องราวนี้ ออกมาให้กับลูกค้าที่เข้าพัก บรรยากาศที่นี่เลยค่อนข้างที่จะมีความเป็นเอกลักษณ์ และสวยงามมากๆ พร้อมกับบริการดีๆ สะดวกสบาย และเพลิดเพลินตลอดช่วงเวลาที่พักที่นี่เป็นอีกที่พัก ที่ยังไม่ทัน Check-Out จะหันไปบอกคนข้างๆว่า กลับมาซ้ำที่นี่กัน!

มาเริ่มจากบรรยากาศบริเวณ Lobby กันเลยดีกว่าฮะ บรรยากาศของที่พัก เน้นสีเข้ม ดำ ตั้งแต่เริ่มเดินเข้าที่พักมาเหมือนเข้ามาอีกบรรยากาศเลยล่ะ ทางโรงแรมมีที่จอดรถชั้นใต้ดิน สามารถนำรถยนต์ส่วนตัวมาจอดได้เลย เดินมาเช็คอินบริเวณล็อบบี้ การตกแต่งเค้าสวยมาก มีความเท่ และดูหรูหราด้วย

จุดสังเกตบริเวณล็อบบี้ด้านหลังจะมีภาพวาดฝาผนังเป็นเรื่องราวประวัติศาสตร์ของพัทยา สวยงามมากและหาชมไม่ได้ที่ไหน เนื่องจากทางโรงแรมเค้าจ้างทางศิลปินวาดเพื่อประกอบงานตกแต่งให้กับที่พักโดยเฉพาะเลย ส่วนของตกแต่งสมัยโบราณ ที่เป็นของสะสมทางเจ้าของเองด้วยนะฮะ และที่เราประทับใจมากๆ คือการเชื่อมโยงเรื่องราวต่างๆ ใส่ในการตกแต่งทั้งหลายภายในโรงแรม เป็นคอนเซปต์ที่ได้ inspiration จากเรื่องราวของกองทัพพระยา

ส่วนการตกแต่งอื่นๆ ที่มีการสร้างเพิ่มเติม ก็มีการนำ เพดานบริเวณล็อบบี้ ได้ไอเดียมากจากขาเต้นท์ ที่เวลากองทัพเจ้าพระยาสมัยก่อนที่ไปออกรบจะมีการตั้งแคมป์ มันสื่อถึงพื้นที่โรงแรมเป็นส่วนของการพักแรมได้เป็นอย่างดี

กำแพงและแนวผนังกั้น ได้ไอเดียมาจาก เสื้อเกราะ ที่ใช้สวมใส่เวลาออกทัพ นอกจากสื่อถึงบริเวณที่ต้องการบดบังสายตา ยังช่วยให้ดีไซน์ของโรงแรมดูเก๋มากขึ้นไปอีก เราว่ามันเท่มากๆเลย ที่นำเรื่องราวต่างๆมาปรับเป็นดีไซน์ภายในของโรงแรมได้น่าสนใจแบบนี้

Room

ห้องพักมีให้เลือกประมาณ 5 Type ทริปนี้เราพักห้อง Deluxe Grand Room ซึ่งไฮไลท์จะมี อ่างอาบน้ำส่วนตัวอยู่ ภายในห้องพักด้วย การตกแต่งภายในห้องพักก็ตกแต่งแบบมีเอกลักษณ์ เน้นบรรยากาศเหมือนไปพักแรมที่แคมป์ เหมือนเข้าเต้นท์ห้องพัก แสงไฟในห้องพักเลยถูกออกแบบให้ค่อนข้างสลัวๆ หน่อยฮะ

ภายในห้องพักก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ และแบ่งเป็นส่วนห้องนอนกับห้องน้ำ โดยใช้ผ้าม่านบังส่วนของโซนอาบน้ำแต่งตัว ได้ฟีลเหมือนเปิดผ้าเข้าออกเต้นท์ และยังคุมโทนได้ดีมาก วัสดุอุปกรณ์ทุกอย่างที่ใช้ก็สวยใหม่เอี่ยมจริง

สำหรับใครที่มาเป็นครอบครัวและต้องการห้อง Connecting Room สามารถแจ้งกับทางที่พักได้นะฮะ Connecting ที่นี่คือเป็นส่วนตัวมาก หลังจากเปิดประตูห้องหลัก ทั้งสองห้องก็จะมีประตูห้องของตัวเองอีก หรือถ้าใครมากันแบบ 3 ท่าน ทางโรงแรมมีห้องพักแบบ Triple Room ด้วยนะ แต่ไม่ว่าจะพักห้องแบบไหนก็สวยเกือบทุกห้องเลย มู้ดดีจริงๆ

---

บาร์หมากขาม

นอกจากบรรยากาศด้านในและห้องพักที่ตกแต่งอย่างมีสไตล์แล้ว ด้านนอกยังมีโซนสวน บาร์หมากขาม ที่สามารถมาจิบชายามบ่ายทานของอร่อยกับเซ็ต Afternoon Tea ได้

การตกแต่งเรียบง่ายดูสบายตา ทานขนมอร่อยๆพร้อมกับจิบชากับบรรยากาศร่มรื่นใต้ต้นมะขามใหญ่ เพลินมากๆ โดยในเซ็ตจะมีทั้งอาหารคาวและหวาน ขนาดที่เสิร์ฟมาจะเป็นไซส์พอดีคำไม่ใหญ่เกินไป ทำให้ได้ทานหลากหลายเมนูเลย เสิร์ฟพร้อมกับชาร้อนที่สามารถเลือกกลิ่นได้ตามชอบ

Gather Ground

ถ้าใครอยากสั่งเมนูอื่นๆเพิ่มเติม ทั้งเค้ก ชา และกาแฟ สามารถสั่งจากร้าน Gather Ground ที่ด้านหน้าของโรงแรมได้เช่นกัน ที่นี่เค้าจะมีเครื่องคั่วกาแฟของตัวเอง โดยคัดสรรเมล็ดกาแฟจากทางภาคเหนือของไทย เป็นการส่งเสริมเกษตรกรไทยไปด้วยในตัว

สำหรับมื้อเช้า Breakfast ทางโรงแรม ใช้พื้นที่ส่วนคาเฟ่ จัดเสิร์ฟบริเวณนี้เหมือนกันนะฮะ อาหารเช้าของที่นี่เป็นแบบ A La Carte Buffet ทำเป็นจานต่อจาน ใหม่ๆทุกเมนู ไฮไลท์ของอาหารเช้าที่นี่คือสามารถเลือกเวลาเสิร์ฟได้ 07.00-16.00 น. ชอบมากๆเลย รู้สึกว่ามัน Flexible เหมาะกับการเข้าพักของลูกค้าได้หลากหลาย และถูกใจคนที่ไม่ชอบตื่นเช้าด้วย 

เมนูอาหารเช้าที่นี่ มีให้เลือก 6 Set นะฮะ อย่างที่บอกว่าเป็นแบบ A La Carte ถ้าไม่อิ่ม สามารถสั่งเพิ่มได้ และยังมีเครื่องดื่ม Refresh & Reboost ให้ด้วย (Detox + Morning Energy ส่วนผสมจะเป็นน้ำสกัดผัก ผลไม้สดๆ อร่อย สดชื่น และมีประโยชน์มาก) เท่านั้นยังไม่พอสามารถเลือกรับ ชา หรือ กาแฟ ได้ด้วย ซึ่ง ชาและกาแฟที่เสิร์ฟเป็นซิกเนเจอร์ของที่นี่ ชาดำ 100 ปี (ชาป่าออแกนิกส์) และ กาแฟจากโรงคั่วของตัวเอง อาหารเช้าทุกเซตจะมีขนมปัง สลัด และผลไม้ให้ด้วยนะ เริ่มต้นมื้อแรกแบบอิ่มจัดเต็มจริงๆ

เราสั่งมาลองทั้งหมด 3 เซท จะมีทั้งหมด

• French Toast Yogurt โยเกิร์ตโฮมเมดท็อปด้วยธัญพืช เสิร์ฟพร้อมขนมปังเฟรนส์โทสต์นุ่มๆ
• Egg Benedict จานนี้ Recommend เลย เป็น Egg Benedict & Ham บนขนมปัง และมีมันฝรั่งบดผสมอโวคาโด รสชาติละมุน พอทานคู่กับซอส Hallandish อร่อยแบบตะโกน
• Full American Breakfast เมนูสุดคลาสสิค เรียบง่าย แต่วัตถุดิบดีมาก

---

ชาญ

ในส่วนของห้องอาหาร ชาญ (CHAN) เป็นเหมือนจุดรวมพลหรือท้องพระโรงของที่นี่ การตกแต่งหรูหราตั้งแต่เพดานลงมาจนถึงกระเบื้อง โทนสีแดงร้อนแรงกับของตกแต่งสีดำทอง ที่พอเห็นแวบแรกก็ร้อวว้าวออกมาแบบไม่รู้ตัว

การตกแต่งทุกมุมที่ให้ความรู้สึกถึงความหรูหราและมีพลัง ดูใส่ใจถึงรายละเอียด เหมาะกับการรวมกลุ่มพูดคุยสังสรรค์เป็นที่สุด ซึ่งเรามาทานอาหารเย็นกันที่นี่ฮะ

---

Rooftop & Swimming Pool

นอกจากจัดเต็มเรื่องเครื่องดื่ม อาหารแล้ว Facilities ก็ครบเลย ทั้งฟิตเนส สระว่ายน้ำ Rooftop Bar จะอยู่ชั้นดาดฟ้า ก็ดีไซน์ดีไม่แพ้กันฮะ แนะนำขึ้นไปช่วงเย็นๆ บรรยากาศดีสุดๆ ฟ้าสวย ลมเย็น สั่งเครื่องดื่มดีๆซักแก้ว บาร์ชื่อว่า Drunken Piti ให้ฟีลแบบ พื้นที่ที่ให้ทหารแอบหนีมาเที่ยว มาผ่อนคลายช่วงที่ไม่ได้ออกทัพ เป็นรูฟท็อปบาร์ริมสระ บรรยากาศดีมากกกกก ตกแต่งดี งานกระเบื้องที่นี่ก็คือสวยจริงๆ และสระว่ายน้ำของที่นี่ก็ยังแทรกดีไซน์ที่น่าสนใจอีก วางกระเบื้องในสระ เป็นลายผ้าไทย ต้องบอกว่าเป็นอีกโซนที่เก๋และไม่เหมือนใครจริงๆฮะ

เนี่ยแหละฮะ ทริปพัทยาสุดสัปดาห์ที่เราอยากแนะนำให้ทุกคนไปพักกัน ทั้งราคา คุณภาพ บริการ บอกเลยว่าเป็นอีกที่พักที่คุ้มค่ามากๆ ยิ่งถ้าใครชอบที่พักแบบไลฟ์สไตล์ ดีไซน์โฮเต็ล ‘พาญา’ เป็นอีกที่ที่ไม่ควรพลาดจริงๆ

รายละเอียดเพิ่มเติม :

Facebook >> https://www.facebook.com/payaahotel

Tel >> 065 056 6464

เช็คราคา & จองที่พักราคาพิเศษ >> https://bit.ly/rsvnpayaahotel

---

หากใครกำลังมองหาที่เที่ยว ที่กิน ที่พัก ทริปเดินทาง สามารถติดตามพวกเรา 247Journey ได้ทาง >> https://247journey.in.th หรือ Facebook : https://www.facebook.com/247journeyy เลยฮะ

ซัมเมอร์แบบนี้ วัยรุ่นพูลวิลล่าอย่างเรา จะพลาดได้ยังไง รีวิวนี้จะพาทุกคนไปรู้จักกับ Sea U Pattaya ชมบรรยากาศ บ้านพักพูลวิลล่า พร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัวขนาดใหญ่ สุดหรู จากเครือ Movenpick โรงแรมชื่อดัง!

ก่อนอื่น ขออธิบายให้ทุกคนเข้าใจก่อนว่าทาง Sea U Pattaya เป็นผู้ให้บริการ Pool Villa และ Penthouse โดยรวบรวมเฉพาะบ้านพักพูลวิลล่า และห้องชุด วิวทะเลสุดหรูในพัทยา มั่นใจได้เลยเรื่องคุณภาพ ความเป็นส่วนตัว และบรรยากาศสุดหรู เพราะเป็นบ้านพัก ห้องพักเครือโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว ซึ่งถ้าจองห้องพักกับทางเค้า นอกจากมั่นใจเรื่องบรรยากาศหรูหราตรงปกแล้ว ก็ยังมีข้อดีอีกหลายอย่างเลย ให้ข้อมูลครบถ้วน ตอบแชทไว ความสะอาด ชุดเครื่องนอนพรีเมียม ความสะอาดของห้องพัก ฟรีมินิบาร์ และสามารถพาสัตว์เลี้ยงเข้าพักได้ด้วย!

สำหรับทริปนี้เราเข้าพัก Movenpick Residence Pool Villa (1 Floor) โลเคชั่นจะอยู่บริเวณด้านหน้าโรงแรม Mövenpick Siam Hotel Na Jomtien Pattaya เป็นบ้านพักพูลวิลล่าชั้นเดียว มีสระว่ายน้ำใหญ่ 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ เหมาะสำหรับ 6-8 คน ใครชอบบรรยากาศแบบนี้ อยากได้บ้าน วิวเดียวกันนี้ ระบุไปได้เลย บ้านเลขที่ 58/24 ฮะ

ส่วนตัวเราว่าพื้นที่ค่อนข้างใหญ่นะ ถ้าเทียบกับพูลวิลล่าที่เคยไปมา มีที่จอดรถภายในบ้านเลย น่าจะจอดได้ประมาณ 3 คัน หรือถ้าไม่พอจอดหน้าบ้านได้ หน้าบ้านพื้นที่กว้างอยู่ฮะ มีวิวสวนเล็กๆข้างๆนิดหน่อย ตัวบ้าน จะเน้นเป็นกระจกบานใหญ่ล้อมรอบ ภายในกว้างใหญ่และเพดานสูงโปร่ง ไม่อึดอัดเลย พื้นที่ส่วนกลางนี้จะเป็น โซนครัว พร้อมอุปกรณ์ครัว โต๊ะอาหาร โซนนั่งเล่น และสิ่งอำนวยความสะดวกอีกมากมาย

บรรยากาศโซนนั่งเล่น ก็คือลงตัวที่สุด เหมาะกับการปาร์ตี้ และด้วยความที่ตัวบ้าน วัสดุเป็นกระจกบานใหญ่ล้อมรอบ สามารถประตูและลงเล่นสระได้ทันทีเลย ส่วนใครอยากจะนั่งแอร์เย็นๆภายในห้องก็ยังนั่งเล่นได้ และที่เราชอบมากอีกอย่างคือ TV ของที่นี่จะเป็น Smart TV ชอบบรรยากาศเวลารวมตัวนั่งดู Netflix กันหลายๆคน สนุกสนานสุดๆ

ถัดมาจะเป็นพื้นที่ Outdoor ไว้นั่งชิลกัน มีเตาปิ้งย่าง โต๊ะเก้าอี้ และพร๊อพที่ขาดไม่ได้ถ้า ห่วงยางแฟนซี มีให้พร้อมเลย ทั้งไซส์เล็กใหญ่ ไม่ต้องหาพกมาเอง บ้านไหนมีเด็กก็น่าจะถูกใจ หรือจะมากับกลุ่มเพื่อน เล่นน้ำถ่ายรูปบนห่วงยางสวยๆก็ได้เลย เพราะสระที่นี่จะค่อนข้างกว้างและอยู่ตรงใจกลางบ้านเลยฮะ สามารถเปิดประตูจากห้องนอนใหญ่กับห้องนั่งเล่นลงสระได้เลย หรืออยากนำอาหารทะเลมาปิ้งย่างริมสระก็ดีมาก สะดวกสุด

ภายในบ้านพักจะมีทั้งหมด 3 ห้องนอนนะฮะ มาเริ่มจากห้องนอนใหญ่ Master Bedroom กันก่อน ห้องพักจะอยู่ติดกับสระว่ายน้ำเลย สามารถเปิดประตูออกมา ลงสระได้เลย มีระเบียงหน้าห้องให้นั่งเล่น และชิงช้ารังนกให้นั่งชิลกันด้วย พอมีระเบียงห้องแบบนี้ส่วนตัวว่าดีเลยฮะ ช่วยกันไม่ให้บริเวณสระและห้องพักติดกันเกินไป เวลาขึ้นลงสระบ่อยๆ บริเวณห้องนอนจะได้ไม่เปียกเกิน

ภายในห้องพักเป็นเตียงใหญ่ 1 เตียง มีโซนนั่งทำงาน มีทีวี และบริเวณห้องแต่งตัว ห้องน้ำส่วนตัวภายในห้องพักเลย

ไฮไลท์ของห้องนี้คือห้องน้ำ ดีไซน์หรูหรามาก ไม่แพ้ส่วนอื่นของที่พัก มีอ่างอาบน้ำให้นอนแช่อีกด้วย และแบ่งโซน Shower แยกไป การตกแต่งได้บรรยากาศแบบ Outdoor มีแสงธรรมชาติส่องถึง ฟีลดีมากกก

และยังมีอีก 2 ห้องนอน เริ่มจากห้องนี้ฮะ จะเป็นห้องนอนที่มีห้องน้ำในตัว แต่ไม่มีอ่างอาบน้ำนะ ขนาดห้องพักไซส์รองลงมาจากห้องใหญ่ เป็นเตียงเดี่ยว 2 เตียง ตกแต่งโมเดิร์นสวยงาม

และห้องนอนสุดท้าย ห้องน้องเล็กสุด เป็นเตียง Queen size 1 เตียง ไม่มีห้องน้ำในตัว

---

ในส่วนของอาหารเช้าไม่ต้องนั่งหา ไม่ต้องกดสั่งให้วุ่นวาย มาพักพูลวิลล่าทั้งที มีสระน้ำส่วนตัวแบบนี้ จะพลาด Floating Brekfast ได้ยังไง ที่นี่เค้าก็มีเซ็ตอาหารเช้าลอยน้ำพร้อมให้บริการด้วยนะฮะ โดยเราสามารถเลือกเมนูที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นซีรี่ย์ไข่ fried egg / scramble egg / omelet / boiled egg

หรือจะเป็นเมนูอาหารเช้าแบบไทยๆอย่าง โจ๊ก ข้าวต้ม ที่เครื่องมาแบบแน่นๆจุกๆ สำหรับใครที่สั่งเป็นเซ็ตโจ๊ก จะมีปาท่องโก๋และน้ำเต้าหู้ทรงเครื่องมาด้วยนะ อิ่มจุกๆไปเลย

รวมถึงเมนูไฮไลท์อย่าง ข้าวต้มเครื่องสีสวยที่มาพร้อมกับข้าวเครื่องเคียงถึงสี่อย่าง หรือหมูปิ้งเนื้อหนา เสิร์ฟมาพร้อมน้ำจิ้มแจ่ว ทานคู่กับข้าวเหนียวอัญชัญร้อนๆ อร่อยมากฮะ

หรือถ้าอยากทานแบบเบาๆ มีทั้งเมนูสลัด โยเกิร์ต วาฟเฟิล แพนเค้ก และนมที่เสิร์ฟพร้อมกับซีเรียลต่างๆ เรียกได้ว่าครบมาก ถูกใจทุกคนที่มาแน่นอน

สรุปนะฮะ ส่วนตัวประทับใจทริปนี้มาก ครบเครื่องความเป็นพูลวิลล่า และ ดีไซน์หรูหรา ถ่ายรูปมุมไหนก็ดูดี ด้วยการตกแต่งโมเดิร์น บรรยากาศหรูหราของบ้านพัก และสระว่ายน้ำส่วนตัวเค้าใหญ่แบบเล่นสนุกกับเพื่อนๆได้ไม่แออัด ห้องพักก็มีความสะอาดเรียบร้อย อุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆครบ มีอาหารเช้าบริการ และที่สำคัญเรื่องของราคา ถือว่าคุ้มค่า ถ้าเทียบกับคุณภาพ หากใครกำลังหาบ้านพักพูลวิลล่าดีๆ บรรยากาศสุดหรู พัทยา แนะนำ Sea U Pattaya รายละเอียดการจองด้านล่างนี้เลยฮะ

รายละเอียดเพิ่มเติม :

Facebook >> https://www.facebook.com/seayoupattaya

Website >> www.seaupattaya.com

Tel >> 02-114-8190⁣⁣⁣⁣⁣

---

หากใครกำลังมองหาที่เที่ยว ที่กิน ที่พัก ทริปเดินทาง สามารถติดตามพวกเรา 247Journey ได้ทาง >> https://247journey.in.th หรือ Facebook : https://www.facebook.com/247journeyy เลยฮะ

The Sea-Cret Garden Huahin ห้องพัก Pool Access ติดสระว่ายน้ำ พร้อมจากุซซี่ส่วนตัว บรรยากาศสวนสวยสไตล์ยุโรป ราคาคุ้มที่สุดในหัวหิน

รีวิวนี้เราจะพาไปพักผ่อน เช็คอินกันที่ The Sea-Cret Garden Huahin เป็นอีกหนึ่งที่พักบรรยากาศดี ใครชอบสระว่ายน้ำใหญ่ๆและเปิดประตูมาลงเล่นน้ำได้เลย ถูกใจแน่นอนฮะ

เดอะซี-เคร็ท การ์เดน หัวหิน

ที่พักหัวหิน เป็นวิลล่าสีขาวส่วนตัวแยกเป็นหลังๆ และมีสระว่ายน้ำใหญ่มาก ไม่ว่าจะเป็นคู่รัก เพื่อน ครอบครัว เราว่าถ้าใครชอบเล่นสระว่ายน้ำ และชอบสระว่ายน้ำใหญ่ๆ ที่นี่ตอบโจทย์มาก และมีให้เล่นถึง 2 สระ แบ่งกันไปคนละฝั่งเลย ไม่ต้องกลัวว่ายชนกันแน่นอนฮะ

สไตล์การตกแต่งของทุกวิลล่าหน้าตาเหมือนกันเลย วิลล่าหลังสีขาวติดสระว่ายน้ำ ทุกห้องพักก็คือเปิดประตูและเดินลงสระได้เลย เล่นน้ำกันแบบเพลินไปเลยยาวๆ มีเก้าอี้นั่งเล่นด้านหน้าห้อง และชั้นบนก็สามารถขึ้นไปนั่งเล่นชมวิวมุมสูงของที่พักได้เหมือนกันทุกหลัง แสงพระอาทิตย์ช่วงเย็นดีมากๆฮะ

สำหรับภายในห้องพัก ตกแต่งได้น่ารัก ห้องที่เราพักเป็นสีชมพู สไตล์หวานๆดีฮะ ขนาดห้องพักใหญ่เลยนะ ไม่อึดอัด มีเตียงใหญ่ โซฟาให้นั่งเล่น คิดว่าถ้าขอเตียงเสริมเพิ่ม มีพื้นที่วางได้สบายมาก ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกในห้อง ก็ครบครัน ทั้งตู้เย็น ไมโครเวฟ กาต้มน้ำ และยังมีมุมครัวเล็กให้ด้วยนะ ถ้าใครจะซื้ออะไรติดไม้ติดมือเข้ามากิน ก็สะดวกสบายเลย

ช่วงไหนเบื่อๆการนั่งอยู่ในห้องก็ลุกออกมาเดินลงสระเล่นน้ำได้เลย ฟีลดีมากจริงๆ ยิ่งซัมเมอร์หน้าร้อนแบบนี้ด้วย เล่นสระเย็นๆคือคำตอบ

สำหรับอาหารเช้า ให้บริการแบบบุฟเฟ่ต์ฮะ ไลน์อาหารเช้ามีให้เลือกทานอยู่พอควรเลย ไม่ได้หวือหวามาก แต่จัดมาครบก็สุขใจแล้ว ไม่ว่าจะเป็นไส้กรอก แฮม ข้าวต้ม ฟาร์ฟาเล่อบชีส กับข้าวต่างๆ ขนมปัง และอื่นๆ แต่ที่ชอบเลยคือ Egg Station ทำสดใหม่ อยากได้เมนูไข่แบบไหนสั่งได้เลยฮะ ความพิเศษที่นี่มีเสิร์ฟไข่กระทะด้วยนะ ใส่เครื่องไม่หวงเลยฮะ ใครชอบเบิ้ลได้เรื่อยๆ

ทานข้าวเสร็จก็เดินเล่น ชมบรรยากาศสวนสวยๆ สไตล์ยุโรป อลังการอยู่นะ ซีเครทการเดนท์จริงๆ ดูดีเลยล่ะฮะ

ด้านในสุดของที่พักต่อกับต้นไม้ใหญ่นี้ เดินทะลุไปนิดนึงจะเป็น คาเฟ่ Chapter 2 เป็นคาเฟ่ฟีลสนุกสนาน โทนสี color box เล่นสีเก่งง น่ารักทุกมุมเลย พอเดินออกมาด้านนอกเป็น บึงน้ำ ได้อีกบรรยากาศ เหมือนมาที่เดียวได้หลายบรรยากาศไปเลย ปล. ครัวซองค์ชิ้นใหญ่ถูกใจมากกกก ต้องสั่ง ให้เยอะเหมือนกลัวไม่อิ่ม!! ก็คือชอบเลยฮะ สะดวกมากๆ อยากหาที่นั่งจิบกาแฟ ก็ไม่ต้องออกไปไหนไกล เดินลัดไปนิดเดียวถึงเลย

ไฮไลท์อีกอย่างของที่นี่ คือ มีที่พักแบบพูลวิลล่า 2 ห้องนอน ด้วยนะ อันนี้บอกตามตรงว่าค่อนข้างเซอร์ไพรส์ ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย เคยคุ้นๆแต่ภาพสระว่ายน้ำใหญ่ๆก็คิดว่าเป็นรีสอร์ท โรงแรม ที่พัก ทั่วไป แต่ The Sea-cret Garden พิเศษกว่านั้นนะ โซนนี้จะเป็นบ้านพักพร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัว เหมือนหมู่บ้านเลยฮะ ซึ่งบ้านพักพูลวิลล่า แต่ละหลังก็จะมีที่จอดรถในบ้าน มีชั้นดาดฟ้า มี 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องครัว(พร้อมอุปกรณ์ครัว) 1 ห้องนั่งเล่น และสระว่ายน้ำขนาดกำลังดีเลย

พูลวิลล่าส่วนตัว 2 ห้องนอน เข้าพักได้ 5 ท่าน Master Bedroom & Bathroom จะมี Walk-in Closet ด้วยนะ ห้องน้ำใหญ่ และมีอ่างจากุซซี่ด้วยนะฮะ ส่วนอีกห้องนอนก็จะเป็นเตียงเดี่ยว 2 เตียง วิวสวน ซึ่งด้านนอกจะเป็นสวนรอบบ้าน ร่มรื่นมากๆเลย

สรุปนะฮะ เดอะซีเคร็ท การ์เดนท์ หัวหิน เป็นอีกตัวเลือกที่ดี เผื่อใครอยากมาพักผ่อนที่หัวหิน แม้โลเคชั่นจะไม่ติดทะเล แต่ด้วยความสะดวกสบายและบรรยากาศสวยๆ ร่มรื่น และมีสไตล์ไม่เหมือนใครแบบนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งที่พักน่าแวะมาพักผ่อนมากๆ ทั้งสระว่ายน้ำที่ใหญ่สะใจ เดินจากห้องพักลงเล่นสระว่ายน้ำได้ทันที มีอ่างจากุซซี่ให้แช่ในห้อง ทุกอย่างก็ตอบโจทย์มากๆกับการพักผ่อนฮะ ไม่ติดทะเลก็ฟินได้ของจริงงงง!

รายละเอียดเพิ่มเติม :

Facebook >> https://www.facebook.com/theseacretgardenhuahin/

Website >> https://www.theseacretgardenhuahin.com/

Tel >> 097-009-6837,097-080-0672

เช็คราคา & จองที่พักราคาพิเศษ >> https://bit.ly/rsvntheseacretgardenhuahin

---

หากใครกำลังมองหาที่เที่ยว ที่กิน ที่พัก ทริปเดินทาง สามารถติดตามพวกเรา 247Journey ได้ทาง >> https://247journey.in.th หรือ Facebook : https://www.facebook.com/247journeyy เลยฮะ

พามาชิม โซบะ โอมากาเสะ ใจกลางอโศก 蕎麦十番 Soba Juban Asok Branch with Rokkaku เส้นโซบะโฮมเมดทำกันสดๆ ที่แนะนำให้มาลอง

โอมากาเสะ (Omakase) หรือการทานอาหารแบบตามใจเชฟ หรือพูดให้เข้าใจง่ายๆคือเชฟจะเป็นผู้จัดเซ็ตเมนูมาให้เรานั่นเองฮะ ซึ่งการทานโอมากาเสะนี้เริ่มมาเป็นที่นิยมในไทยมากๆไม่กี่ปีมานี้ และส่วนใหญ่ที่เคยเห็นจะเป็นซูชิโอมากาเสะที่มีราคาตั้งแต่หลักร้อยยันหลักหมื่นเลยฮะ

แต่ครั้งนี้มาแบบแหวกแนว เราจะพาไปเปิดประสบการณ์ใหม่กับคอร์ส โซบะ โอมากาเสะ ของร้าน Soba Juban Asok Branch with Rokkaku คอร์สนี้จะเน้นเส้นโซบะ ซึ่งเป็นอาหารญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมอย่างหนึ่งเลย

เส้นโซบะทำจากแป้งบักวีต ทานทั้งได้ทั้งแบบร้อนและแบบเย็น และความพรีเมี่ยมของที่นี่คือเค้ามีเชฟคนญี่ปุ่นทำเส้นกันแบบสดใหม่เลย ถ้าใครมาทานที่ร้านแล้วโชคดีก็จะได้เห็นเชฟเค้าโชว์สเต็ป ทั้งนวด ทั้งรีด ทั้งซอยเส้นกันให้ดูด้วยฮะ

ร้าน Soba Juban Asok Branch with Rokkaku จะอยู่ในซอยสุขุมวิท 23 เป็นร้านเล็กๆที่ตกแต่งในสไตล์ญี่ปุ่น เปิดประตูเข้ามาจะเจอเคาน์เตอร์บาร์ ซึ่งเชฟจะรังสรรค์เมนูอาหารบริเวณนี้ รวมถึงการทำเส้นโซบะด้วยฮะ ซึ่งเราสามารถนั่งทานตรงบาร์นี้ได้ ทานไปนั่งดูเชฟปรุงอาหารไปได้ฟีลโอมากาเสะสุดๆ

ในคอร์ส Soba Omakase นี้จะประกอบไปด้วยเมนูจากเส้นโซบะ ซาชิมิ ยากิโทริ(เมนูย่าง) รวมถึง Appertizer และของหวาน ในราคา 980++ (ราคานี้ยังไม่รวมค่าเครื่องดื่มนะ)

และแน่นอนว่าพระเอกในคอร์สคือเส้นโซบะ ความพิเศษของเส้นที่นี่ก็คือความสดใหม่ เส้นสดจะมีความเหนียวนุ่ม เนื้อสัมผัสของเส้นตอนจุ่มในซอสฉ่ำๆ คือดีมากกกก

ทางร้านเค้ามีให้เลือกถึง 4 สี/แบบ (Yuzu Soba / Black Soba / Matcha Soba / Purple Sweet Soba) และอาจจะมีรสชาติอื่นๆแล้วแต่ season ด้วยฮะ ในคอร์สก็สามารถเลือกได้ว่าจะทานแบบไหน จะเลือกลองหมดทุกรสเหมือนเราเลยก็ได้หรืออยากเลือกแค่รสที่ชอบก็ได้เหมือนกันนะ

คอร์สนี้จะมีให้ทั้งหมด 11 เมนูตามนี้เลยฮะ

– Appetizer เริ่มคอร์สด้วยเมนูสดชื่นๆอย่างเต้าหู้เย็นนุ่มๆ โรยด้วยต้นหอมญี่ปุ่นและขิงสับ

– Sashimi ต่อด้วยแซลมอนยูเกะ จานนี้ก็นัวไปด้วยแซลมอนดิบ กับความหอมหวานของซอส ตัดด้วยความเค็มของไข่ปลา ลงตัวมาก

– ตามด้วย Black Soba โซบะสีดำที่เป็นเส้นออริจินอล และ Yuzu Soba เส้นนี้คือกลิ่นหอมชัด สดชื่นมากๆ

– เสิร์ฟมาพร้อม Yasai Tempura เทมปุระผักรวม ผักชุบแป้งทอดมาได้แบบกรอบนอกนุ่มใน ตัวผักยังมีความฉ่ำ ทานคู่กับโซบะยิ่งอร่อย

– คั่นด้วย Aburi Mentaiko ไข่ปลาที่ย่างมาแบบหอมๆ ตัวไข่ปลาจะมีความเค็ม ปรุงด้วยรสเผ็ดอ่อนๆ ทานแกล้มไปเพลินๆ

– ตามด้วยโซบะสีสวยอย่าง Matcha Soba และ Purple Sweet Potato Soba ทั้งสองสีมีรสชาติแตกต่างกันเล็กน้อย ต้องลองทานแบบไม่จุ่มซอสดูฮะ

– และมีเมนูยากิโทริด้วย (เชฟจะมีถามก่อนว่าทานเครื่องในได้มั้ย) วันที่ไปเชฟเสิร์ฟเป็น AKIRESU เนื้อสะโพกไก่นุ่มๆย่างมาหอมมาก และ GENKOTSU เอ็นข้อไก่เสียบไม้ย่าง เคี้ยวกรุบๆเพลินเลย

– ของหวานวันนี้เป็น พุดดิ้งสด เนื้อนุ่มเบา กลิ่นหอมนมๆ ราดด้วยซอสรสหวานฉ่ำ ปิดท้ายมื้อนี้ได้ดีเลยฮะ

เมนูโซบะเป็นเมนูฮิตของญี่ปุ่นที่ทำให้เราว้าวมาก เส้นสดทำใหม่จุ่มในซอสโซบะเย็น ผสมต้นหอมญี่ปุ่นและวาซาบิไปด้วย แค่นี้คืออร่อยแล้ว ดีต่อสุขภาพ และยังทำให้รู้สึกสดชื่นคลายร้อนไปด้วยฮะ

ที่ร้านไม่ได้มีแต่เมนูโอมากาเสะนะ เค้ายังยังมีเมนู A La Carte อื่นๆด้วย จะดงบุริ ชาชิมิ หรือยากิโทริก็มีให้เลือกเยอะอยู่ เราแอบเห็นโต๊ะข้างๆสั่ง จานใหญ่น่าทานไม่แพ้กันเลย

ใครอยากจะลองสัมผัสประสบการณ์การทานโซบะโอมากาเสะ เส้นสด เคี้ยวหนุบ อร่อยถูกใจคนรักเส้น ต้องไม่พลาดร้านนี้เลยฮะ

---

---

หากใครกำลังหาแพลนเที่ยว ที่กิน ที่พัก ทริปเดินทาง และยังไม่รู้จะไปไหน สามารถติดตามทริปท่องเที่ยวอื่นๆ จาก 247Journey เพิ่มเติมได้ทุกช่องทางเลยนะฮะ ฝากช่องทางน้องใหม่ สำหรับใครที่ชอบดูคลิปสั้นๆ เรามี Tiktok แล้วนะฮะ ไปรับชมกันได้เลย

Website: https://247journey.in.th 

Facebook: https://www.facebook.com/247journeyy

Instagram: https://www.instagram.com/247Journeyy

Twitter: https://twitter.com/247journey

Tiktok: https://www.tiktok.com/@247journey

บินลัดฟ้าพาเที่ยว สมุย แนะนำ 15 ที่เที่ยวสวยๆ

ถึงจะเข้าสู่ฤดูหนาว แต่ก็อย่างที่เรารู้ๆ กันละว่าไทยแลนด์น่ะเที่ยวทะเลได้ตลอดทั้งปี! ดังนั้น ถ้าใครอยากสวนกระแสการไปดูทะเลหมอกที่ภาคเหนือ ไปเป็นการดำน้ำ อาบแดด หรือแหวกว่ายในท้องทะเลสีฟ้าใส สมุย คือตัวเลือก Number 1 ที่อยู่ในใจหลายคนแน่ๆ เพราะเดินทางง่าย เพียบพร้อมด้วยความสะดวกสบาย ทะเลก็สวย แถมยังมีหลายฟีลให้สัมผัสกันได้อีกด้วยจ้า ถ้าหนาวนี้ใครอยากโชว์หุ่นเซี้ยะๆ กับบิกินี่ตัวเก่งนะ รีบเข้าไปส่องตั๋วเครื่องบินสมุย กับ Traveloka กันให้ไว Long Weekend ใกล้เข้ามาแล้วน้า อย่าช้าจ้ะ ตั๋วหมดอดเที่ยวแล้วจะเสียดาย!

เช็คมาตรการสนามบินในประเทศ และนอกประเทศ > https://www.traveloka.com/th-th/flight/safe-travel

จองตั๋วเครื่องบินไปสมุย กับTraveloka > https://www.traveloka.com/th-th/flight/to/Koh-Samui.USM

จองรถเช่า หรือเช่ารถ กับTraveloka > https://www.traveloka.com/th-th/car-rental

---

15 ที่เที่ยว สมุย วิวสวย

1.หาดเฉวง

เฉวงนั้นนับเป็นหาดที่สวยและยาวที่สุดของเกาะสมุย โดยมีความยาวตลอดชายหาดถึง 6 กิโลเมตรกันเลยเชียวละ และยังถือเป็นหาดที่มีชีวิตชีวาและคึกคักที่สุดของสมุยเลยด้วยจ้า ด้วยความสวยของหาดทรายขาวๆ และทิวต้นมะพร้าวริมหาด กลางวันจึงมีผู้คนนิยมมานอนอาบแดด เล่นน้ำ ดำน้ำ และยังมีกิจกรรมต่างๆ ให้ทำมากมาย ส่วนกลางคืนก็บอกได้เลยว่าไนท์ไลฟ์ย่านนี้เค้าเด็ดจ้ะ ช่วงเช้ายังมาดูพระอาทิตย์ขึ้นกันได้ที่หาดนี้ด้วยน้า ครบเลยละ ใครชอบความคึกคักปักหมุดเลย

2.ถนนคนเดินบ่อผุด

ชาวต่างชาติจะรู้จักย่านนี้ในชื่อ Fisherman Village เพราะที่นี่คือชุมชนชาวประมงที่เก่าแก่แห่งหนึ่งของเกาะสมุย ซึ่งในปัจจุบัน หลายบ้านได้ผันตัวเองมาเป็นร้านอาหารหลากหลายสไตล์ ถนนนี้จึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มาเดินเล่นหาของอร่อยใส่ท้องกันได้ทุกวันเลยจ้า แต่ในช่วงห้าโมงเย็นถึงสี่ทุ่มนิดๆ ของทุกวันศุกร์จะสเปเชียลกว่า เพราะเค้ามีการเปิดเป็นถนนคนเดินที่มีทั้งสตรีทฟู้ดคาวหวานหลายสัญชาติ ของใช้ ของที่ระลึก และอื่นๆ อีกมากมายให้มาช้อปกัน มาให้ถูกวัน รับรองเลยว่าชิลล์

3.วัดสำเร็จ

วัดเก่าแก่ของเกาะสมุยซึ่งสันนิษฐานกันว่าสร้างขึ้นตั้งแต่ช่วงสมัยปลายกรุงศรีอยุธยาถึงต้นกรุงธนบุรี โดยในพระอุโบสถของวัดนี้นั้นมีองค์พระประธารศิลายวงประดิษฐานอยู่ ซึ่งเป็นพระประธานซึ่งแกะสลักจากหินสีขาว เชื่อกันว่ามีแหล่งที่มาจากเมืองมัณฑะเลย์ในประเทศเมียนมาร์ และนับว่าเป็นโบราณวัตถุที่สำคัญชิ้นหนึ่งของวัดนี้ โดยในเมืองไทยมีอยู่แค่ 4 องค์เท่านั้น ในวัดยังมีสถาปัตยกรรมแปลกตาให้ชมกันอีกหลายจุดเลยละ มีพระวิหารซึ่งมีองค์พระพุทธรูปซึ่งสร้างจากหินปะการังให้ชมกันด้วยนะ บรรยากาศขลังมากจ้ะ สายบุญลองแวะไป

4.หาดละไม

เป็นหาดที่ใหญ่เป็นอันดับสองของเกาะสมุยรองจากหาดเฉวง บริเวณชายหาดมีลักษณะโค้งยาวต่อเนื่องกันราว 4 กิโลเมตร ริมชายหาดมีทิวต้นมะพร้าวยาวเป็นแนวต่อเนื่องกัน ด้านความสวยของทิวทัศน์ กิจกรรมทางน้ำ และความสะดวกสบายนั้นเรียกได้ว่าไม่เป็นรองหาดเฉวงเลยเชียวนะ เพียงแต่หาดละไมจะค่อนข้างพลุกพล่านน้อยกว่า ถ้าใครชอบบรรยากาศทะเลสวยที่ค่อนข้างสงบแต่ยังสะดวกสบาย หาดละไมคือคำตอบของคุณ!

5.จุดชมวิวลาดเกาะ

เป็นจุดที่จะได้เห็นวิวท้องทะเลสมุยแบบสวยสุดๆ จุดหนึ่งเลยละ โดยจุดชมวิวแห่งนี้เป็นผาหินซึ่งอยู่ระหว่างหาดเฉวงและหาดละไม ถ้าชมวิวจากด้านบนยังไม่จุใจ จากริมถนนด้านบนเค้าก็มีทางเดินสะดวกสบายไล่ระดับลงไปยังบริเวณศาลาริมทะเลที่อยู่ด้านล่างซึ่งจะเห็นทะเลได้ในระยะประชิดกว่า จากจุดชมวิวแห่งนี้เราจะเห็นความสวยของทะเลสมุยได้แบบพาโนรามาเต็มๆ ตา เป็นอีกจุดที่น่ามาเดินเล่นรับลมเลยเชียว

6.วัดพระเจดีย์แหลมสอ

วัดแหลมสอตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะสมุย เป็นวัดเก่าแก่ที่สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในช่วง พ.ศ.2450 และเป็นวัดริมทะเลแห่งเดียวของเกาะสมุยด้วยนะ ไฮไลท์ของวัดนี้คือเจดีย์ทรงศรีวิชัยสีเหลืองอร่ามซึ่งอยู่บริเวณชายหาด เจดีย์นี้ไม่ได้สร้างขึ้นจากอิฐเหมือนเจดีย์ทั่วไปนะ แต่เค้าใช้หินปะการังตัดเป็นก้อนสี่เหลี่ยมแทนจ้า ด้านในเจดีย์ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากศรีลังกา ใครเป็นสายบุญอย่าลืมแวะมาเช็คอิน

7.เกาะมัดสุม

ไม่ไกลนักจากเกาะสมุย จะมีเกาะเล็กๆ ซึ่งเราสามารถเดินเล่นรอบเกาะได้ในเวลาไม่นาน และที่สำคัญคือนอกจากความสวยของทิวทัศน์แล้ว เกาะนี้ยังมีไฮไลท์เป็นบรรดาเจ้าหมูอู๊ดๆ ที่พบเห็นได้ทั่วไปบริเวณริมชายหาดอีกด้วยจ้า ได้ฟีลเหมือนไปเที่ยวบาฮามาสกันนิดๆ เลยนะ เพราะเราจะได้อยู่ใกล้กับเจ้าหมูทะเลเหล่านี้ในระยะค่อนข้างประชิด เสร็จจากภารกิจถ่ายรูปแบ๊วๆ กับน้องๆ แล้ว บนเกาะนี้ก็ยังมีกิจกรรมให้ทำหลายอย่างเลยนะ แนะนำจ้า อันนี้ทั้งชิลล์ทั้งน่ารักนะ อย่าพลาดเชียว

8.เกาะวัวตาหลับ

ออกห่างจากเกาะสมุยมาราวๆ 2 ชั่วโมง ก็จะถึงเกาะวัวตาหลับ ซึ่งเป็นเกาะที่อยู่บริเวณตรงกลางของหมู่เกาะอ่างทอง ทำให้ที่นี่เป็นพิกัดที่เหมาะกับการมาชมวิวมุมสูงของบรรดาเกาะเล็กเกาะน้อยซึ่งอยู่รอบๆ ได้เป็นอย่างดี และถ้าใครอยากเห็นวิวหลักล้านที่เหมือนในโปสการ์ดก็ต้องมาจัดกันที่นี่นี่ละ เพราะบนเกาะนี้นั้นมีจุดชมวิวที่ต้องป่ายปีนผาหินขึ้นไปโดยมีพิกัดให้แวะกัน 4 จุดจ้า ตั้งแต่ความสูง 100, 200, 350 และ 500 เมตรตามลำดับนะ และแน่นอนว่าจุดที่พีคที่สุดก็ต้องสูงที่สุดเช่นกันจ้ะ ถึงจะขึ้นไปไม่ง่ายนักแต่บอกได้เลยว่าความสวยน่ะคุ้มค่า มาแล้วต้องลุยเด้อ!

9.หินตา หินยาย

เรียกว่าเป็นแลนด์มาร์คยืนหนึ่งของเกาะสมุยที่มาแล้วพลาดไม่ได้ เพราะนี่คือไฮไลท์หลักซึ่งทุกคนที่มาสมุยต้องปักหมุดเช็คอินกัน หินตา หินยายนั้นตั้งอยู่ใกล้ๆ กับหาดละไม และเป็นสัญลักษณ์ที่อยู่คู่กับสมุยมาเนิ่นนาน เหตุผลที่ชื่อว่าหินตา หินยายนั้นคงไม่ต้องถามหรอกนะว่าทำไม เพราะหลักฐานมันฟ้องกันให้เห็นๆ อยู่แล้วจ้า การจะมาชมที่นี่ให้สนุกแนะนำว่าควรหาตำนานการเกิดหินตาหินยายมาอ่านกันก่อนนะ บอกเลยว่าสนุกและจินตนาการล้ำแบบสุดๆ จ้า มาสมุยเมื่อไหร่ต้องแวะมาให้ได้นะ

10.หาดลิปะน้อย

สำหรับสายธรรมชาติที่รักการได้เสพบรรยากาศของท้องทะเลแบบเต็มที่ การมาที่หาดนี้น่าจะเป็นสิ่งที่คุณถูกใจเลยละ เพราะหาดลิปะน้อยนั้นเป็นหาดที่ยังคงความเป็นธรรมชาติไว้ได้อย่างดี มีแนวต้นไม้เขียวขจีอยู่ริมชายหาด แม้จะเป็นหาดขนาดไม่ใหญ่นักแต่ก็มีน้ำทะเลสีฟ้าใสและเม็ดทรายขาวสะอาด ถึงจะมีร้านค้าและร้านอาหารเปิดให้บริการอยู่บ้างแต่ก็ไม่มากนัก ที่เริ่ดคือเพราะเป็นหาดที่อยู่ทางฝั่งตะวันตกจึงสามารถชมพระอาทิตย์ตกได้สวยเลยเชียวละ อยากเสพความสงบบนเกาะสมุยเมื่อไหร่ ปักหมุดไปหาดนี้ได้เลย

11.วัดพระใหญ่เกาะฟาน

เป็นอีกหนึ่งวัดซึ่งถือเป็นไฮไลท์บนเกาะสมุยเลยจ้า สำหรับวัดที่ตั้งอยู่บนเกาะเล็กๆ ที่ชื่อว่าเกาะฟานแห่งนี้ ซึ่งปัจจุบันมีการสร้างสะพานเชื่อมเกาะฟานกับเกาะสมุยเอาไว้ด้วยกันก็เลยยิ่งเดินทางง่าย มาวัดนี้ก็ต้องไม่พลาดการไปกราบสักการะองค์พระใหญ่ หรือ พระพุทธโคดม ซึ่งเป็นองค์พระพุทธรูปที่สร้างขึ้นใน พ.ศ.2515 และนับว่าเป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่สุดของภาคใต้ และเพราะตั้งอยู่บนเนินเขา ที่นี่จึงเป็นจุดชมวิวแลแะพระอาทิตย์ตกได้สวยที่สุดจุดหนึ่งบนเกาะสมุยเลยจ้า อยากรู้ว่าแจ่มขนาดไหนต้องลองมาดูด้วยตาตัวเองกันซักที!

12.Overlap Stone

จะเรียกว่าเป็นจุดเช็คอินใหม่แห่งหนึ่งบนเกาะสมุยก็ว่าได้ กับหินก้อนใหญ่ซึ่งวางซ้อนกันอยู่บนความสูง 150 เมตรแห่งนี้ นอกจากจะเป็นจุดหนึ่งที่ชมความสวยมุมสูงของสมุยได้แบบสุดแจ่มแล้วนะ ที่นี่ยังเป็นแบ็คกราวนด์ถ่ายรูปที่ปังมากด้วยจ้า แต่ต้องใจกล้าเดินข้ามสะพานแขวนสั้นๆ จากด้านบนเขาข้ามไปยังจุดที่หินตั้งอยู่หน่อยนะ บอกเลยว่าใส่ชุดใหญ่แบบจัดเต็มไปได้เลยจ้ะ รับรองว่าถ่ายรูปออกมาเพื่อนต้องอิจฉาแน่นอน

13.วัดปลายแหลม

เป็นอีกหนึ่งวัดเก่าแก่บนเกาะสมุยซึ่งก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ.2423 โดยที่นี่มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า วัดแหลมสุวรรณารามเด้อ วัดนี้เป็นวัดที่สายบุญและสายมูต้องแฮปปี้แบบสุดๆ แน่นอนเลยละ เพราะนอกจากจะได้กราบพระตามแบบพุทธศาสนาแล้ว ที่นี่ยังมีองค์เจ้าแม่กวนอิมพันมือและองค์พระสังกัจจายน์ขนาดใหญ่ให้ได้กราบไหว้ขอพรกันด้วยนะ มาที่เดียวได้มูกันแบบจุกๆ ไปเลยจ้า สายบุญชอบไหว้พระต้องจัดเลย

14.น้ำตกหน้าเมือง

ที่เกาะสมุยนั้นไม่ได้มีแค่ทะเลให้เราเที่ยวกันอย่างเดียวนะ แต่ยังมีน้ำตกสวยอย่างน้ำตกหน้าเมืองให้ได้แวะไปเปลี่ยนบรรยากาศกันด้วยจ้า โดยน้ำตกหน้าเมืองนั้นมีให้เที่ยวชมกันถึง 2 แห่งนะ น้ำตกหน้าเมืองหนึ่งจะเดินทางเข้าถึงได้สะดวกกว่า โดยจะเป็นน้ำตกขนาดกลางที่สูงประมาณ 15 เมตร มีน้ำไหลตลอดทั้งปี ส่วนที่น้ำตกหน้าเมืองสองนั้นจะอยู่ลึกกว่า และบริเวณใกล้กันจะมีหน้าเมือง ซาฟารี ปาร์ค ซึ่งมีกิจกรรมแอดเวนเจอร์ต่างๆ มากมายให้ได้มันกัน หนึ่งในนั้นก็คือการนั่งรถโฟว์วีลบุกป่าเข้าไปชมน้ำตกหน้าเมืองสองด้วยละ เลือกเที่ยวได้ตามเลเวลความแอดเวนเจอร์ที่อยากโดนเลย!

15.Silver Beach

ซิลเวอร์ บีช หรือ อ่าวท้องตะเคียนนั้น เป็นหาดเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางความคึกคักพลุกพล่านบนเกาะสมุย หาดนี้มีความยาวเพียงแค่ราวๆ 200 เมตรนิดๆ เท่านั้น และเป็นหาดที่มีบรรยากาศสงบสบาย เหมาะกับการมานอนอาบแดด เล่นน้ำ หรือมาชมทิวทัศน์พระอาทิตย์ขึ้นที่บอกได้เลยว่าสวยมาก แต่มีข้อเสียคือบางจุดใต้น้ำอาจจะมีก้อนหินอยู่บ้าง จึงต้องเล่นน้ำกันอย่างระวังซักนิดนะ ใครรักความชิลล์แบบไม่พลุกพล่าน บอกเลยว่าตรงนี้ดี!

ทั้งหมดนี้เป็นแค่ส่วนหนึ่งของพิกัดน่าเช็คอินบนเกาะสมุยเท่านั้นนะ เกาะสวรรค์ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลกแห่งนี้ ยังมีสถานที่สวยๆ เด็ดๆ ให้แวะไปเยือนกันอีกหลายแห่งเชียวละ ช่วงที่นักท่องเที่ยวยังไม่คัมแบ็คแบบเต็มที่ อยากให้รีบไปเที่ยวที่สมุยกันดูจ้า เชื่อว่าจะได้เสพความสวยของธรรมชาติกันแบบจัดเต็มเลยละ หนาวนี้ถ้าไม่อยากขึ้นเหนือไปเที่ยวเขา ก็ไป เที่ยวสมุย กับเราได้เลย!

---

หากใครกำลังหาแพลนเที่ยว ที่กิน ที่พัก ทริปเดินทาง และยังไม่รู้จะไปไหน สามารถติดตามทริปท่องเที่ยวอื่นๆ จาก 247Journey เพิ่มเติมได้ทุกช่องทางเลยนะฮะ ฝากช่องทางน้องใหม่ สำหรับใครที่ชอบดูคลิปสั้นๆ เรามี Tiktok แล้วนะฮะ ไปรับชมกันได้เลย

Website: https://247journey.in.th 

Facebook: https://www.facebook.com/247journeyy

Instagram: https://www.instagram.com/247Journeyy

Twitter: https://twitter.com/247journey

Tiktok: https://www.tiktok.com/@247journey

The Prima Residence ดอนเมือง ที่พักราคาถูก ใกล้สนามบิน มีที่จอดรถ บริการฟรี มีรถส่งสนามบิน

เวลาเดินทางแต่ละที มันก็จะมีฟีลลิ่งตื่นเต้นๆอยู่เยอะมาก ทั้งตื่นเต้นที่จะได้เดินทาง ตื่นเต้นที่จะไปที่ใหม่ๆ และตื่นเต้นกลัวว่าจะไปขึ้นรถ/ขึ้นเครื่องบินไม่ทัน!

แล้วถ้ายิ่งเป็นไฟล์ทเช้า ยิ่งเป็นเช้ามืดนะ ความกดดันยิ่งคูณสองเลยก็ว่าได้ คืนก่อนเดินทางมักจะมีความลังเลว่า เราควรนอนงีบซักหน่อยดีหรือว่าจะโต้รุ่งดี(เพราะกลัวตกเครื่อง ฮ่าๆ) ถ้าบังเอิญรถติดจะทำยังไง ต้องเผื่อเวลาเท่าไหร่ ต้องวางแผนและคิดเต็มไปหมด หลายสิ่งเลย ><

ทางออกที่เราอยากแนะนำคือ หาห้องพัก ที่พัก โรงแรมใกล้สนามบินฮะ เป็นอีกทางเลือกที่ช่วยคลายความกังวลได้ เพราะนอกจากความสะดวกสบาย ไม่ต้องตื่นเช้ามากๆเพื่อเตรียมตัวไปให้ทันเช็คอินไฟลท์บิน ไม่ต้องกลัวว่ารถจะติดหนักจนไปไม่ทัน คิดๆเปรียบเทียบดูแล้ว บางทีการเข้าพักยังอาจจะเซฟอะไรไปหลายอย่างด้วยนะ และยิ่งถ้าได้ที่พักราคาไม่แพง บอกเลยว่าคุ้มค่ามาก

สำหรับวันนี้เรามี ที่พักใกล้สนามบินดอนเมือง มาแนะนำเพื่อนๆกันด้วยฮะ เผื่อใครที่มีแพลนเดินทางโดยเครื่องบิน ไฟลท์เช้าหรือดึกแค่ไหน ต้องการความสะดวกสบายในการเดินทางไปสนามบินดอนเมือง ก็ No worry กันเลย

The Prima Residence

ที่พักราคาประหยัด ใกล้สนามบินดอนเมือง ตั้งอยู่ในซอยช่างอากาศอุทิศ 6 ใกล้แค่ไหน พูดให้เห็นภาพก็คือ ซอยจะอยู่ฝั่งตรงข้ามสนามบินดอนเมืองนี่เองฮะ ความประทับใจแรกตั้งแต่มาถึงเลยคือพื้นที่จอดรถกว้างมาก! ซึ่งเราว่าเป็นจุดเด่นของที่นี่เลยนะ เพราะตั้งแต่เข้าซอยมาจะเห็นได้ว่า ที่พักย่านนี้ส่วนใหญ่จะเป็นสไตล์ตึกแถวติดๆกัน บางที่ก็ไม่ได้มีพื้นที่มากเพียงพอสำหรับการจอดรถกันมากนักฮะ

แต่สำหรับ The Prima Residence ก็คือแค่เลี้ยวเข้ามา ก็เลือกไม่ถูกเลยว่าจะจอดตรงไหน 555555 เราเลยคิดว่าถ้าใครต้องการที่พักใกล้สนามบินแบบใกล้ๆและที่มีที่จอดรถรองรับ พร้อมมีรปภ. รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง ที่นี่ก็ถือว่าตอบโจทย์ฮะ

ส่วนลูกค้าที่ไม่มีรถส่วนตัว ทางที่พักก็มีบริการรถตู้จากที่พักไปส่งที่สนามบินเหมือนกันนะ โดยรถตู้จะออกเป็นรอบๆ เริ่มตั้งแต่ 05.00/06.00/07.00/08.30/09.30 ซึ่งเราก็สามารถเลือกเวลาไปให้ใกล้เคียงกับรอบบินเราสบายๆ (รอบรถตู้อาจมีการเปลี่ยนแปลง ยังไงสามารถสอบถามกับทางที่พักได้ฮะ) และที่สำคัญ บริการฟรีด้วยนะ ไม่ต้องเสียแรง/เสียเงินเรียกรถในแอพเลย ความพิเศษนี้สำหรับลูกค้าที่เข้าพักเท่านั้นฮะ 🙂

---

สำหรับห้องพักของที่นี่ มีบริการมากมายเลยฮะ หลายหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะมาแบบ 2-4 คน ก็มี Type ให้เลือกตามความเหมาะสม ภายในห้องพักก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน สมกับความเป็น Residense ฮะ มีโซนครัวแยกออกมาด้วยนะ เผื่อใครที่อยากหาซื้ออะไรเล็กๆน้อยๆมาทาน ในห้องเค้าจะมีไมโครเวฟบริการด้วย มีตู้เย็น เรียกได้ว่าสะดวกสบายจริงๆ

พื้นที่ภายในห้องพักกว้างและไม่อึดอัดเลย โดยรวมแต่ละห้องมีการตกแต่งไม่ต่างกันมาก จุดเด่นของที่นี่เราว่ามีการแบ่งสัดส่วนได้อย่างชัดเจนดี และบรรยากาศเน้นโทนสบายตาๆ เรียบๆ สะอาดๆเลยฮะ เหมาะกับการทิ้งตัวนอนมาก หรือถ้านอนเบื่อแล้ว จะลุกมานั่งเล่นที่โซฟาก็ได้เหมือนกันนะฮะ ส่วนเตียงก็มีให้เลือกทั้งแบบเตียงเดี่ยวหรือเตียงคู่เลยนะ

ห้องพักสำหรับ 2 ท่าน

• Standard king bed 25 ตรม. ราคาปกติ 1,050.-
• Superior Room 28 ตรม. ราคาปกติ 1,150.-
• Deluxe Room 32 ตรม. ราคาปกติ 1,150.-

ห้องพักสำหรับ 3 ท่าน

• Triple room – 1 queen bed + 1 single bed ราคาปกติ 1,500.-

ห้องพักสำหรับ 4 ท่าน

• Family room – 2 queen beds ราคา 1,890.-

ราคาดังกล่าวจะเป็นเรทปกตินะฮะ แนะนำให้ลองเช็คกับทางที่พัก หรือ จองผ่านทาง Agoda ก็มีราคาพิเศษเหมือนกัน ส่วนอาหารเช้าที่นี่ มีบริการแบบง่ายๆ Self Service ด้วยความที่เข้าใจลูกค้าในการต้องรีบไปขึ้นเครื่อง มีบริการเป็นขนมปัง-กาแฟ ให้บริการตัวเองได้เลย อยู่ท้องก่อนเดินทางได้แบบสบายๆ

นอกจากนี้ ทาง พรีม่า เรสซิเดนท์ ก็มีส่วนของ Fitness ให้บริการด้วยนะฮะ ลูกค้าที่เข้าพักสามารถไปใช้บริการกันได้ มีเครื่องเล่นพอสมควรเลย ครบครันจริงๆ

และอีกข้อดีของที่นี่คือ เรื่องความปลอดภัยฮะ ด้วยความที่ห้องพักเป็นระบบคีย์การ์ด และมีรปภ รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงมีมาตรการการรักษาความสะอาดที่ดี มีจุดบริการเจลล้างมือ และมีการทำความสะอาดในจุดสัมผัสต่างๆ ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ alcohol อยู่ตลอด ให้ลูกค้าได้ใช้เวลาพักผ่อน อย่างปลอดภัยหายห่วง

โดยสรุปนะฮะ เราว่าที่นี่เป็นอีกหนึ่งที่พักน่าสนใจ ถ้าใครกำลังหา Budget Hotel ที่พักราคาไม่แพง ใกล้สนามบินดอนเมือง ไว้รอต่อเครื่อง ที่นี่ก็คือตอบโจทย์มากเลยล่ะฮะ ไม่ว่าจะในเรื่องของราคา ทำเลที่ตั้งใกล้ทั้งรถไฟฟ้าสายสีแดง และสนามบินดอนเมือง เดินทางสะดวกมากๆ และยังมีรูปแบบห้องพักหลากหลายไว้รับรองความต้องการลูกค้า ความสะอาดและสะดวกสบาย ใกล้ 7-11 และแหล่งชุมชน และที่สำคัญ มีที่จอดรถด้วย เอาเป็นว่า ถ้าหาที่พักรอต่อเครื่อง อย่าลืมนึกถึงที่นี่กันนะฮะ

Location: 44 ถนน ซอย ช่างอากาศอุทิศ 8 แยก 2 เเขวง ดอนเมือง, เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร 10210

FB: https://www.facebook.com/theprimaresidence

Tel: 086-819-4848 , 02-102-8489 , 088-012-4848

Google Maps: https://goo.gl/maps/BNgxnLK4DDZyBHbN6

เช็คราคาทาง Agoda: คลิกที่นี่เลย

---

ทาง สามารถติดตามพวกเรา 247Journey ได้ทาง >> https://247journey.in.th หรือ Facebook : https://www.facebook.com/247journeyy เลยฮะ

X2 Vibe Bangkok Sukhumvit ที่พัก Staycation กรุงเทพ มีสระว่ายน้ำ ออนเซ็น พร้อมอาหารฟรี 3 มื้อ

หลายคนคงรู้จัก Staycation เทรนด์ท่องเที่ยวสุดฮิตที่เน้นพักผ่อน เปลี่ยนบรรยากาศแบบไม่ต้องเดินทางไกล แต่ก็อาจมีแว๊บนึงที่คิดว่า ทำไมต้องทำให้ยุ่งยากล่ะ ไหนจะต้องเก็บกระเป๋า ไหนจะต้องหาร้านอาหารทาน ไม่ได้ออกต่างจังหวัดก็กลับมานอนบ้านก็ได้ เราเองก็เคยคิดแบบนี้นะ XD แต่พอได้มาลองเปลี่ยนบรรยากาศ เปลี่ยนที่นอนบ้าง เอ้ออออ มันได้ฟีลเหมือนเราไปเที่ยวต่างจังหวัด/ต่างประเทศอยู่เหมือนกัน

และยิ่งตอนนี้ Hungry Hub เค้ามีแพ็คเกจ Staycation ราคาสุดคุ้ม ห้องพักพร้อมอาหารที่ให้เราสามารถพักผ่อนแบบฟินๆ ในราคา Fixed price คือจ่ายทีเดียวจบเลย ทั้งกิน นอน และใช้สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆของทางโรงแรมได้แบบครบเครื่อง ไม่ต้องคิดวางแพลนให้ปวดหัวเลย ลองเข้าไปเลือกกันดูฮะ คลิกที่นี่เลย

สำหรับทริปวันนี้เราเลยจะพาไปพักที่ X2 Vibe Bangkok Sukhumvit (ครอส ไวบ์ กรุงเทพ สุขุมวิท) โรงแรมที่เราจะได้ Stay, Chill, Enjoy ใช้เวลาในวันพักผ่อนแบบเต็มที่

สิ่งที่อยากให้ทุกคนเตรียมมาในทริปนี้คือท้องของคุณให้ว่าง ที่จะสามารถเติมเต็มทุกมื้ออาหารได้ ฮ่าๆ และขอแนะนำให้ทุกคนบริหารและจัดสรรเวลาทำงานของกระเพาะอาหารให้ดี เพราะที่นี่เค้ามีอาหารจัดเต็มให้ครบทั้ง 3 มื้อ!! ใช่แล้ว อ่านไม่ผิด ห้องพักพร้อมอาหารฟรี 3 มื้อเลยฮะ สุดยอดมาก ปลื้มจริง ถ้ากล้าขายมาแบบนี้ ก็ต้องกล้าไปพักกันหน่อยล่ะฮะ 55555555

ส่วนของอาหารก็อย่าคิดนะฮะว่าจะให้มาแบบเล็กๆน้อยๆ เข้าใจผิดเลย การันตีด้วยแบรนด์ Cross Vibe ไม่ใช่แค่ราคาที่จับต้องได้ คุณภาพมาตรฐานก็ต้องระดับโรงแรมกันเลยทีเดียว สำหรับมื้อเช้า และ มื้อเย็น ทางโรงแรมจะบริการแบบ Buffet พูดง่ายๆคือทานได้ไม่อั้น All you can eat และในส่วนของมื้อกลางวัน จะเป็น Lunch Set พร้อมน้ำเปล่า ซึ่งในแต่ละแพ็คเกจ จะมีเมนูอาหารยืนพื้นเหมือนกัน แต่ละราคาของแต่ละแพ็คจะต่างกันไปตามเลเวล เพิ่มเครื่องดื่ม Buffet Beer & Wine ก็มีนะ

วันนี้เราจะมารีวิวแพ็คเก็จที่ได้ไปใช้บริการมา จะเป็นโปรโมชั่นพิเศษสำหรับคนที่จองผ่านทาง Hungry Hub เท่านั้น จะได้รับสิทธิพิเศษสามารถใช้ห้องพักได้ถึง 24 ชั่วโมง คุ้มมากกก คือโดยทั่วไปเวลาไปพักโรงแรมปกติแล้วจะเช็คอินได้หลัง 14.00 น. และเช็คเอ้าท์ก่อน 12.00 น. ใช่ไหมล่ะฮะ แต่โปรโมชั่นนี้นอกจากราคาดีแล้ว ยังใช้ห้องพักได้อย่างเต็มเวลาด้วย เข้าเช็คอินเวลาไหน เช็คเอ้าท์เวลานั้นได้เลย ทริปนี้เราจองเป็น Staycation (15.15) ราคา 2,290.- ห้องพัก Suite หรือ One Bed Room พร้อมอาหาร 3 มื้อ ใช้ส่วนลดเราเที่ยวด้วยกันเหลือ 1,374 บาท (ตกคนละไม่ถึง 700) ดีงามมากๆๆๆ จองเลย คลิกที่นี่ >> https://bit.ly/rsvncrossvibebkk

---

สำหรับห้องพักของที่นี่จะแบ่งเป็น 2 อาคารนะฮะ จะเป็นฝั่ง Hotel (โรงแรม) และ Residence (เรสซิเดนซ์) สำหรับพักยาวๆ ซึ่งถ้าใครพักห้องโซนเรสซิเดนซ์ ภายในห้องพักจะมีพวกอุปกรณ์เครื่องครัวและอื่นๆให้ด้วยฮะ และเราเองก็สามารถเลือกพักได้ว่าอยากพักโซนไหน ห้องพักของทางโรงแรมจะมีหลาย Room Type อยู่นะฮะ แต่เราขอยกมาเฉพาะ Type ที่มีขายเป็นแพ็คเก็จพิเศษนี้ล่ะกันฮะ

แพ็คเก็จ Staycation ราคา 1,790.- (ห้อง Standard หรือ Studio พร้อมอาหารฟรี 3 มื้อ)

สแตนดาร์ด ถือว่าเป็น Type เริ่มต้นห้องพักฝั่งโรงแรมของที่นี่ฮะ ส่วนตัวว่ากว้างใช้ได้เลยทีเดียว แถมมีมุมนั่งเล่นภายในห้องด้วย มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบ บรรยากาศดูโมเดิร์นและโทนสีดูเท่มากๆ

ส่วน สตูดิโอ จะอยู่ฝั่งของ Residence ไซส์ห้องพอๆกันเลย แต่ Mood and tone จะเป็นโทนสีอุ่นๆกว่า เน้นโทนสีไม้ มินิมอลสไตล์ญี่ปุ่น อย่างที่บอกว่าฝั่งนี้จะเน้นอยู่ยาว เลยมีไมโครเวฟ ครัวบิ๊วท์อิน และอ่างล้างจานด้วย ใครชอบแนวนี้ จัดห้องนี้เลยฮะ

แพ็คเก็จ Staycation ราคา 2,290.- (ห้อง Suite หรือ One Bed Room พร้อมอาหารฟรี 3 มื้อ)

Suite Room จะอยู่โซนโรงแรมฮะ ห้องกว้างมากและแยกสัดส่วนของห้องนอนและโซนนั่งเล่นอย่างดีเลย โซนนั่งเล่นก็กว้างมาก ใครชอบพื้นที่กว้างๆแนะนำห้องนี้เลย

และสำหรับใครที่อยากได้แบบมีอ่างอาบน้ำส่วนตัวด้วย เราแนะนำเป็นห้อง One Bed Room ของทางโซนเรสซิเดนท์ นอกจากมีการแบ่งสัดส่วนห้องนอน ห้องนั่งเล่นแล้ว ยังมีอ่างอาบน้ำให้นอนแช่สบายๆด้วยนะ ส่วนโทนก็จะอบอุ่นๆตามแบบของเค้าล่ะ

---

4K Cafe (ฟอร์คคาเฟ่)

ห้องอาหารที่นี่ชื่อ 4K Cafe (ฟอร์คคาเฟ่) เราเข้าเช็คอินตอนเวลาบ่าย 3 โมง มื้อแรกที่เราได้ทานเลยเป็นมื้อเย็นฮะ และเรา Start เริ่มทานประมาณ 5 โมงครึ่ง เป็นลูกค้าคนแรกๆเลย ฮ่าาา ซึ่งมื้อเย็นของที่นี่จะเป็นแบบบุฟเฟ่ต์ All you can eat พร้อมเครื่องดื่ม น้ำเปล่า/น้ำอัดลม อาหารมีให้เลือกหลากหลาย ทั้งเมนูพร้อมตักที่วางเรียงราย และเมนูที่เสิร์ฟมาเป็นจาน สั่งทานได้แบบไม่อั้น ตอนที่เห็นเมนู และนั่งทานมื้อเย็นเนี่ยก็คิดแล้วว่า แค่กินมื้อนี้ก็คุ้มแล้ว 5555

ด้านหน้าของร้านอาหารจะเป็นโซนบาร์และโต๊ะเกมที่แขกสามารถมาเล่นด้วยกันได้ พอเดินเข้ามาด้านใน คาเฟ่ที่ตกแต่งด้วยโทนสีดำเท่ๆตัดกับสีฟ้า ให้ฟีลอบอุ่นแต่สดใส หรือใครอยากนั่งทานอาหารรับลมแบบชิลล์ๆ ก็สามารถเดินออกไปนั่งที่บริเวณด้านนอกได้เช่นกัน ซึ่งในคืนวันศุกร์และเสาร์ ทางร้านจะมีวงดนตรีสด Live Music มาเล่นด้วยนะฮะ ทานของอร่อยพร้อมจิบเครื่องดื่มตามชอบ พร้อมฟังเพลงเพราะๆไปด้วย ชิลล์มากเลย

ประเดิมด้วยเมนูอาหารทานเล่นอย่าง ปีกไก่ทอดซอสบาร์บีคิว ชิ้นเล็กเคลือบซอสฉ่ำๆ หยิบทานได้เพลินมาก

เมนูเน้นผักเพิ่มไฟเบอร์ อย่างเมนู ปอเปี๊ยะสด ห่อและตัดมาเป็นคำๆทานง่าย และเมนู น้ำพริกลงเรือ รสชาติไทยๆ ทานคู่กับผักเคียงหรือจะเพิ่มเนื้อสัตว์อย่างไก่ต้มและคอหมูย่างก็ยิ่งอร่อย

เมนู แซลม่อนแซ่บ สำหรับใครที่ชอบทานแซลมอนซาชิมิ ตัดรสด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ดแซ่บๆ ละมุนมากฮะ

เมนูสำหรับคนชอบทานเส้นก็มีด้วยนะ ไม่ว่าจะเป็น กุ้งอบวุ้นเส้น หอมกลิ่นเครื่องสมุนไพรไทย ตักน้ำจิ้มซีฟู้ดราดไปด้วยยิ่งเข้ากัน หรือจะเป็นเมนู ครอสไวบ์พาสต้าต้มยำซีฟู้ด เมนูฟิวชั่นที่น่าจะถูกใจคนชอบทานซีฟู้ด มีทั้งกุ้ง หอย ปลาหมึกมาแบบแน่นๆ

ส่วนเมนูอาหารฝรั่งที่นี่ก็ไม่น้อยหน้าฮะ สเต็กพอร์คชอป ชิ้นโต ย่างมาพอดี ไม่แข็ง เสิร์ฟมาพร้อมมันบดเนื้อเนียนที่ใครได้ลองเป็นต้องประทับใจ

และอีกเมนูเด็ดสำหรับคนรักชีส Pepperoni Pizza พิซซ่าหน้าล้น แป้งบางกรอบ ท็อปปิ้งแน่น ห้ามใจไม่ให้หยิบชิ้นต่อๆไปไม่ไหวจริงๆ 😛

สำหรับใครที่ชอบแซ่บๆ แนะนำเมนู Signature อย่าง ข้าวปลาทูพริกสด ปลาทูตัวน้อยรสไม่เค็มเกินไป ทานกับข้าวผัดพริกสูตรของทางร้านเพิ่มความแซ่บ จัดจานมาพร้อมกับผักสด ทั้งสวยและอร่อยเลยจานนี้

ปิดท้ายด้วยเมนูของหวาน ช็อคโกแลตลาวา รสเข้มข้น ช็อคด้านในอุ่นๆหั่นออกมาแล้วเยิ้มมมถูกใจ ทานคู่กับไอศครีมเย็นๆแล้วคือที่สุดเลยฮะ และนอกจากนี้ก็ยังมีผลไม้ต่างๆปิดท้ายมื้อพิเศษนี้แบบฟินๆไปเลย

หลังจากที่ทานของอร่อยและนอนพักผ่อนอย่างเต็มที่ ใครสายออกกำลังกายอยากตื่นเช้าลงมาฟิตเนสก็ได้นะฮะ ที่โรงแรมเค้ามีเครื่องออกกำลังกายที่ครบอยู่นะ ทั้งลู่วิ่ง เครื่องปั่นจักรยาน หรือใครอยากเน้นเวทเทรนนิ่ง ก็มีดัมเบลและอุปกรณ์ต่างๆที่สามารถเล่นได้หลากหลายรูปแบบ ความเลิศของที่นี่คือ ฟิตเนส เปิดตลอด 24 ชั่วโมง!

ส่วนใครที่สายชอบว่ายน้ำ ที่นี่ก็มีสระว่ายน้ำไว้บริกรเหมือนกันฮะ มีทั้งแบบ outdoor เผื่อใครอยากโชว์วงสวิงว่ายไปกลับ หรือในส่วน indoor ที่จะมีจากุชชี่ให้แช่ได้สบายตัว เหมาะกับคู่รักและครอบครัวเป็นที่สุด

ส่วนหนุ่มๆสาวๆคนไหนที่อยากพักผ่อนด้วยการแช่ออนเซ็น ที่นี่เค้าก็มีด้วยนะ ซึ่งเราว่าเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกที่ว้าวมาก เพราะการที่ได้แช่น้ำอุ่นจะช่วยทำให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลาย ลดความเครียดสะสมทั้งร่างกายและจิตใจ ช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น และบรรเทาอาการปวดเมื่อยของกล้ามเนื้อได้เป็นอย่างดี โดยออนเซ็นที่นี่จะแยกชาย-หญิง สามารถใส่ชุดว่ายน้ำลงได้แบบไม่ต้องกลัวเขิน จำกัดจำนวนคนเข้าใช้ไม่เกิน 3 คนเท่านั้น และที่สำคัญที่สุดคือสามารถใช้ได้แบบฟรีๆเลยจ้า

หรือถ้าใครเมื่อยๆ อยากทำสปา/นวด ที่นี่ก็มี Spa ให้บริการ (แต่จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมนะ) อยู่ชั้นเดียวกับสระว่ายน้ำ ฟิตเนส และออนเซ็นเลยฮะ อยากจะบอกว่าเป็นโรงแรมที่พื้นที่ไม่ได้ใหญ่มากแต่อัดแน่นไปด้วยคุณภาพจริงๆ

ตัดภาพมาที่มื้อเช้าของที่นี่ ก็เป็นบุฟเฟ่ต์เช่นเดียวกันฮะ เมนูส่วนใหญ่จะเป็นแบบ ABF ตามมาตรฐานเลย เมนูไข่ต่างๆ ไส้กรอก เบเกอรี่ ของทอด เดินวนนานมากเพราะเลือกตักไม่ถูกเลย

เช้าๆหลายคนอาจดื่มเป็นนม ชา หรือกาแฟ แต่ที่เป็น Signature Drink ของที่นี่เลยคือ Bloody Mary ไม่น่าเชื่อว่าการดื่มค็อกเทลตอนเช้าแบบนี้ ทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่าดีเลยฮะ

พอทานมื้อเช้าเสร็จ เราก็ขึ้นไปพักผ่อนกันต่อบนห้อง นอนดูทีวี เล่นมือถือ หรือใครอยากจะนั่งอ่านหนังสือก็ตามสะดวกรอเวลาทานมื้อกลางวัน 5555555 สำหรับมื้อกลางวันจะเสิร์ฟเป็นแบบ Lunch Set ช่วงเวลา 11.00 – 14.00 น. เราโหยหาอาหารไทยก็เลยจัดเป็นกะเพรากับผัดไทยมา ต้องบอกว่าเค้าเสิร์ฟในปริมาณที่แน่นๆเต็มจานมาก หมู กุ้ง ก็คือใส่ไม่ยั้งมือเลย

พอทานอิ่มแล้วก็ยังเหลือเวลาให้นั่งเล่นอีกหน่อย ก่อน Check-out กลับ อยากจะบอกว่าเหลือเชื่อมาก กับความรู้สึกที่ได้ใช้เวลาแบบเช็คอินเวลาไหน ออกเวลานั้นของอีกวันอ่ะ แบบว่าการได้ใช้เวลาในโรงแรมได้เต็มๆแบบ 24 ชั่วโมง มันเหมือนต่อเวลาในการพักผ่อนได้ดีจริงๆ ส่วนตัวก็คือประทับใจมากเลยกับที่นี่ฮะ ตอนแรกแอบห่วงว่า ราคานี้มันต้องมีอะไรที่ไม่เวิร์คบ้างแหละ แต่พอไปจริงคือเกินความคาดหวังไปมาก ใครจะไปคิดว่าจ่ายงบหลักร้อย ได้ทั้งห้องพัก อาหาร 3 มื้อ ได้ใช้ Facility โรงแรม ราคานี้ใจกลางเมือง แถมใกล้ BTS อีก จะไม่กลับไปซ้ำได้ยังไง!

ใครที่สนใจ คลิกจองที่นี่เท่านั้นนะฮะ ถึงจะได้สิทธิ์เข้าพักสูงสุด 24 ชม. จองเลย >> https://bit.ly/rsvncrossvibebkk

Location: Cross Vibe Bangkok Sukhumvit สุขุมวิท 52

FB: https://www.facebook.com/crossvibe.bkksukhumvit

จองที่พักราคาพิเศษผ่าน Agoda : คลิกเลย

จองแพ็คเก็จ HungryHub: คลิกเลย

---

หากใครกำลังมองหาที่เที่ยว ที่กิน ที่พัก ทริปเดินทาง สามารถติดตามพวกเรา 247Journey ได้ทาง >> https://247journey.in.th หรือ Facebook : https://www.facebook.com/247journeyy เลยฮะ

พาเที่ยวปักหมุด 15 ที่เที่ยว โครเอเชีย สวยต้องแวะ

อยากไปเที่ยวกันแล้วใช่ไหม หลังจากที่รอคอย COVID-19 ก็คงอีกสักพัก แต่การรอคอยการไปเที่ยวต่างประเทศของหลายคน จะไม่ต้องรอคอยอีกต่อไป เพราะตอนนี้ประเทศส่วนใหญ่ในยุโรป เปิดเดินทางให้สามารถไปเที่ยวกันได้แล้ว ดังนั้นหากใครมีวีซ่าเชงเก้นอยู่แล้ว พาสปอร์ตพร้อม เอกสารการเดินทางพร้อม บอกเลยว่าไม่ต้องอดใจรออีกต่อไป เข้าแอพลิเคชั่น Traveloka แล้วไปจองตั๋วเครื่องบินกันได้เลย สำหรับบทความนี้เราจะพาบินไปเที่ยว โครเอเชีย หนึ่งในประเทศสวยริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียน อยู่ในสหภาพยุโรป ที่สวยงาม และมีที่เที่ยวโครเอเชียมากมายรอให้คุณไปสัมผัส

• 

ที่สำคัญหากใครเดินทางไปเที่ยวโครเอเชีย หรือจองตั๋วเครื่องบินไปโครเอเชีย แล้วเดินทางกลับมาไทย ไม่จำเป็นต้องกักตัว เพราะอยู่ในเงื่อนไขฉีดวัคซีนครบแล้วเดินทางเข้าประเทศไทยได้เลย แค่รอตรวจ COVID-19 ในวันแรกเท่านั้น อ่านมาตรการสนามบินเพิ่มเติมได้ที่ > https://www.traveloka.com/th-th/flight/safe-travel

จองตั๋วเครื่องบินไปโครเอเชีย กับTraveloka > https://www.traveloka.com/th-th/flight/to/Zagreb.ZAG

---

15 ที่เที่ยวโครเอเชีย

1.อุทยานพลิตวิเซ่ (Plitvice Lakes National Park)

จองตั๋วเครื่องบินไปโครเอเชียแล้วไปเที่ยวที่สุดยอดทะเลสาบ ที่อยู่ในอุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ่กันดีกว่า ถือว่าเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวโครเอเชียที่สำคัญ และได้รับความนิยมมาก หากมาเที่ยวโครเอเชียแล้วไม่ได้มาเที่ยวที่นี่ ก็ดูเหมือนจะมาไม่ถึง ภายในอุทยานแห่งนี้ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นที่เที่ยว ทะเลสาบ ที่มีมากกว่า 16 แห่งด้วยกัน โดยทะเลสาบทั้งหมดจะเชื่อมต่อไป แต่จะมีทะเลสาบที่ลดหลั่นกันออกไป และในแต่ละจะมีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์ นอกจากจะเป็นที่เที่ยวโครเอเชียที่สำคัญ ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกด้วย

• 

• 

Google Maps

---

2.พระราชวังไดโอคลีเชียน (Diocletian’s Palace)

• 

• 

มาต่อกันที่ที่เที่ยวโครเอเชียแห่งถัดไป “พระราชวังไดโอคลีเชียน (Diocletian’s Palace)” พระราชวังโบราณที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกไปแล้วเรียบร้อย โดยความพิเศษของพระราชวังแห่งนี้ เป็นพระราชวังโบราณขนานแท้ มีสถาปัตยกรรมแบบกรีก และไบแซนไทน์ผสมกัน โดยพระราชวังยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ และเปิดให้นักท่องเที่ยวทั่วไปได้เข้าชม พระราชวังไดโอคลีเชียนเป็นพระราชวังที่ถูกสร้างขึ้นสำหรับจักรพรรดิโรมัน ที่นอกจากจะสวยงาม และยังเป็นที่เที่ยวสำคัญต่อประวัติศาสตร์โลก ดูเหมือนจะเป็นพระราชวัง แต่นอกแนวเป็นป้อมปราการ

Google Maps

---

3.เมืองสปลิท (Split)

• 

• 

ไปเที่ยวพระราชวังไดโอคลีเซียนกันแล้ว อย่าลืมแวะไปเที่ยวที่เมืองสปลิทกัน ขอยกให้เป็นที่เที่ยวแห่งสำคัญของโครเอเชียเลย ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสอง เป็นรองก็แค่กรุงซาเกรบ ที่เป็นเมืองหลวงของโครเอเชียแค่เพียงเท่านั้น โดยเมืองสปลิทนั้นเป็นเมืองชายทะเลที่ใหญ่ที่สุดในอาเดรียดิก มีอายุอานามความเป็นมามากกว่า 2,500 ปีมาแล้ว โดยภายในเมืองก็จะมีที่เที่ยวมากมาย ที่สำคัญคือมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามมาก เพราะตั้งอยู่ชายฝั่งโครเอเชีย ใครยังไม่รู้บินไปโครเอเชียแล้วจะไปเที่ยวที่ไหน แนะนำที่นี่เลย

Google Maps

---

4.ดูบรอฟนิค (dubrovnik)

• 

• 

อันเป็นสถานที่เที่ยวสำคัญของโครเอเชีย เอาเป็นว่าใครบินมาเที่ยวโครเอเชีย ก็ต้องแวะมา เพราะ “ดูบรอฟนิค (dubrovnik)” เป็นเมืองโบราณที่เก่าแก่ และสำคัญมากต่อประวัติศาสตร์ของโครเอเชีย จนได้รับสมญานามว่าเป็น “ไข่มุกแห่งทะเลเอเดรียติก” ด้วยผังเมืองที่ดูเป็นระเบียบเรียบร้อย จึงทำให้เมืองโบราณแห่งนี้ดูคล้ายดังกับเมืองในนิทาน ความโดดเด่นของเมืองดูบรอฟนิคก็คือการบูรณะเมือง จึงทำให้ภายในเมืองนี้มีสถาปัตยกรรมหลายอย่างผสมผสานเข้าด้วยกัน ทั้งแบบเรเนสซองส์ บาโร้ค และแบบโกธิค ด้านในภายในดูบรอฟนิคจะมีทั้งเขตเมืองเก่า กำแพงเมืองที่นักท่องเที่ยวชอบมาเดินถ่ายรูป เพราะจะเห็นวิวทะเลสวยๆ แนะนำเลยว่าจองตั๋วเครื่องบินไปดูโครเอเชีย แล้วต้องไปเที่ยวที่นี่เลย

Google Maps

---

5.กำแพงเมืองดูบรอฟนิค (Walls of Dubrovnik)

• 

• 

หรืออีกชื่อหนึ่ง ก็คือกำแพงเมืองโบราณ ที่มีความยาวประมาณ 1,940 เมตร อันเป็นสถานที่เที่ยวสำคัญอีกแห่งของทั้งดูบรอฟนิค และก็ประเทศโครเอเชีย ถือว่าเป็นจุดเช็คอินที่ใครๆ ก็มาถ่ายรูป เพราะวิวทิวทัศน์บริเวณนี้สวยงามมาก รายล้อมไปด้วยหอทรงกลมมากมาย มีทั้งหอทรงกลม ทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า และทรงจตุรัส ใครที่มาเที่ยวบริเวณกำแพงเมืองเก่า แนะนำว่าให้ชาร์จแบตกล้องมาให้พร้อม ถือว่าเป็นจุดถ่ายรูปชื่อดังที่ต้องมาเยือน

Google Maps

---

6.อุทยานแห่งชาติครักคา (Krka National Park)

• 

• 

อีกหนึ่งอุทยานแห่งชาติที่ใครจองตั๋วเครื่องบินไปโครเอเชีย แล้วอยากให้ไปจริงๆ เพราะขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามแบบยืนหนึ่ง ภายในอุทยานแห่งชาติแห่งนี้จะมีน้ำตกที่ชื่อเดียวกันเป็นไฮไลท์ของที่เที่ยวแห่งนี้ สำหรับอุทยานแห่งชาติครักคา ได้ตั้งอยู่ที่เมืองชีเบนิค (Sibenik) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ใช้เวลาเดินทางไปไม่นาน โดยรวมแล้วภายในอุทยานแห่งชาติเองจะมีทั้งน้ำตก ทางเดินศึกษาธรรมชาติ และเกาะที่อยู่กลางน้ำ มีที่เที่ยวหลายแห่งน่าสนใจ อาจจะใช้เวลาหลายวันถ้าอยากเก็บให้ครบ

Google Maps

---

7.พิพิธภัณฑ์ของคนใจสลาย (Museum of Broken Relationships)

ที่โครเอเชียเองก็มีพิพิธภัณฑ์ที่แปลก และไม่เหมือนใครอยู่หนึ่งแห่ง และยังเป็นที่เที่ยวสำคัญของโครเอเชียอีกด้วย นั่นก็คือ “Museum of Broken Relationships” มีจุดเด่นตรงที่เป็นพิพิธภัณฑ์ของคนใจสลาย หรือคนที่ต้องบอกลากับสถานะความสัมพันธ์ โดยด้านในจะเป็นการรวบรวมสิ่งของที่เกิดขึ้นโดยความสัมพันธ์ที่มีจุดจบคือการบอกลา เปิดเป็นที่แรกที่กรุงซาเกร็บ ประเทศโครเอเชีย ตั้งแต่เมื่อปี 2021 ก่อนจะมีสาขาอื่นตามมา ถือว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ทั้งน่าสนใจ และน่าค้นหาไปพร้อมกัน เป็นหนึ่งในพิพิธถัณฑ์ที่ได้รับความสนใจจากทั่วโลก

• 

• 

Google Maps

---

8.โกลเด้นฮอร์น (Golden Horn Beach)

• 

• 

หนึ่งในชายหาดที่มีความสวยงามอันดับต้นๆ ติดท็อปของประเทศโครเอเชีย ใครที่มีโอกาสจองตั๋วเครื่องบินไปโครเอเชีย บอกเลยว่าต้องไปโดน เพราะไม่ใช่แค่เป็นชายหาดที่เด่นในโครเอเชีย ยังได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในชายหาดที่สวยที่สุดในโลกด้วย เนื่องจากจุดเด่นของชายหาดนี้ จะมีลักษณะเหมือนเป็นแหลมที่ยื่นออกไปในทะเล โดยการเดินทางไปยังชายหาด ตั้งอยู่ไม่ห่างจากเมือง Bol ประมาณแค่ 2 กิโลเมตรแต่เพียงเท่านั้น ความพิเศษอีกอย่างคือลักษณะเฉพาะของชายหาดจะแตกต่างกันไปตามกระแสลม และน้ำ

Google Maps

---

9.มหาวิหารเซนต์เจมส์ (Cathedral of St. James)

• 

• 

โครเอเชียนั้นโด่งดังในเรื่องของมหาวิหารเป็นอย่างมาก เพราะมีมหาวิหารหลายแห่งที่สวยงาม ได้รับการบูรณะ และอยู่ในสภาพดี อย่างเช่น “มหาวิหารเซนต์เจมส์ (Cathedral of St. James)” เป็นมหาวิหารที่ตั้งอยู่ในเมืองซีเบนิก (Sibenik) มีที่ตั้งอยู่ริมทะเล เพราะเมืองนี้เป็นเมืองท่า โดดเด่นตรงที่มหาวิหารได้ใช้เวลานานมากกว่า 100 ปีในการสร้างขึ้นมา แถมยังใช้วัสดุที่เป็นหินทั้งหมด ดังนั้นสถาปัตยกรรมของมหาวิหารเซนต์เจมส์จึงสวยงามมาก ทำให้มหาวิหารเซนต์เจมส์ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกไปเรียบร้อย

Google Maps

---

10.พูลา อารีน่า (Pula Arena)

• 

• 

เป็นสิ่งที่ยังหลงเหลือจากในอดีตให้เห็นถึงปัจจุบัน อันถือว่าเป็นสนามรบโบราณที่ยังอยู่ในสภาพดี และเป็นที่เที่ยวสำคัญทางประวัติศาสตร์ของโครเอเชีย ซึ่งพูลา อารีน่าถือว่าเป็นหนึ่งในหกของสนามต่อสู้ หรือที่เรียกว่า “อารีน่า” ในสมัยจักรรวดิโรมันโบราณ โดยสนามกีฬาแห่งนี้จะมีลักษณะเป็นครึ่งวงกลม มีทั้งหมดสามชั้น และยังเป็นสนามกีฬาโบราณทื่มีหอคอยสี่ด้านครบ ใครที่บินมาเที่ยวโครเอเชีย ต้องห้ามพลาดที่จะมาเยือนที่เที่ยวโครเอเชียแห่งนี้เลย

Google Maps

---

11.ถ้ำสีน้ำเงิน (Blue Grotto)

• 

• 

แม้ว่าสถานที่เที่ยวถ้ำสีน้ำเงินจะมีที่เกาะคาปรี ประเทศอิตาลี แต่ว่าที่โครเอเชียก็มี “Blue Grotto” เช่นเดียวกัน โดยถ้ำแห่งนี้จะตั้งอยู่ที่อ่าว Balun เป็นอ่าวเล็กๆ ในประเทศโครเอเชีย อยู่ทางทิศตะวันออกของเกาะ Biševo ภายในถ้ำนี้จะมีแสงสีฟ้าปรากฎอยู่ โดยแสงสีฟ้าที่เกิดขึ้นจะไม่ได้เกิดขึ้นทั้งวัน แต่จะแค่เฉพาะช่วงเวลาประมาณ 11 โมงเช้า ถึงประมาณ 12.00 เที่ยงเท่านั้น หากใครที่อยากจะไปชม หรือว่าถ่ายรูปกับแสงสีฟ้าสวยๆ ก็อาจจะต้องไปให้ทันเวลา สามารถเดินทางเข้าไปเที่ยวได้ด้วยการนั่งเรือ หรือว่าดำน้ำก็ได้เช่นกัน

Google Maps

---

12.เมืองโทรเกียร์ (Trogir)

• 

• 

ไปเที่ยวโครเอเชียทั้งที ต้องไปเยือนเมืองที่เป็นมรดกโลกให้ครบ สำหรับเมืองนี้ถือว่าเป็นเมืองสมัยโบราณ ที่ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรีก ถ้าหากให้นับอายุอานาม ก็จะมีอายุประมาณ 2,500 ปีมาแล้ว แต่ก่อนในโซนนี้จะเป็นเมืองที่อยู่ในจักรวรรดิกรีก และโรมัน หลังจากที่จักรวรรดิล่มสลาย เมืองเหล่านี้ก็ได้กลายมาเป็นอิสระ ซึ่งจุดเด่นของเมืองนี้คืออยู่ติดทะเล มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามมาก ใครมาเที่ยวก็สามารถเดินเที่ยวชมเมืองได้รอบๆ ทั้งยังถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO ด้วย

Google Maps

---

13.วังเร็กซ์เตอร์ (Rector’s Palace)

• 

• 

พามาเที่ยวกับอีกหนึ่งวังที่มีความสำคัญ และสวยงามไม่แพ้วังอื่นๆ เลยในประเทศโครเอเชีย ตั้งอยู่ในย่านเมืองเก่าของดูบรอฟนิค หากใครได้มีโอกาสมาเยือนดูบรอฟนิค บอกเลยว่าไม่ควรพลาด เพราะเป็นสถานที่เที่ยวสำคัญทางประวัติศาสตร์ เพราะพระราชวังแห่งนี้ทั้งเก่าแก่ และมีความสวยงามไปพร้อมกัน มีความสำคัญตรงที่เป็นที่ปฎิบัติงานของผู้ว่าการเมืองดูบรอฟนิคในอดีต ซึ่งในตอนนี้ก็ได้เปลี่ยนมาเป็นพิพิธภัณฑ์เพื่อให้นักท่องเที่ยวทั่วไปได้เข้าชม ด้านในจะมีทั้งรูปโบราณ อาวุธโบราณ หรืออาคารสถาปัตยกรรมแบบบาโร๊คให้ชมเพียบ

Google Maps

---

14.โบสถ์กรุงซาเกร็บ (Cathedral of Zagreb)

• 

• 

ไปเที่ยวหลายเมืองแล้ว กลับมาเที่ยวที่กรุงซาเกร็บกันบ้าง กับจุดแลนด์มาร์คยอดฮิตที่คนชอบมาเช็คอิน และถ่ายรูปกัน ก็คือ “โบสถ์กรุงซาเกร็บ (Cathedral of Zagreb)” เป็นมหาวิหารที่เก่าแก่ เพราะถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่เมื่อสมัยศตวรรษที่ 13 มีความสูงมากถึง 108 ถือว่าเป็นสิ่งปลูกสร้างที่สูงที่สุดของกรุงซาเกร็บเลยก็ว่าได้ โดยสถาปัตยกรรมหลักของวิหารนี้คือแบบนีโอโกธิก และเป็นการบูรณะขึ้นมาจากชาวเมือง เมื่อครั้งที่โบสถ์เจอความเสียหายจากแผ่นดินไหว เป็นหนึ่งในที่เที่ยวกรุงซาเกร็บที่สำคัญ

Google Maps

---

15.ออร์แกนทะเล (Sea Organ)

• 

• 

ปิดท้ายด้วยที่เที่ยวโครเอเชียสุดชิค ที่บอกเลยว่ามาเยือนโครเอเชียทั้งทีต้องห้ามพลาดที่จะมาเช็คอินบริเวณจุดนี้ ที่สถาปนิก Nikola Bašić ได้เข้าร่วมโครงการออกแบบเมืองใหม่ให้บ้านเกิดที่โครเอเชีย ได้ออกแบบหีบเพลงแห่งท้องทะเล ที่มีความยาวมากถึง 70 ตลอดชายหาดซาดาร์ ซึ่งได้มีการซ่อนช่องลมไว้ด้านใน ทำให้เมื่อคลื่นซัดหาดทรายนี้ ก็จะทำให้มีเสียงดนตรีดังขึ้นมานั่นเอง เนื่องจากช่องลมที่ซ่อนไว้ด้านในทำหน้าที่เป็นเหมือนเครื่องเป่าขนาดใหญ่ ที่ใช้พลังงานคลื่นทะเลในการเป่าลมให้เกิดเสียง ทำให้ที่เที่ยวบริเวณนี้กลายมาเป็นแลนด์มาร์คจุดสำคัญของโครเอเชียที่ใครก็ต้องมาเช็คอิน

Google Maps

---

ไม่ใช่แค่ที่เที่ยวดังต่อไปนี้ แต่ว่าใน โครเอเชีย ยังมีที่เที่ยวโครเอเชียสวยๆ มากมายที่รบเร้นอยู่ รอให้คุณได้ไปค้นหา อันที่จริงแล้วแม้ประเทศโครเอเชียจะไม่ใช่จุดหมายปลายทางหลักของนักท่องเที่ยวมากมาย ในยุโรป แต่ถ้าถามหาที่เที่ยวทางประวัติศาสตร์ และความสวยงามของเมืองที่อยู่ติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ให้กลิ่นอายของความเป็นกรีก และโรมันแบบเบาๆ โครเอเชียถือว่าตอบโจทย์เลยหล่ะ

หากใครกำลังหาแพลนเที่ยว ที่กิน ที่พัก ทริปเดินทาง และยังไม่รู้จะไปไหน สามารถติดตามทริปท่องเที่ยวอื่นๆ จาก 247Journey เพิ่มเติมได้ทาง >> https://247journey.in.th หรือ FB : https://www.facebook.com/247journeyy เลยฮะ

Kinlenn Eatery & Play Ari กินเล่น สาขาอารีย์ – ร้านอาหารไทยสไตล์โมเดิร์น ความอร่อยไม่ใช่เล่นๆ และมีดนตรีสด ฟังชิลได้ทุกวัน

• 

ถ้าพูดย่านอารีย์ หลายคนอาจจะนึกถึงศูนย์รวมร้านคาเฟ่ต่างๆ แต่มีอีกร้านที่ไม่ควรพลาด
ด้วยบรรยากาศมู้ดแอนด์โทนที่มีความชิค ทั้งการตกแต่งที่ดูเรียบง่ายกับสีสันที่ดูสดใส
และเมนูอาหารที่เสิร์ฟมาอย่างสวยงาม เหมาะกับการพบปะสังสรรค์ในโอกาสพิเศษต่างๆ
หรือแม้แต่เป็นร้านประจำก็ดีงาม เพราะที่ร้านมีเมนูหลากหลายที่สามารถมาทานได้ทุกวันแบบไม่มีเบื่อ

• 

Kinlenn Eatery & Play Ari กินเล่น สาขาอารีย์

อาจจะเคยได้ยินผ่านหูผ่านตามาบ้าง เพราะร้านนี้เค้ามีถึง 3 สาขา (อารีย์/ร่วมฤดี/เขาใหญ่)
แต่ละสาขาก็จะมีสไตล์การตกแต่งที่ต่างกันออกไปบ้างเล็กน้อย
ซึ่งเราเองก็เคยไปทานที่สาขาร่วมฤดีมาแล้ว พูดได้เต็มปากว่ารสชาติอร่อยไม่ต่างกันเลย อิอิ

• 

• 

• 

• 

Creativity is FUN.

จุดเด่นของร้านกินเล่นคือความคิดสร้างสรรค์
ทั้งในเรื่องของเมนูอาหารที่สามารถหยิบจับเมนูอาหารที่ทานกันอยู่เป็นประจำ
หรือแม้แต่วัตถุดิบตัวท็อปที่นำมา Mix & Match เป็นเมนูอร่อย

• 

และอีกอย่างที่ต้องยกนิ้วให้คือ Presentation ของอาหารแต่ละจาน
การจัดวาง การนำเสนอในแต่ละเมนู มีความลงตัว โชว์ความน่ารักและมีสไตล์ของทางร้านมาก
ซึ่งทำให้คนทานรู้สึกสนุกสนานไปด้วยเช่นกัน

• 

Food should be FUN.

อาหารที่นี่จะค่อนข้างหลากหลายมาก ทั้งเหนือ กลาง อีสาน ใต้ก็มีให้เลือกครบรส
แค่กางเมนูก็รู้สึกสนุกแล้ว เพราะน่าทานไปหมด ไม่รู้ว่าจะเลือกอะไรดี ฮ่าๆ

มาเริ่มด้วยเมนูเรียกน้ำย่อย ‘ไส้กรอกแซ่บรวมย่างเคียงมันม่วงบด’ ที่แค่สีก็กินขาด
เมนูรวมดาว ทั้งไส้กรอกพริกสด, ไส้กรอกกะเพรา, ไส้กรอกลาบหมู และไส้กรอกแฟรงก์เฟิร์ตเตอร์
เสิร์ฟมาบนมันม่วงบดเนื้อนุ่ม หอมนัวแต่ไม่เลี่ยน ตัดกับรสเค็มและหอมของไส้กรอกแต่ละชนิดได้เป็นอย่างดี
จานนี้ถือว่าเป็นเมนูรองท้อง ที่แชร์ทานได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่เลย

• 

‘ตำข้าวโพดนมสดฮอกไกโดไข่เค็ม’ เมนูฮิตของอีสาน
เปลี่ยนจากข้าวโพดสีเหลืองที่หาทานได้ทั่วไป มาเป็นข้าวโพดนมสมฮอกไกโกที่มี texture หวานกรอบ
คลุกเคล้ากับเครื่องส้มตำและไข่เค็มนัวๆ ได้รสเผ็ดตบท้าย จานนี้อร่อยทานเพลินมากค่ะ

• 

• 

• 

อีกเมนูที่มีความฟิวชั่น ‘โรตีแกงกะหรี่หมูตุ๋น’ ผสมความอร่อยของแกงกะหรี่กับหมูตุ๋นนุ่มๆ
ได้ความหอมมันจากเครื่องแกงและกะทิเข้มข้น ทานคู่กับแป้งโรตีและราดน้ำอาจาดตัดรส ละมุนทุกคำ

• 

• 

พร้อมด้วยเมนูเก๋ตั้งแต่ชื่ออย่าง ‘ก๋วยเตี๋ยวอิตาเลี่ยนผัดเบคอนพริกกระเทียม’
เส้นสปาเก็ตตี้ที่นำมาผสมผสานกับความเผ็ดร้อนของสมุนไพรไทย
ปิดจบด้วยความเค็มนัวของเบคอนและ shreded cheese

• 

• 

อีกเมนูเส้นที่ไม่ควรพลาด ‘มาม่าทะเลเดือด’ จัดเต็มความอร่อยด้วยซีฟู้ดสดๆ
กับน้ำซุปต้มยำน้ำข้นที่ปรุงมาแบบถึงเครื่อง เสิร์ฟมาบนหม้อไฟร้อนๆ ได้ฟีลทะเลเดือดสมชื่อ
ยิ่งม้วนเส้นแชร์กันยิ่งอร่อย เป็นเมนูคลาสสิคที่พิเศษและพรีเมี่ยมมากจริงๆ

• 

• 

ปิดท้ายด้วยเมนูเซิกเนเจอร์ ‘ข้าวผัดกินเล่นซีฟู้ด’ ข้าวผัดสีเหลืองทองที่หอมกลิ่นผงกะหรี่อ่อนๆ
ทานคู่กับซีฟู้ดที่ผัดด้วยซอสสูตรของทางร้าน ทั้งกุ้ง ปลาหมึก หอยแมลงภู่ และปลาแซลม่อนชิ้นโต
รสจะออกหวานนิด เผ็ดน้อย บีบมะนาวตามไป กลมกล่อมไปอีกแบบ

และ ‘กุ้งคั่วกระเทียมพริกเกลือ’ กุ้งทอดตัวใหญ่ ผัดพริกกระเทียมมาแบบแน่นๆ
กุ้งเนื้อสดเด้ง ใครชอบทานกับข้าวรสจัดจ้านแนะนำเลยฮะ

• 

• 

• 

Sweet and FUN

ถึงจะอิ่มแค่ไหน แต่ร่างกายก็ยังต้องการของหวาน ^^
นอกจากอาหารแล้ว ที่นี่ยังมีเมนูเครื่องดื่มและของหวานให้เลือกเยอะมาก
และที่สำคัญคือแต่ละเมนูก็อร่อยไม่แพ้กันเลย

เริ่มด้วยน้ำผลไม้รวม ‘Baby Sangria’ ที่เสิร์ฟมาในขวดแก้วใบใหญ่พร้อมด้วยผลไม้สดนานาชนิด
รสชาติเปรี้ยวอมหวาน เป็น Mocktail ที่ช่วยเติมความสดชื่นได้ดี ดื่มง่ายถูกใจทุกวัย

• 

• 

ส่วนใครที่ชอบทานบิงซูต้องหลงรักเมนูนี้ ‘ปังเย็นน้ำดอกมะพร้าว’
เมนูของหวานสุดครีเอท ที่ผสมความอร่อยของบิงซูกับความหอมละมุนจากน้ำดอกมะพร้าวแบบไทยๆได้อย่างลงตัวมาก
น้ำแข็งใสเนื้อฟูนุ่มที่มีความหอมมัน ก่อนทานเราสามารถตกแต่งด้วยวุ้นรูปจิ๊กซอว์สุดเก๋
โรยด้วยมะพร้าวคั่วเพิ่มความกรุบกรอบ ราดด้วยน้ำตาลมะพร้าวที่มีความหอมเฉพาะตัว
ด้านในตรงกลางมีขนมปังปิ้งด้วยนะ เมนูนี้คือเดอะเบสสำหรับคนรักมะพร้าวอย่างเราเลยจริงๆ

• 

• 

• 

และสำหรับใครที่ชอบทานชา ‘วาฟเฟิลชาไทยใบเตยกรอบ’ อบมาแบบร้อนๆ
ตัวแป้งออกปนวบางกรอบ หอมมัน กลิ่นของชาไทยและใบเตยชัดทุกคำ
เสิร์ฟมาคู่กับไอศครีมรสชาไทยเข้มข้น หวานน้อย หอมแบบดับเบิ้ลไปเลย

• 

• 

และในส่วนของความอลังการและครีเอทยังไม่หมดเพียงเท่านี้
สำหรับใครที่ชอบจิบชายามบ่าย ขอแนะนำ ‘Afternoon Tea Set’ ที่เสิร์ฟมาครบทั้งคาวและหวาน
ซึ่งตอนที่เราไปตรงกับช่วงคริสมาสต์พอดี ทางร้านเค้าเลยตกแต่งเซทให้เข้าธีมด้วย
ไฮไลท์คือมีดรายไอส์เย็นๆ หยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปก็สุดปัง น่ารักกกกกไปทุกอย่างเลย

• 

• 

ในส่วนของเมนู Afternoon Tea Set นี้ ถ้าไม่รู้จะเริ่มจากหยิบอะไรดีเหมือนเรา
ทางร้านแอบกระซิบบอกทริควิธีการทานมาให้ ว่าให้ทานจากบนลงล่าง และในเซ็ตก็จะมีชาร้อนหอมๆให้เลือกตามชอบ
ได้ทานครบทั้งคาวและหวาน อย่างละนิดหน่อยไม่ทำร้ายพุง ถูกใจเราเป็นที่สุด

• 

• 

• 

• 

• 

• 

• 

• 

• 

• 

• 

นอกจากบรรยากาศร้านที่น่านั่งแล้ว ทางร้านยังเพิ่มความพิเศษโดยการสร้างบรรยากาศให้น่าแวะมาทานบ่อยๆเข้าไปอีก จะมี Live Music ดนตรีสดเล่นให้ฟังเกือบทุกวัน (ยกเว้นแค่วันจันทร์กับพุธ) ซึ่งบางวันมีเล่นช่วงกลางวันด้วยนะฮะ ลองติดตามหน้าเพจร้านได้เลย เพลงเพราะๆ บรรยากาศดีๆ อาหารอร่อยๆ เหมาะกับการเป็นร้านประจำที่น่าแวะไปที่สุดเลยล่ะ

และสำหรับใครที่อยากได้บรรยากาศแบบส่วนตัวๆหน่อย เฉพาะที่สาขาอารีย์นี้ ก็มีห้อง private room ไว้ให้บริการด้วยนะฮะ จะจัดมีทติ้งหรือปาร์ตี้ย่อมๆ ก็ได้เลย

• 

• 

สำหรับการเดินทางก็ง่ายมาก ติด BTS สถานีอารีย์เลยฮะ สะดวกสบายมาก เดินลงมาจากสถานีก็ถึงเลย หรือถ้าใครจะขับรถมา ก็มีที่จอดรถรับรองนะฮะ แนะนำให้โทรสอบถามทางร้านก่อนเข้าไปนะฮะ

---

หากใครกำลังมองหาที่เที่ยว ที่กิน ที่พัก ทริปเดินทาง สามารถติดตามพวกเรา 247Journey ได้ทาง >> https://247journey.in.th หรือ Facebook : https://www.facebook.com/247journeyy เลยฮะ

BlackMoon ร้านนั่งชิลล์เปิดใหม่ย่านอารีย์ มีดนตรีสดทุกวัน ถ่ายรูปปังทุกมุม

คืนนี้เจอกันไหนดี? คิดถึงโมเม้นต์วางแผนหาร้านนั่งดื่มกับเพื่อนแบบนี้มาก
หลังจากทำงานมาหนัก ไม่ว่าจะ work from home หรือทำงานที่ออฟฟิสก็ดี ยิ่งช่วงปลายปีแบบนี้
เราว่าหลายๆคนน่าจะกำลังมองหาร้านสำหรับนั่งชิลเพื่อรวมกลุ่มปาร์ตี้อยู่แน่

BlackMoon Bangkok

ปักหมุดร้านนั่งชิลเปิดใหม่ย่านอารีย์ เดินทางสะดวก นั่ง Rooftop ชมวิวรถไฟฟ้า
ร้านเก๋มีมุมถ่ายรูปเยอะมาก จะสายกินหรือสายดื่มก็ตอบโจทย์

• 

• 

• 

• 

จะว่าเป็นร้านลับก็ไม่เชิง เพราะด้วยความใหม่ของร้าน ที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้จัก
กับความเก๋ของการดีไซน์ออกแบบร้าน เพราะที่นี่เคยเป็นโฮสเทลใจกลางเมืองติดรถไฟฟ้ามาก่อน
เราเลยอยากมาแนะนำไว้ให้เป็นอีกทางเลือกนึง เผื่อใครที่อยากหาร้านดีๆ stay up all night กับเพื่อนๆเนอะ

• 

• 

• 

BlackMoon Bangkok จะตั้งอบู่บนชั้น 4 และชั้นดาดฟ้าฮะ
จุดสังเกตที่หลายคนเห็นแล้วต้องจำได้ น่าจะเป็นพระจันทร์ดวงกลมโต
ที่ใครเห็นเป็นต้องหยิบมือถือมาถ่ายรูปสุดปัง อัพลงโซเชี่ยลซะหน่อย

• 

โซน outdoor บนชั้นดาดฟ้า นั่งรับลมแบบชิลๆ ตรงนี้ก็จะมีทั้งโซนที่เป็นโต๊ะเผื่อใครมาเป็นกลุ่มใหญ่
และโซนเคาน์เตอร์บาร์เล็กๆด้านข้าง สำหรับใครที่มาไม่กี่คน
จะได้นั่งชมวิวเมืองตอนกลางคืน พร้อมกับมีรถไฟฟ้าวิ่งไปมา

• 

• 

• 

ตอนค่ำๆถ้าใครอยากเปลี่ยนบรรยากาศ อยากฟังดนตรีสดเพราะๆ สามารถเดินลงมาจอยที่ชั้นล่างได้ด้วย
ความเล่นใหญ่จัดเต็มของที่นี่คือมีวงดนตรีสดมาเล่นสลับเปลี่ยนกันไปทุกวัน!
วันนี้อาจถูกใจเสียงนักร้อง อีกวันอาจถูกใจความหล่อมือเบสของอีกวง แค่คิดก็บันทิงแล้วค่ะ ฮ่าๆๆ
เอาเป็นว่าตอบโจทย์ทุกความเพลิดเพลิน หลากหลายสไตล์ มาฟังทุกวันได้ไม่มีเบื่อ

• 

ในส่วนของเมนูอาหารก็มีหลากหลายสัญชาติ อร่อยจัดเต็มเกินเรื่องมาก เข้าใจคนหิวหลังเลิกงานได้เป็นอย่างดี
ส่วนตัวเราว่าครบเครื่องดีนะ เสร็จงานปุ๊บก็สามารถตรงดิ่งมาที่ร้านได้เลย ไม่ต้องแวะกินอะไรก่อนให้ยุ่งยาก
เมนูที่นี่ก็จัดเต็มอยู่ จะกับแกล้มกรุบกริบ หรืออาหารจานเดียวแบบกินอิ่ม ก็มีหมด

• 

เริ่มด้วยเมนูไทยๆเอาใจคนชอบทานเนื้อกันก่อน ‘ข้าวผัดมันเนื้อ’
เพิ่มความพิเศษให้ข้าวผัดเมนูคลาสสิคที่ทานได้ไม่มีเบื่อ ด้วยเนื้อหั่นเต๋าย่างหอมๆ
ตัวข้าวผัดมาแบบร่วนๆ ทานกับเนื้อฝอยที่ผัดมาอย่างกลมกล่อม ราดพริกน้ำปลาไปด้วยคือฟินมาก

ต่อด้วยเมนูอาหารฝรั่ง ‘Spahetti BlackMoon’ ที่เป็น Signature ของที่ร้าน จะเรียกว่าเป็นจานเด็ดรวมดาวเลยก็ได้
สปาเก็ตตี้เส้นดำซอสครีมไข่กุ้ง ที่เสิร์ฟมาพร้อมกับปลาแซลม่อนย่างชิ้นใหญ่
ซอสของที่นี่จะมีหอมนัวและมีรสเผ็ดอ่อนๆ ซึ่งเราว่าเป็นรสชาติที่ลงตัวกับความเค็มนิดๆของแซลม่อน
พร้อมกับความกรุบของไข่กุ้งที่โรยมาแบบจุใจ ยกให้เป็นเมนูแนะนำที่ไม่ควรพลาดเลย

• 

• 

เอาใจคนรักอปป้ากับเมนูสุดฮิตสัญชาติเกาหลีกันต่อ ‘แซลม่อนดองซีอิ๊ว’
เมนูนี้อาจดูเรียบๆไม่มีอะไรพิเศษมาก แต่จะบอกว่าลองแล้วจะจึ้งมาก
ปลาแซลม่อนดิบแผ่นใหญ่ แล่มาแบบไม่หนามาก ดองซีอิ๊วมาแบบกำลังดี
ทานเข้าข้าวสวยอุ่น ห่อด้วยสาหร่าย ก่อนทานราดน้ำจิ้มซีฟู้ดไปหน่อย อร่อยนัวววววว!

หรือถ้าอยากทานเมนูเบาๆ ‘ยำสลัดทูน่า’ น่าจะตอบโจทย์สาวๆเลยล่ะ
ทูน่าแน่นๆ หอมนัวด้วยน้ำสลัดที่คลุกเคล้าและตัดรสด้วยความเปรี้ยวและเผ็ดแบบไทยๆ
เป็นจานที่ทานแล้วเจริญอาหารแถมดีต่อใจมากจริงๆ

การเดินทางมาที่ร้าน BlackMoon Bangkok ก็สะดวกมากๆ สามารถลง BTS สถานีอารีย์แล้วเดินมาประมาณ 5 นาที
หรือถ้าสะดวกขับรถมา สามารถจอดได้ที่รัมภาแมนชั่น หรือจอดริมถนนหน้าร้านได้ตั้งแต่ 3 ทุ่มเป็นต้นไป
(แนะนำให้สอบถามกับทางร้านก่อน)

• 

เป็นอีกร้านที่ครบเครื่องมาก ทั้งบรรยากาศ อาหาร ดนตรี และมุมถ่ายรูปสุดปัง
เป็นอีกจุดนัดพบที่สามารถมานั่งชิลหลังเลิกงานได้แบบไม่มีเบื่อ

---

หากใครกำลังมองหาที่เที่ยว ที่กิน ที่พัก ทริปเดินทาง สามารถติดตามพวกเรา 247Journey ได้ทาง >> https://247journey.in.th หรือ Facebook : https://www.facebook.com/247journeyy เลยฮะ