พบกันอีกครั้งนะฮะ ! ช่วงนี้โผล่หน้ามาให้เห็นกันบ่อย อิอิ
จริงๆทริปนี้ต้องบอกว่าเป็นทริปพิเศษสุด Exclusive มากจริงๆฮะ
พอดีพี่ๆทางโรงแรม De Botan ศรีนครินทร์ ได้มาชักชวนไปงานเลี้ยงครบรอบของโรงแรม
(บอกเลยว่าดีใจมากกกฮะ ขอบคุณทางโรงแรม De Botan อีกครั้ง ณ ที่นี้) >/<
และแน่นอนน.. ถ้าเป็นเรื่องเที่ยวเราก็ไม่มีทางพลาด 55555
ก็เลยลองจัดทริปสั้นๆเผื่อใครที่สนใจเที่ยวกรุงเทพฯ แบบ 1วัน 1 คืนเต็มๆ มาให้ดูเป็นไอเดียเบื้องต้นฮะ!
.
ก่อนอื่น มาทำความรู้จัก โรงแรมกันก่อนดีกว่าเนอะ
De Botan
โรงแรมเดอ โบตั๋น ศรีนครินทร์ ตั้งอยู่ที่ ซอยศรีนครินทร์ 40 ฮะ
โลเคชั่นของโรงแรมนี้ ต้องบอกว่าอย่างเจ๋ง
เพราะถ้าพูดถึง ห้างซีคอนฯ ทุกคนคงรู้จักกันดีแน่นอนเลย ใช่ไหมล่ะ!
นั่นแหละฮะ..อยู่ตรงข้ามกับห้างซีคอน ศรีนครินทร์เลย
เรียกได้ว่าถ้าขึ้นไปบนดาดฟ้าโรงแรมเนี่ย สามารถยื่นมือไปจับป้ายซีคอนได้เลย(ก็เว่อร์ไป 55555)
ที่นี่เค้าเป็น Service Apartment และ เปิดเป็นโรงแรมให้พักรายวันด้วยฮะ
จุดเด่นที่นอกจากเป็นเรื่องของโลเคชั่นที่ดีงามมากๆแล้ว
ยังมีไฮไลท์จากวิวเจ๋งๆบนดาดฟ้าโรงแรมด้วยเน้อออ
.
.
ไม่รอช้า มาดูบรรยากาศของโรงแรมต่ออ!
เริ่มจากด้านล่างเลย พื้นที่โรงแรมไม่ได้ใหญ่มากฮะ แต่มีความกิ๊บเก๋อยู่
ด้านหน้าก็ทำเป็นล็อบบี้เหมือนโรงแรมทั่วไป พอเดินเข้ามาหน่อยจะเป็นร้าน Dr.Pizza
รีวิวร้าน Dr.Pizza ตามมาดูได้ที่นี่เลยยย! >> pantip.com/topic/35766363
บริเวณร้านพิซซ่าเนี่ย ก็เป็นโซนสำหรับเสริ์ฟอาหารเช้าด้วยเน้ออ
..
มาดูในส่วนของห้องพักกันฮะ!
ในโซนของห้องพัก ชั้น 2-6 จะเป็นส่วนของอพาร์ทเมนต์รายเดือน
และโลเคชั่นของ De Botan เนี่ย มันใกล้กับวิทยาลัยแห่งหนึ่งฮะ
ที่นี่ก็เลยจะเต็มไปด้วยหนุ่มสาว ซึ่งถือว่าดี! 55555
อีกอย่างคือที่พักค่อนข้างใหม่พอควร คิดซะว่าถ้ามีเพื่อนมาแชร์ค่าห้องกัน
เรทราคาที่นี่ ถือว่ารับไหวอยู่ฮะ (เมื่อเทียบกับค่าเทอม ฮ่าๆ)
สำหรับ ชั้น 7-8 ก็จะเป็นส่วนของรายวันฮะ
ห้องก็จะมีทั้งหมด 3 แบบให้เลือกด้วยกัน ตามความชอบเลยยย..
Standard/Deluxe/Junior Suite
ส่วนใหญ่ที่นี่เค้าจะมีจัดโปรโมชั่น ประจำเดือนอยู่ล่ะ
อย่างช่วงที่ไปคือจะลด 25 % จะเหลืออยู่ประมาณ 1,300 – 1,500 บาท/ห้อง
และที่สำคัญราคานี้รวมอาหารเช้า บริการฟิตเนส/สระว่ายน้ำ และ Free Wifi !
ส่วนตัวคิดว่าราคากำลังเวิร์คเลยนะ เมื่อเทียบกับบรรยากาศที่ได้
ความสะอาดของห้องพัก Facilities ครบครัน และโลเคชั่นก็สะดวกในการเดินทางฮะ
และก็มาถึงไฮไลท์ของโรงแรม คือ ชั้นดาดฟ้า
ที่นี่เค้าเนรมิตพื้นที่ชั้นบน ให้ดูเป็นอีกลุคหนึ่งของโรงแรมเลย
มีโซนให้นั่งพักผ่อน อ่านหนังสือ นั่งทำงานชิลล์ๆริมสระ
ดูสาวๆใส่บิกินี หนุ่มๆเล่นฟิตเนส กันแบบยาวไป 55555
นี่ไงฮะ..ยื่นมือออกไปจับป้ายซีคอนสบายๆ 555555
..
อย่างที่บอกไว้ตอนแรก ว่าทางโรงแรมเค้ามีจัดงานเลี้ยงครบรอบ 1 ปีของทางโรงแรมฮะ
ตอนแรกก็นึกว่าจะเป็นอารมณ์แบบ Staff Party
ป่าวเลยยยย..ทางโรงแรมเค้าจัดเหมือน Thank You Party ขอบคุณลูกค้านะจ๊ะ
โห..สุดยอดป่ะล่ะ! ใครที่พักที่นี่ก็ถือว่าโชคดีไป 55555
ช่วงเช้าก็จะจัดเป็นงานทำบุญเลี้ยงพระฮะ ไฮไลท์อยู่ที่ช่วงค่ำ
สระว่ายน้ำตอนกลางคืน พอจัดงานนี่คือ ดูดีสุดดด นึกว่าอยู่ Pool Party !
ในงานจะมีมินิคอนเสริ์ตของพี่ป๊อป ปองกูล รวมถึงกิจกรรมแจกรางวัล
เรียกได้ว่าคืนความสุขให้แก่ทุกคนของจริง!
ขอจับมือค่า..พี่ป๊อบบบบ ฮ่าๆๆ เรียกได้ว่ามอบความสุขฟินไปทั้งคืน
โดยสรุป จุดเด่นของที่นี่ อย่างที่บอกว่าไปฮะว่ามันเป็นเรื่องของโลเคชั่นเนอะ
ใกล้ห้างมากๆ ใครที่มาทำงานแถวศรีนครินทร์ บอกเลยที่นี่เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจฮะ
วิทยาลัยดุสิตธานี /ซีคอน /Paradise Park/ ตลาดนัดรถไฟ/ สวนหลวง ร.9
เนี่ยแหละ สุดยอดทำเลทองของย่านนี้!
..
มาต่อกันเลยฮะ สำหรับทริปนี้ แพลนคร่าวๆ ของเรา
ขอเซย์กู้ดบายบรรดาห้างสรรพสินค้า
แต่จะพาไป..สูดอากาศบริสุทธิ์กันที่
สวนหลวง ร.9
เป็นอะไรที่อลังการงานสร้าง นอกจากพื้นที่ที่กว้างใหญ่แบบมหึมา
เป็นสวนสาธารณะที่ด้านในเปิดเป็นสวนพฤกษศาสตร์ต่างๆ
ได้รับการการันตีจาก Wikipedia ว่า
เป็นสวนสาธารณะและสวนพฤกษศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพมหานคร
จริงๆที่นี่ สามารถเที่ยวเต็มๆได้เลยทั้งวันเลยฮะ สำหรับสายบ้าพลัง 555
แต่รอบนี้อยากเที่ยวชิลล์ ขอเดินเล่นเก็บภาพแบบสบายๆดีกว่า
เราเริ่มเดินจากประตูตรงตลาดเช้าสวนหลวงฯ (ประตูมณฑารพ) ฮะ
ซึ่งจุดแรกที่เดินมาเจอเลยจะป็นหอพฤกษศาสตร์
ตอนแรกเห็นไกลๆ ค่อนข้างหลอน แต่ป่าวเลย ด้านใน มีแต่อะไรเจ๋งๆเพียบบบ!
เหมือนสวรรค์มาโปรด เดินดุ่มๆๆเข้าไปได้เจอกับพี่หงส์ ซึ่งเป็นทีมงานของหอพฤกษศาสตร์
สอบถามข้อมูลคร่าวๆเกี่ยวกับที่นี่ หนำซ้ำยังได้รับลายแทงของสวนหลวง ร.9 มาช่วยชีวิตอีกด้วย !
ทางพี่หงส์บอกว่า เวลาเดินให้เริ่มจากสวนพฤกษศาสตร์
และให้ยึด ตระพังน้ำ อยู่ทางขวามือฮะ จะได้วนกันง่ายๆ ไม่หลง อิอิ!
..
สวนพฤกษศาสตร์
โซนของสวนพฤกษศาสตร์ ยังแบ่งเป็นสวนย่อยๆอีกเยอะนะ
มันเป็นโซนที่รวบรวมทุกอย่างเกี่ยวกับพันธุ์ไม้
ไล่ไปตั้งแต่ข้อมูลเอกสาร ตัวอย่าง ไปจนถึงการจัดแสดงพันธุ์ไม้หลายชนิดมาก
…
สวนจีน
มันเป็นแค่หนึ่งในหมวดสวนนานาชาติ ของสวนหลวงเท่านั้นฮะ
ซึ่งคอนเซปต์ของสวนนานาชาติ คิดว่าน่าจะเป็นดึงความเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละภูมิประเทศออกมา
และถ่ายทอดผ่านการจัดสวนให้ได้เห็นกันเนี่ยแหละ!
สวนน้ำ
ที่นี่ไม่ได้มีสไลเดอร์หวาดเสียวใดไว้ให้ร้องกรี๊ดดดฮะ
แต่จะเป็นพื้นที่ตามพระราชดำริ เพื่อจำลองพื้นที่ให้คล้ายกับ พรุ ตามธรรมชาติ
ใช้เพื่อศึกษาสภาพธรรมชาติและเหมาะแก่การพักผ่อนมากเช่นกัน!
อย่างที่บอกฮะ พื้นที่มันกว้างมากจริงๆ และมีอะไรให้ศึกษาอีกมาก
ที่สำคัญเลย.. ในทุกๆปี ช่วงวันที่ 1-10 ธันวาคม
ทางสวนหลวง จะมีการจัดงานพรรณไม้งามอร่ามประจำปี
..
และแม้ปีนี้ ทุกอย่างจะเปลี่ยนไป แต่เราคิดว่าที่นี่ก็ได้ทำหน้าที่ของตัวเองต่อฮะ
ปีนี้ทางสวนหลวง ก็ยังมีการจัดงานประจำปีเช่นเดิม
แต่นอกจากกิจกรรมในงานจะมีการปลูกไม้ดอกต่างๆ ประดับภายในสวนแล้ว
สิ่งที่เพิ่มมาคือจะมีการทำบุญตักบาตร และมีการสวดมนต์นั่งสมาธิเจริญจิตภาวนา
เพื่อน้อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชด้วยฮะ
ถ้าใครสนใจก็แวะกันมาได้นะ !
..
Noted :
- มาเที่ยวก่อน 9 โมงเช้า จะเข้าฟรีฮะ หลังจากนั้น จะเสียค่าผ่านประตูคนละ 10 บาท
- แนะนำให้มาวันอาทิตย์ จะมี Shuttle Bus บริการภายในสวนหลวง สามารถดรอปลงตามจุดที่อยากลง (10.30 – 17.30น.)
- ค่าบริการ 10 บาท/คน และเก็บตั๋วเอาไว้ รอโบกรถอีกครั้งเพื่อไปต่อ อิอิ
- ถ้ามาวันอื่นที่ไม่ใช่วันอาทิตย์ และคิดว่าเดินก็ไม่รอดแน่ๆ สามารถติดต่อที่สำนักงานมูลนิธิสวนหลวง จะมีบริการเช่ารถ นั่งรถชมบรรยากาศ รอบสวนหลวงด้วยฮะ ราคาเหมาอยู่ที่ /รอบ (6ที่นั่ง) และ 360.-/รอบ (15 ที่นั่ง) *ชมสวนอย่างเดียวไม่มีแวะจอดนะฮะ
แวะหลบร้อนกันซักนิด มานั่งพักจิบกาแฟหาขนมอร่อยกินกันก่อนดีกว่า
ASO Coffee
ร้านนี้เป็นร้านเล็กๆ อยู่ตรงทางเข้าสวนหลวง ร.9 เลย
ในซอยศรีนครินทร์ 55 (ชื่อซอยนะ ไม่ได้ขำ ฮ่าๆๆๆ) นี่ล่ะฮะ
แค่เปิดประตูเข้ามา กลิ่นกาแฟหอมตลบอบอวน ทำให้รู้สึกสดชื่นสุดๆ
ร้านนี้ก็เหมือนคาเฟ่ชิคๆกลางเมืองทั่วไป ตกแต่งแบบเรียบง่าย น่านั่งพักผ่อน
แต่จุดเด่นของร้านนี้คือ ด้านในร้านจะมีเครื่องคั่วกาแฟตั้งเท่ๆอยู่ แต่ไม่ได้เท่อย่างเดียวนะ..
เพราะที่นี่เค้าปลูกและคั่วกาแฟเองเลยฮะ
บวกกับความใส่ใจและพิถีพิถันในการชงกาแฟแต่ละแก้ว
มันเป็นเสน่ห์เล็กๆที่คอกาแฟไม่ควรพลาด..
ถ้าใครมีผ่านไปแถวนั้น ก็ลองไปชิมกันดูนะฮะ!
เอ้า..ถ้าใครยังไม่หมดแรง อยากจะไปเดินเล่นกันต่อ
ถ้ามาย่านนี้ สิ่งที่ไม่อยากให้พลาดคือ ตลาดนัดกลางคืนที่ใหญ่ที่สุดในย่านนี้
..
ตลาดนัดรถไฟ ศรีนครินทร์
จริงๆตลาดนัดรถไฟเนี่ยมีหลายสาขาเลยนะ แต่ถ้าเป็น Original ต้องที่นี่แหละ!
สาขานี้เป็นสาขาแรกที่ย้ายมาจากจตุจักรเมื่อหลายปีก่อน แต่ความชิคยังคงเหมือนเดิม
เพราะขึ้นชื่อว่าตลาดรถไฟแล้ว สิ่งที่โดดเด่นกว่าที่อื่นเลยคือความคลาสสิค
…
ที่นี่จะแบ่งออกเป็นโซนๆเลยฮะ
มาดูโซนแรกกันก่อน คือโซนพลาซ่า โซนนี้เปิดวันอังคาร-วันอาทิตย์
ส่วนใหญ่จะเป็นร้านขายของทั่วไป พวกเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า บลาๆๆ
แต่ที่สะดุดตาคือร้านนี้
ทางร้านตกแต่งจำลองบรรยากาศร้านของชำสมัยก่อน ที่ๆคนมานั่งพักนั่งคุยไปพร้อมกับจิบชากาแฟไป
แต่อินเทรนด์ขึ้นมาอีกนิดเพราะที่ร้านมีขายพวกขนมปังปิ้งและน้ำแข็งใสด้วย
ยังไม่หมดแค่นั้น เหลือบหันไปเจอความใหญ่อลังการภาคต่อ
โซนนี้จะเป็นโซนตลาดนัด จะเปิดทุกวันพุธ ศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ นะฮะ
โซนนี้จะเป็นเหมือนพวกร้านค้าแผงลอย ตั้งเรียงรายยาววววเป็นล็อคๆเลยฮะ
ของใช้ต่างๆ พวกเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้าก็มีให้เลือกช็อปเยอะเลย
มีหลายแบบหลายสไตล์ปนกันไป ทั้งมือ1และมือ2
ใครตาดีมองเห็นของสวยๆในราคาถูกบอกเลยว่าต้องรีบคว้ามาไว้ครอบครอง
เดินไปเรื่อยๆชักเริ่มหิว และที่นี่มันคือสวรรค์ของคนหิวชัดๆ 555
จะของคาวของหวานคือเรียกได้ว่าครบ กินกันจนจุกเลยก็ว่าได้
หนุ่มๆที่มารอสาวๆช็อปปิ้งก็ไม่ต้องกลัวว่าจะเบื่อ ที่นี่ยังมีโซนจัดแสดงรถยนต์โบราณด้วยฮะ
เชื่อว่าน่าจะเป็นความใฝ่ฝันของลูกผู้ชายหลายๆคน ที่อยากจะมีไว้ครอบครองซักคัน
แต่ละคันงามหยดย้อยและหาชมได้ยาก แต่ที่นี่เค้าให้เข้าชมฟรีๆ
จะถ่ายรูปเซลฟี่กับรถ หรือเซลฟี่กันเองก็ไม่มีใครว่า 555555
อ้อ! ที่นี่เค้าจะมีโชว์ด้วยนะฮะ หมุนเวียนไปเรื่อยย
ลองเช็คดูอีกทีนะ อย่างวันที่ไปของเราตรงกับแสดงโชว์ตีกลอง
ดูเพลินๆมันส์ๆ จนอยากจะออกไปร่วมรำหน้านาค เอ้ย ร่วมวงด้วยเลยยย!
ด้านในก็จะมีโซนโกดังด้วยฮะ โซนนี้จะเป็นร้านตกแต่งสวยๆ
ขายทั้งเฟอร์นิเจอร์โบราณวินทจ เดินดูแล้วเพลินมากๆ
มีร้านอาหารและร้านนั่งชิลล์ด้วยฮะ นั่งฟังเพลงแล้วจิบเบียร์เย็นๆ
ปิดจ็อบจบทริปวันนี้ไปแบบชิลล์ๆ
หลังจบทริปนี้ ทำให้เรารู้ว่ากรุงเทพฯเนี่ย น่าจะมีอะไรให้ค้นหาอีกเยอะเลย
จากเด็กฝั่งธน ข้ามมาโซนฝั่งนี้ บอกเลยว่าเป็นอีกวีคเอนด์ที่ประทับใจ
ที่สำคัญไม่ต้องไปไหนไกล นั่งรถมาแป๊บเดียวก็ถึง อิอิ
และสำหรับใครที่เสาร์ – อาทิตย์นี้ยังไม่มีที่เที่ยวนะฮะ
“ศรีนครินทร์” เป็นอีกที่ที่ไม่ควรมองข้าม
ยังไงก็ลองชวนคนข้างๆออกมาเที่ยว
มาสัมผัสความเจ๋งของกรุงเทพฯกัน!