TAIWAN : ชวนเที่ยวไต้หวัน 6 วัน 5 คืน แบบสายธรรมชาติที่จะพลาดไม่ได้
นี่คือรีวิวทริปต่างประเทศครั้งแรกเลยฮะ ตื่นเต้นแบบบอกไม่ถูกกก 5555
จะบอกว่าเป็นเดทก็ไม่ใช่ ฮันนีมูนก็ไม่เชิง อร๊ายยยย >/<
‘ไต้หวัน’ เป็นประเทศในฝันในใจมาแสนนานน
เริ่มจากเก็บเงินเดือนละพันห้า พันห้าจริงๆเว้ยยย ค่อยเป็นค่อยไป
ตกลงกับแฟนตั้งแต่สมัยมุ้งมิ้ง งุงิ ว่าจะไปด้วยกันให้ได้ และวันนี้ฝันก็เป็นจริงอ่ะ
ไม่ได้ทำไรมากก แค่เก็บเงินฮะ 555555
..
และก็ได้เริ่มเรื่องราวของทริปนี้
Valentine’s Activities ที่ไต้หวัน พาแฟนไปปีนเขา
ชมวิวสวยๆ กินแซนวิสบนสันเขาเนี่ยยโรแมนติคสุดด ฮ่าาาาาาา
แพลนก็ตามนี้เลยยยย!
รีวิวนี้เหมาะมากสำหรับคนรักสายธรรมชาติ จะพาออกนอกเมืองตลอดด 5555
และใครที่เป็นมือใหม่จัดทริปบอกเลยว่าไม่ต้องห่วง
เป็นประเทศที่เที่ยวง่าย ไปได้จริง!
..
ก่อนอื่นขอสรุปงบคร่าวๆไว้ให้เข้าใจกันง่ายๆตามนี้เลยฮะ
ทริปนี้ไม่เน้นหรู แต่ก็ไม่เน้นลำบากมาก
เน้น Street Food หรือจะเป็นชาบูก็มีบ้าง
นอนโรงแรมทุกคืนฮะ ชอปปิ้งก็พองาม จะไปหนักก็ตรงตั๋วเครื่องบิน ที่อยากลองของฮะ
ยังไงอ่ะหรออ..เค้ามีบินตรงไม่บินไง อยากสัมผัส สายการบินห้าดาว
ไปเจอกับฮ่องกงแอร์ไลน์ ไป-กลับ อยู่ที่ 7500 ต่อคน ต่อเครื่องสามชั่วโมง
เอ้าา แลกกับช่วงหยุดยาว ราคานี้ยอมค่าาาา 5555
ป่ะ…ถ้าพร้อมแล้ววว ไปสัมผัสความเจ๋งของไต้หวันกัน!
.
สำหรับใครที่ชอบเที่ยว หาแพลนเที่ยวอยู่เรื่อยย
ไปหาทริปเที่ยวต่อกันได้ที่ เพจ 247Journey นะฮะ
24 ชั่วโมง 7 วัน ทุกๆวันคือการเดินทาง อิอิ
เราเดินทางช่วงวันที่ 9 – 15 กุมภาพันธ์ 2560 ฮะ
ตั้งใจเลือกให้คาบเกี่ยวช่วงวาเลนไทน์พอดี๊
Day 1
เราบินไฟลท์ ตี3ครึ่ง ถึงฮ่องกงประมาณ 7โมงเช้า
และบินจากฮ่องกงตอน 9 โมง ถึงไทเปก็เกือบ 11 โมงล่ะฮะ ค่อนข้างเพลียย 555555
เนี่ยแหละฮะ สายการบินห้าดาวที่อยากลองของ
HK Airlines มาคอนเฟิร์มอีกเสียงว่า ก็ได้อยู่ววว
ที่นั่งกว้างขวาง ยืดขาสบายย มีเกมส์ให้เล่น มีหนังให้ดู
มีผ้าห่มนุ่มนิ่ม ขอหมอนเพิ่มยังได้ บินไป 3 ชั่วโมงกว่าๆก็ถึงฮ่องกงแล้วว
และนี่ก็คือ ขนมปังก้อนเดียว ในตำนานนนน เสริ์ฟก้อนเดียวจริง คอนเฟิร์มม 5555
Noted : ที่สนามบินฮ่องกง ที่นั่งเค้ามีปลั๊กให้ใช้ สายUSBก็เสียบชาร์ตได้เลย
มี Wifi มีบลาๆๆๆ รู้สึกถึงคุณภาพชีวิตคนเมืองไปอีกขั้น
..
แท๊แด่..ขอตัดภาพมาที่สนามบินเถาหยวนเลยยย
พอลงเสร็จปั๊ป เดินออกจาก Gate มาเรื่อยๆ หาซื้อซิมการ์ดฮะ
เลือกตามใจชอบ การันตีอีกเสียง 4G ที่นั่น ไวบรื๊ออออออ
ราคาซิมการ์ดตามนี้เลยฮะ
ทั้งนี้ทั้งนั้น เงินไต้หวันดอลเนี่ยย พอๆกับเงินบาท คิดง่ายๆเวลาไปเที่ยว 1 NT$ เท่ากับ 1 บาทไทย
หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจซิมการ์ด เราก็มุ่งไปหา รถบัสเพื่อเข้าเมืองไทเปฮะ ไปตั้งหลักกลางเมืองกันก่อนน
การเดินทาง : วิธีการเดินทางจากสนามบินเถาหยวน เข้าสู่เมืองไทเปมีหลายวิธีฮะ
อัพเดทล่าสุดคือ Airport MRT เปิดให้ใช้บริการแล้วฮับบบ เราว่ามันสะดวกสุด
แต่ตอนที่เรายังไม่ได้เปิดให้บริการฮะ เลยใช้เป็นวิธีนั่ง Bus แทน ซึ่งสามารถเดินทางได้ตลอด 24 ชม.เลยย
.
เราเดินตามป้าย Bus to City ก็จะเจอจุดขายตั๋ว มองหาตัวเลขสี่ตัวท้าย 1819 เพื่อเล่นหวยย #ผิด
มันคือสายรถบัสที่จะเดินทางเข้าสู่เมืองไทเป ซึ่งจุดหมายของเราคือสถานี Taipei Main Station ฮะ
มาๆๆพอเห็นรถบัสปุ๊ป รีบพุ่งตัวว ขึ้นก่อน นั่งก่อนฮะ
ตรงไหนก็ล่ายยย เอาที่สบายยจายย ส่วนกระเป๋าก็ไว้ข้างล่างใต้รถฮะ เหมือนรถทัวร์บ้านเฮาาา
รถจะจอดตรงสถานี Taipei main station เลยฮะ
.
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า ทำไมถึงเลือกมาดรอปลงที่ Taipei Main Station ?
คืออย่างงี๊ Taipei main station มันเป็นศูนย์รวมการเดินทางทุกแห่งหนฮะ
ทั้ง TRA(รถไฟ)/HSR(รถไฟความเร็วสูง)ที่วิ่งไปเมืองอื่นๆทั้งเกาะไต้หวัน
หรือจะเป็น MRT(รถไฟฟ้า) ที่วิ่งไปจุดต่างๆในเมืองไทเป
มันจึงเหมือนเป็นแหล่งพักพิง ที่เหมาะเลยกับคนเดินทางไปต่างเมืองอย่างเรา ก็จะเซฟค่ารถไปได้อีกนิด
สำหรับที่พักคืนแรก เราเช็คอินกันที่ Main Inn Taipei 梅樓驛站 ฮะ
ห่างจากสถานี Taipei Main Station 5 นาที
หาไม่ยากฮะ เปิด Google Map ล่ะเดินมาเลยย หรือจะหาทางออก Taipei City Mall Y11
เราได้ราคามาที่ 1500 บาทฮะ แม้ห้องพักจะไม่ใหญ่มาก
แต่สะอาดและดีงามมากก บริการเยี่ยมมมม มีความเป็นห่วงเป็นใย 5555
เช็คอินเก็บกระเป๋าเสร็จ ท้องก็ร้องดังมาก ขนมปังก้อนเดียวหมดฤทธิ์ซะล่ะ ฮาาาาา
ประเดิมกันด้วย Street Food ร้านแรกในไต้หวัน!
เราก็เป็นอีกตัวอย่างฮะในการมาเที่ยวไต้หวันแบบไม่รู้ภาษาจีนเลยยย 5555555
ด้วยความมั่นใจแบบเต็มเปี่ยม ทุกคนน่าจะเข้าใจที่เราสื่อสาร (มองโลกแบบเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาลสุด 55555)
ภาษามือหรืออะไรใช้ไปเหอะ แต่บางทีอาจจะอยู่ในโลกตัวเองมากไป
โลกความจริงคือป้า เค้าไม่เข้าใจเราไง ว่าจะเอาอะไร หนูจะกินอะไร หืมมมมม!?
สุดท้ายคือชี้เท่านั้นจ้าาา ชี้ไปหาคนที่เค้ากินอยู่ดีกว่าาา แฮ่
และเราก็ได้ชามนี้มา ก๋วยเตี๋ยวที่เรียกว่าอะไรก็ไม่รู้
น้ำซุปมันจะหนืดๆอารมณ์คล้ายกับราดหน้าหรือกะเพราะปลาซักอย่างง
ใครบอกของกินไต้หวันอร่อยยย เอาเป็นว่าแล้วแต่คนชอบเนอะ 5555555
รสชาติจะจืดๆหน่อยฮะ ปรุงพริกใส่ซอสเพิ่มกันไปตามใจชอบ
อีกจาน ก็ไม่ต่างจิ้มจากคนนั่งข้างๆ จัดแบบแห้งมาบ้าง
มันเหมือนก๋วยเตี๋ยวหลอดในกระทงสีน้ำตาลหน้าโรงเรียนตอนเด็กๆมาก
ไม่รู้ว่าใครเคยกินแบบเรามั๊ยอ่ะ
เส้นหมี่ ถั่วงอก ราดหมูในซอสดำๆ เอออ อันนี้อาหย่อยยย
อ่ะ ร้อยทั้งร้อย คนมาเที่ยวไต้หวัน ต้องยอมสิโรราบให้กับชานม 7-11 เนี่ยยยย
เห็นหน้าตาจืดชืดหยั่งงี๊ ไม่ได้อ่อย แต่อร่อยจริง จริ๊งง
MILK TEA เหมือนชานมไข่มุกบ้านเรา
แต่ต่างกันที่มันไม่มีไข่มุก และ หอมละมุน หวานน้อยๆค่อยๆเป็นเบาหวานนทีละนิดด 555555
..
และแน่นอนการเดินทางทริปนี้ ส่วนใหญ่ เราใช้บัตร Easy Card ฮะ
เพื่อความสะดวกในการเดินทาง ขึ้นบัส ขึ้นรถไฟฟ้า ซื้อของในแฟมิลี่ มาร์ท ได้หมดดด
Noted : ค่อยๆทยอยเติม ที่คาดว่าจะใช้นะฮะ 300 บ้าง 200 บ้าง เพราะตอนไปขอคืนเงินและค่ามัดจำ จะมีค่าธรรมเนียมด้วย
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Easy Card เราแนะนำ Link นี้ >> https://pantip.com/topic/34288482
สถานที่แรกและที่เดียวในวันนี้ที่เราจะไปกันก็คือออ
จิ่วเฟิน (Jiufen Old Street)
สถานที่เที่ยวยอดฮิตเมื่อไปเที่ยวไต้หวัน อารมณ์คนต่างชาติมาเที่ยวเมืองไทยและต้องไปพัทยา
จิ่วเฟิน ก็ประมาณนั้น ฟิลลิ่งแบบ Walking Street นักท่องเที่ยวล้วนนนจ่ะ เซย์ไฮ!
วิธีการเดินทาง : เรานั่ง MRT จากสถานี Taipei Main Station ไปลงที่ Zhongxiao Fuxing Exit 1
เดินขึ้นมาปุ๊ป หันหลังกลับปั๊บ และเดินย้อนขึ้นไปเลย หลังจากนั้นเลี้ยวซ้ายที่มุมถนนนี้เลยนะ
และก็เดินดุ่มๆๆๆไปเรื่อยจะเจอกับร้าน B MORI จะเจอป้ายรถเมล์อยู่ มีคนยืนมุงๆเยอะๆน่ะ
ไปเช็คหน่อยจิ ว่ามี 1062 มั๊ยย ถ้าใช่ยืนรอโลดดดดด
ต่อคิวแบบสวยงามขึ้นรถค่าาาา
ราคาค่าโดยสารประมาณ 100 NT$ ลงที่ Jiufen Old Street เลยยย
วันที่เราไปลมแรงมากกกฮะ หนาวเหลือเกินพี่ชายยยย
ลงจากรถปุ๊ป ต้องวิ่งหาที่ซ่อนตัวแปบ มุ่งเข้าแฟมิลี่ มาร์ท
โอ้ สวรรค์ มันไม่ใช่อะไรนะ แต่แบบข้างในมันอุ่นนน 55555
แต่ที่พีคไปกว่านั้นนน คือเราไปเจอนี่..
โซนนั่งด้านใน ขอมอบรางวัลให้ แฟมิลี่ มาร์ท ที่นี่ วิวสวยที่สุดในโลกกกกก วู้ววววว
คือนั่งจิบกาแฟ มองลงไปแล้วเห็นวิวประมาณนี้ หน่อวววววว มันใช่อ่ะ มันใช่ 55555
หลังจากนั้นก็เริ่มเดินลัดเลาะกันเรื่อยเปื่อยฮะ
โคมแดง คือ ซิกเนเจอร์ของจิ่วเฟิน
ถ้าจะให้พูดถึงความประทับใจที่จิ่วเฟิน มีอย่างหนึ่งที่เราชอบมาก และ แนะนำให้ไปลอง!
นั่นคือ ไอติมโบราณ อารมณ์แบบแป้งโรตีอ่ะ
มีถั่ว และ ก็ไอศครีม โรยหน้าด้วยผักชี อร่อยมากกกกก อร่อยแบบไม่คิดว่ามันจะอร่อยยย ติดใจจริงงง
ราคา : 40 NT$
เดินเล่นไปเรื่อยฮะ และไปเจอซอกนึง น่าจะเป็นทางเข้า Guesthouse เท่ดี
แต่โผล่ออกมานึกว่าอยู่ปูซาน เอ้ออ..สวยยยย
ธรรมชาติของไต้หวัน มันมหัศจรรย์ดีอ่ะ มองไปทางไหนก็ดูสดชื่น มันเป็นเขาลูกใหญ่ทั้งนั้นเลยฮะ
สำหรับเรา จิ่วเฟิน ไม่ได้หวือหวามากกฮับบ
เป็นถนนโบราณ มีอาหารขายเยอะมากก คาเฟ่สไตล์ใหม่ๆแทรกบ้าง ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวทั้งนั้นฮะ
ซึ่งถ้าใครที่เน้นเที่ยวในไทเป และยังไม่รู้จะไปไหน ใช้เวลาไม่นานมาก แวะมาได้เลยยย ใกล้ดีฮะ เดินทางสะดวกมากเลยล่ะ
ฝากไว้อีกนิดฮะ ตอนขากลับ ให้เดินเลย 7-11 ไปนะฮะ เดินขึ้นเนินไปนิดจะเจอกับป้ายรถเมล์นี้ ก็ขึ้นโลดดดดด
Noted : ไม่ต้องเดินกลับไปรอจุดเดิมที่ลงรถนะ เพราะเค้าไม่รับ เราลองมาแล้วว 5555555
Day 2
Alishan
วันนี้เราจะเดินทางไปที่อาลีซานกัน อาณาจักรป่าสนที่ยิ่งใหญ่ แค่คิดก็ตื่นเต้นแล้วววว
สำหรับวิธีการเดินทางเราเลือก HSR ฮะ เป็นการนั่งรถไฟฟ้าความเร็วสูง
เพื่อการประหยัดเวลาฮะ เพราะอาลีซานค่อนข้างไกลเลยทีเดียว
.
สำหรับตั๋วรถไฟ จริงๆจะ Walk-in มาซื้อเลยก็ได้ฮะ แต่เพื่อความเซฟ ชัวร์ว่ามีที่นั่ง เราเลยจองมาล่วงหน้าเผื่อดีกว่า
จริงๆวิธีการจองตั๋ว HSR จะจองกับเว็บไซต์ HSR ไต้หวันโดยตรงเลยก็ได้
แต่มันต้องระบุ วัน เวลาที่แน่นอน เราเผื่อหลง เผื่อนู่น เผื่อนี่ เลยเลือกเป็นอีกวิธีฮะ
เราเลือกจองผ่านทางเว็บไซต์ KKday ฮะ
ซึ่งเป็นเว็บที่รวมดีลออนไลน์ พวกตั๋ว/ทัวร์/รถรับ-ส่ง มีหมดอ่ะ ไม่ใช่เฉพาะของไต้หวันนะ แต่รวมดีลท่องเที่ยวทั่วเอเชียเลย
ซึ่งเราเลือกจองผ่านเว็บนี้ฮะ เลือกแค่ วัน แต่ไม่ต้องระบุเวลา แถมยังได้ส่วนลด 20% เซฟไปได้อีกกก
ยิ่งถ้าไปหลายคน ควรค่าเลยย
วิธีการจองก็ไม่ยากฮะ เข้า Link นี้เลยยย https://www.kkday.com/en/product/2674
สำหรับใครที่จะไป อาลีซาน ให้เลือก Taipai – Chaiyi (เจียอี้)
และกดจ่ายเงินให้เรียบร้อย ก็จะมี CF Voucher มาให้ทางอีเมลล์ แค่นี้ก็อุ่นใจแล้วววว อิอิ
ตั๋วเนี่ยจะ เป็นแบบ 1-Way Ticket ฮะ พอ Redeem แล้วแนะนำหาชานชาลาให้ถูก มีเลขที่นั่ง / เวลาเดินทางบอกชัดเจน
ความประทับใจนึงเลยคือ รถไฟที่นี่ตรงเวลามากฮะ ใครที่แพลนเวลามาเป๊ะๆ ทุกอย่างเป็นไปตามแพลนแน่นอนนน
บรรยากาศการนั่งรอ เช้ามากก อย่างง่วง
เลยจัดอะไรรองท้องที่ 7-11 ในนี้ แซนวิชที่นี่เนื้อเน้นๆ ไม่แอบซุกซ่อนน
หรือใครเบื่อแซนวิชมาลอง Wrap บ้างง อร่อยยยย
รถไฟที่นี่กว้างง และ สะอาดมากกกกกกก
คือดี นั่งสบายยยย ชอบบบ
หน้าตารถไฟฟ้าความเร็วสู๊งงงงงง หล่อเลยยย
เนี่ยยยที่บอกว่าไม่ต้องกลัวไต้หวัน มันเดินทางง่ายจริงๆฮะ
ลงจากสถานีมา มีรถมารออยู่ชานชาลาด้านหน้า ที่นี่เค้าจัดการท่องเที่ยวได้ดีมากกก
หลังจากลงจากสถานี HSR ก็มุ่งมาที่ Exit 2 และก็จะเห็นรถที่ไปอาลีซานอยู่ที่ Platform 3 เลยจ้าาา
Noted : ควรเช็ครอบ HSR กับ Bus ให้ต่อกันนะฮะ จะได้ไม่เสียเวลารอเน้ออออ
เช็ครอบ HSR >> http://www.thsrc.com.tw/en/TimeTable/SearchResult
เช็ครอบ BUS จาก HSR เจียอี้ ไปอาลีซาน
ข้อมูลจากเพจ 1000MilesJourney.com ขอบคุณมากฮับบบ
>> http://www.1000milesjourney.com/alishan-in-the-mist/
เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง ค่ารถประมาณ 230 NT$
ก่อนจะถึงอาลีซาน อยู่ดีๆพี่เค้าก็จอดรถและหันมาใส่จีนรัวๆ 55555 เราก็งงเด้ๆ
โชคดีที่คนไต้หวันข้างๆช่วยแปลซับให้ อ่อออ ให้ลงไปซื้อบัตรเข้านี่เองง
และรถจะปล่อยเราลงตรง 7-11 เลย จุดรวมพล เป็นอันว่ารู้กัน ขากลับก็ขึ้นตรงนี้น่ะแหละ
และเป็นสัญญาณว่า ถึงแล้ววววเว้ยย อาลีซานนน!
หอบผ้าหอบผ่อนไปเก็บของในที่พักของเราคืนนี้
Alishan Dengshan Hotel
หลังจากหาข้อมูลมาซักพัก ก็ตัดสินใจแล้วว่าจะพักโซน Hotel Area ที่มันใกล้กับ สถานีรถไฟอาลีซาน
คืออยากไปดูพระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้าด้วยยย
ถ้าพักโซนนี้ คือ เวิร์คสุด ไม่ต้องหารถต่อมาอีกต่อด้วย
แต่สิ่งที่ต้องทำใจ คือ ราคาโซน Hotel Area ค่อนข้างแรงฮะ ส่วนห้องคือเฉยมากก ต้องทำใจ 55555555
ส่วนตัวคิดว่าที่นี่ห้องพักค่อนข้างเก่าแหละ แต่ก็สะอาดพอได้อยู่
มีผ้าห่มไฟฟ้า ปรับอุณหภูมิได้บ้างไม่ได้บ้าง ตื่นมาตอนดึกนี่หน้าแดงเลย ร้อนเกิ๊น 555555
Noted : อากาศที่อาลีซานค่อนข้างหนาวฮะ น่าจะเย็นๆตลอดปี ช่วงที่เราไปสูงสุดประมาณ 8 องศา ต่ำสุคือ 3 องศา และหมอกเยอะสะใจ
แพลนของเราวันนี้คือ เดินเที่ยว Alishan National Forest Recreation Area
ก่อนอื่นต้องมาเริ่มที่สถานีรถไฟ อาลีซาน กันก่อนน
Alishan Railway Station – เส้นทางรถไฟสายเก่าแก่ และขึ้นชื่อว่าเป็นเส้นทางรถไฟที่สวยติดอันดับโลกกก!
หูยยยยย ดีงามมมเว่อร์ นอกจากบรรยากาศเจ๋งๆอย่างนี้แล้ว วิวระหว่างทางก็สวยใช่เล่นไม่แพ้กัน
แพลนของเราคือ นั่งรถไฟจาก Alishan Staion -> Chaoping Station ก่อนฮะ
หลังจากนั้นก็เดินจาก Chaoping Station ไปที่ Sacred Tree Station เพื่อนั่งรถไฟกลับไปที่ Alisha Station ฮะ
จริงๆเส้นทางทั้งหมดเนี่ย ใครที่อยากอินกับธรรมชาติแบบสุดๆ สายสโลว์ไลฟ์ สามารถเดินได้นะฮะ ไม่ต้องนั่งรถไฟก็ได้
ที่นี่คือดีมากกกก และที่สำคัญควรค่าแก่การมาค้างคืน เพื่อเจอกับไฮไลท์พระอาทิตย์ขึ้น
Noted : เราซื้อตั๋วรถไฟเพื่อไปดูพระอาทิตย์ขึ้น ในเย็นวันนั้นเลยฮะ ซึ่งทางสถานีเค้าจะติดประกาศอีกทีช่วงเย็นๆ ว่าพรุ่งนี้รถไฟจะออกรอบกี่โมง
นั่งมาประมาณ 6 นาทีก็ถึงล่ะฮะ Chaoping Station ไม่ไกลเลยยยย
เดินเล่นตามทางมาได้เรื่อยๆ มุ่งหน้าสู่อาณาจักรป่าสน / Sister Pond / Shouzhen temple เพื่อมุ่งหน้าไป Sacred Tree
สวยงามมมตามท้องเรื่องงงง
เส้นทางศึกษาธรรมชาติที่แบบโอ้โห คือดีมากกกก
Sister Pond : จุดท่องเที่ยวไฮไลท์ของที่นี่
ตามตำนานคือ มีสองสาวพี่น้องคู่หนึ่ง เค้าตกหลุมรักผู้ชายคนเดียวกันฮะ แต่เลือดย่อมข้นกว่าน้ำ!
ต่างฝ่ายต่างห่วงความรู้สึกกัน ไม่อยากให้ใครต้องเจ็บปวดนะ
แต่จริงๆแล้วทั้งสองคนก็ไม่อาจปฏิเสธหัวใจตัวเองได้ เลยต้องการจบเรื่องนี้ พอกันที!
ก็เลยตัดสินใจจบชีวิตที่นี่ กลายเป็นตำนานเล่าขานกันเรื่อยมา
รูทเส้นทางการเดินเที่ยวในอาลีซาน ค่อนข้างประทับใจมากฮะ
คุ้มมากกที่จัดเวลาให้อาลีซาน ใครเล็งไปไต้หวันไม่ควรพลาดที่นี่จริงๆ!
และสิ้นสุดเส้นทางที่ Sacred tree station รอรถไฟกลับกันฮะ นี่คือขนาดสถานีรถไฟยังฟินอ่ะ 5555555
รถไฟมาแล้ววววววว..
Noted : รอบสุดท้ายที่กลับ รู้สึกจะประมาณ 16.30 น. ฮะ ลองแพลนเวลากันดีๆนะ
ปิดท้ายมื้อเย็น ด้วยร้านชาบู พิกัดคือเดินลงมาจากสถานีเดินมาสุดทางเลยฮะ อยู่ตรงหัวมุมก่อนถึง 7-11
ที่ร้านนี้เค้ามีเป็นเซ็ตเมนูด้วย ชุดเล็กสำหรับ2คนราคา NT$880 ได้หม้อไฟ1ชุดกับอาหารอีกประมาณ5อย่าง
เป็นพวกปลาทูทอดผัดเต้าหู้ ผัดผัก มีข้าวสวยและน้ำดื่มบุฟเฟ่ต์ให้ เป็นอันปิดท้ายความหนาวเย็นได้อย่างดี!
เช้าวันรุ่งขึ้น ตื่นเช้ามากกก ตื่นเต้นด้วย รอลุ้น จะเห็นพระอาทิตย์มั๊ยยย เพราะฝนปรอย และ หมอกจัดมากกก
และนี่คือ วิวที่เราได้รับ 55555555555555 บรัยย ลงค่ะลง
Noted : เห็นเค้าว่ามันมีอีกจุดที่ชมพระอาทิตย์ได้ สวยใช่ย่อย
ให้เดินตามป้ายไปต่อจากจุดหลักเนี่ย หากใครมีเวลาแพลนไม่รีบมาก ฝากถ่ายรูปมาอวดด้วยเน้อออ
ส่วนเราต้องรีบลงรถไฟไปเก็บของเช็คเอ้าท์เพื่อเตรียมเดินทางไปเมืองต่อไป!
พูดง่ายๆคือให้ทันรถที่ออกรอบแรก นั่นคือ 9 โมง วิ่งดิวิ่งงงงงง
Day 3
วันนี้ทั้งวันเราใช้เวลาไปกับการเดินทางฮะ จุดมุ่งหมายของเราคือ Cingjing
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า เราไม่ได้คาดหวังอะไรกับ Cingjing เลย เท่าที่รู้สำหรับที่นี่คือมี ฟาร์มแกะ ไม่อินอยู่แล้ว 555555
ความตั้งใจจริง คือ อยากไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่เขาเหอฮวนซานล้วนเลยฮะ ทำให้เราจัดแพลนไปนอนค้างที่ Cingjing 1 คืน
.
การเดินทางต้องบอกว่า จาก Alishan ไป Cingjing ไม่ค่อยมีใครเค้าทำกัน 555555
เพราะว่ามันเหนื่อยฮะ ไม่มีรถจาก Alishan วิ่งไป Cingjing โดยตรง และต้องไปเริ่มต้นที่เมือง Taichung
จาก Alishan ไป Cingjing เราต้องแพลนเวลาค่อนข้างเป๊ะมาก
ตอนแรกคือกังวลพอควรเลยฮะ หาแพลนA แพลนB ตั้งใจมาก ยังไงก็จะไปให้ได้!
เราหารถรอบที่เช้าที่สุดจากอาลีซานฮะ คือต้องนั่ง Bus มาลงที่ TRA หรือ HSR เจียอี้ให้ได้
และเช็ครอบรถอีกต่อว่าจะเลือกนั่งรถไฟธรรมดาหรือความเร็วสูงให้มาถึง Taichung เพื่อมารอบัสไป Cingjing
**รอบสุดท้ายในวันเสาร์-อาทิตย์คือบ่าย 2 โมง
Noted : จุดขายตั๋วรถบัสอยู่ใน 7-11 เลยฮะ ตั๋วหน้าตาแบบนี้
สรุปแล้วเราเลือกเดินทางรอบแรกเลย 09.10 ไปถึง TRA เจียอี้ ประมาณ 11.40
เราเช็คข้อมูลรถไฟจากเว็บ เพื่อกะเวลาให้มันพอๆกัน คือทำเวลากันสุดอ่ะ จะมาขึ้นรถไฟให้ทันรอบ 12.15
Link เช็ครอบ TRA >> http://www.railway.gov.tw/en/
ล่ะก็ถือเป็นโอกาสดีๆในการได้ลองขึ้นรถไฟของไต้หวัน
บรรยากาศสถานีอารมณ์หัวลำโพงเลยฮะ ต่างจาก HSR พอควร ผู้คนมีความดิบกว่าหน่อย 5555555
หน้าตาของตั๋ววรถไฟ คล้ายๆกับ HSR ล่ะฮะ อันนี้ซื้อ Walk-in ไม่ได้จองก่อนเพราะกลัว Bus ไม่ตรงเวลามาก
สุดท้ายเราก็ได้เดินทางไปสู่เมือง Taichung ตามเวลาเราจะถึงตอน 13.27 ฮะพอมีลุ้นอยู่
ปกติรถรอบสุดท้ายจาก Taichung เนี่ยจะออกตอน 12.25
แต่ว่าโชคดีที่เราไปตรงกับเสาร์-อาทิตย์พอดี เค้าก็เลยเพิ่มรอบพิเศษอีกหนึ่งรอบคือ 14.25 น.
หลังจากเราลงที่ TRA Taichung Station
เราต้องหาทางไปสู่ Taichung Gancheng Station นั่นก็คือ จุดขึ้นรถบัส อารมณ์ สมบัติทัวร์/นครชัยแอร์ บ้านเราฮะ
Noted : สอบถามจาก Information เดินประมาณ 15นาที หรือว่า นั่งรถเมล์จะดีกว่า ประมาณ 3 ป้ายเท่านั้น
เลยเลือกเป็นนั่งรถดีกว่าฮะ บอกกับคนขับว่าจะไปที่นี่ เค้าก็ดรอปเราลงฝั่งตรงข้ามฮะ
ตรงนั้นมันจะเป็นแยกใหญ่ๆเลยยย เดินข้ามถนนมาจะมีร้าน TV Game ผู้คนนี่มุงกันยิ่งใหญ่
พอเห็นร้านเกมส์นี่ หันหน้าเข้าหาร้าน ก็เดินเลี้ยวไปทางขวาเลยฮะ
ไม่ถึงสิบห้องก็จะเจอ Taichung Gancheng Station แล้วฮะ เอ้อออ ดีใจ ยังมาทันน
ซึ่งจุดนี้ ใครอยากจะไป Sun Moon Lake ก็ไปได้เหมือนกันฮะ
แต่สำหรับทริปนี้เราตัดออก ด้วยใจที่เรียกร้อง พระอาทิตย์ขึ้นที่เขาเหอฮวนซาน อันเลื่องลืออ
ตรงส่วนนี้คือเราสามารถเลือกได้นะฮะ จะเอาแค่ค่ารถเฉยๆ หรือเอาค่าเข้าสถานที่ด้วย
จัดแพ็คเก็จ 600NT$ มาฮะ เพราะต้องเดินทางกลับมาที่ Taichung เพื่อเข้าเมือง Taipei
ซึ่งแพ็คเก็จนี้อ่ะ ถ้าไม่ได้แวะไปต่อที่ไหน คือคุ้มสุดล่ะ
1.ค่ารถไป-กลับ Taichung -> Puli มูลค่า 288 NT$
2.ค่ารถไป-กลับ Puli -> Cingjing มูลค่า 244 NT$
*Puli คือจุดเปลี่ยนรถไปที่อื่นได้ฮะ
3.บัตรเข้า Green Grassland มูลค่า 200 NT$
4.ค่ารถจาก Cingjing Guest House -> Green Grassland มูลค่า 26 NT$
5.ส่วนลดห้องพัก Cingjing Guesthouse 40% สำหรับวันธรรมดา, 15% สำหรับวันหยุดสุดสัปดาห์
เอ้อออ ระหว่างฆ่าเวลา เจอร้านขายของชำ ข้างๆ จัดขนมตุนบนรถซักนิดด ทาโร่ก็มา
อันนี้ตอนแรกคาดหวังว่าจะเหมือนชีโตส แต่ชีโตสอร่อยกว่าาาา ชีสเหม็นกว่าา 55555
และก็เจอของโปรดดดด ที่ทุกอย่างล้วนมีเหมือนในไทย แฮ่
รถมาแล้วววววววววก็เริ่มเดินทางฮะ!
เนี่ยๆๆๆๆ Cingjing มันไม่ใช่เล่นๆอ่ะ ภาพเปิด Cingjing ของเรา มันไม่ได้มีดีแค่ฟาร์มแกะนี่หว่าาาาา
และสำหรับจุดลงรถ จะใช้วิธีเดิมเหมือนอาลีซานไม่ได้นะฮะ เหมือนรถที่วิ่งไปมันไม่ได้สุดสายบริเวณ ชิงจิ้งฟาร์มฮะ
ที่รู้ว่ามันไม่ได้สุดสายที่นี่แน่ๆ เพราะว่านั่งเลยจุดนัดพบฮะ ตอนแรกไม่ทราบว่า บริเวณ Cingjing Guest House เป็นจุดหลัก
และเนี่ยขับมาถึงฟาร์มแล้ว คือมันน่าจะสุดแล้วล่ะ ที่พักไม่ได้อยู่เลยจากฟาร์มแกะแน่ๆ เลยขอลงที่หน้าฟาร์มแกะฮะ
ยังเป็นความโชคดีที่มี Shuttle Bus หน้าฟาร์มแกะ -> Cingjing Guest house
Tips : คือต้องดูว่าที่พักอ่ะ อยู่ตรงไหน ส่วนใหญ่ที่เห็นคือบอกพี่คนขับ และเค้าจะจอดให้ลงกันตามรายทางเลย
หรือมักจะนัดเจอกันที่จุดนัดพบใหญ่คือ บริเวณ Cingjing Guest House มันจะมีพวกสตาบัค/7-11 อะไรเยอะแยะ
สำหรับที่พักของเราอย่างที่บอกว่า ไม่ได้อยู่ติดถนนเหมือนคนอื่นๆ คือไม่รู้ว่าอยู่จุดไหน ถามใครบางทีก็บอกไม่รู้จัก 555555
แต่เนี่ยย ใครจะไปรู้ว่าอาจจะเป็นหนึ่งใน Hidden Gem ของ Cingjing เลยยย
清境西雅圖璀璨雙城 Cingjing Brilliant Twins of Seattle
คือสะดุดตามากตอนที่หาโรงแรมฮะ เห็นจากภาพแบบสีเหลืองเด่นมาก
คิดว่าน่าจะเพิ่มความสดใสให้กับทริปนี้ได้อีกระดับ ก็เลยจัดเลยย อิอิ
Noted : ทางโรงแรมจะส่งรถมารับที่จุดนัดพบฮะ เค้ามีบริการให้อยู่แล้ว ลองเช็ครอบดูอีกทีนะ
และที่นี่ก็ไม่ทำให้เราผิดหวังฮะ คือทำเลที่ตั้งโรงแรมเนี่ยยย อยู่ริมเขา คือมองเห็นวิวกว้างมากกกก
อันนี้คือมุมจากห้องพักเราฮะ
ด้วยความบังเอิญ ได้อัพเกรดห้องเป็นแบบ Family เลยได้ห้องใหญ่มาเลยยยย กว้างและมีความชิคแอบแฝง คือดีอ่ะ
วิวห้องอาหาร
Noted : สำหรับลูกค้าที่จองห้องพักทุกคนจะได้เซทชาบู 1 เซท สำหรับมื้อเย็นนะฮะ
สำหรับลูกค้าที่จองห้องพักทุกคนจะได้เซทชาบู 1 เซท สำหรับมื้อเย็นนะฮะ
เนี่ยย คือให้ฟรี ที่สำคัญอร่อยด้วยอ่ะ คือได้มาแบบงงๆ ตอนจองก็ไม่รู้ นึกว่าต้องกินมาม่าแล้วเย็นนั้น 55555555
เหนือสิ่งอื่นใด นี่คือวิวหน้าที่พักของเรา คือเรามาถึงเย็นมากแล้วอ่ะ ไม่ได้ไปเที่ยวไหน แต่พอเจอแบบนี้ก็โคตรคุ้มมมมมม
นั่งดูพระอาทิตย์ตก ชัดแจ๋วมากกก
ไม่คิดไม่ฝันว่า Cingjing จะสวยขนาดนี้อ่ะ
ถ้าใครไปเที่ยว Cingjing เราแนะนำที่นี่เลยฮะ ประทับใจมากกกก
https://www.facebook.com/cingjing.seattle/
Day 4
ทุกอย่างมันเหนือความคาดหมายเสมอ การไปดูพระอาทิตย์ขึ้นก็เช่นกัน หิมะตกบนเหอฮวนซานจ้าาาไม่สามารถเดินทางไปได้
ทราบตั้งแต่เมื่อวานตอนไปถึง แต่ก็แอบหวังว่าจะมีข่าวดี สุดท้ายก็ไม่ ไม่ได้ดูพระอาทิตย์ขึ้นที่นั่นจริงๆ
แต่ก็นะ ไม่เอามาเป็นความนอยด์ ธรรมชาติคาดเดาไม่เคยได้อยู่แล้ว
การเดินทางมันสอนเราดี ไม่มีอะไรเป็นไปตามแพลน การรับมือและปรับตัว ปรับใจให้กับสิ่งปัจจุบันสำคัญสุด
ฉะนั้นแพลนวันนี้ของเราคือไปเที่ยวฟาร์มแกะ แบะ แบะ กันนนน (นั่นเสียงแพะป่ะวะ 555555555)
วิธีการเดินทาง : จากที่พักเราก็เช็คเอ้าท์ออกมาเลยฮะ โดยจะไปฝากของกันที่จุดนัดพบเดิมน่ะแหละ
บริเวณ Cingjing Guest House ก็จะมีจุดฝากของ (บริการฟรี) อยู่ที่นั่น
หลังจากนั้นก็นั่ง Shuttle Bus ไปลงที่ Green Grassland เลยยยย
พีค อาฟเตอร์ พีค นี่คือภาพแรกที่เจอใน Cingjing Farm โอ้โห คือดีมากก มีความยุโรปสูงงงง
คือต้องบอกว่ามันไม่ใช่ฟาร์มแกะธรรมดาๆที่เราเข้าใจตอนแรก รู้สึกพลาดมากแน่ ถ้าไม่ได้มาอ่ะ 5555555
ดูแผนที่ไปๆมาๆ ก็เลยพอเข้าใจว่า มันมี 2 โซน คือจะเป็นโซน Green Grassland ที่เราอยู่ ณ ตอนนี้
กับอีกโซนจะเป็น Mountain View Pastures ซึ่งปังทั้งสองโซน
กลายเป็นว่าเราเดินเล่นที่นี่ยาวเลย ตั้งแต่สิบโมงจนถึงประมาณ บ่ายกว่านู่นนนน
แฮปปี้มากกกกก มุมไหนคือดีไปหมด ที่เค้าบอกว่าที่นี่คือสวิซเซอร์แลนด์ไต้หวัน เอ้ออออ เราไม่กล้าเถียงงง
สำหรับ Cingjing Farm มีรอบ Show time จัดแสดงโชว์แกะและม้าด้วยนะฮะ ลองเช็ครอบกันดีๆ
สำหรับโซนถัดมา ก็โชว์ข้อมือเพื่อผ่านประตูอีกครั้ง โซนเม้าท์เท่นอะไรเนี่ยยย ดูสวยงาม ธรรมชาิตนี่สดใส ฟู่ฟ่าามากก
ซากุระเริ่มโผล่ให้เห็นนน
สำหรับอันนี้ ตอนแรกคิดว่าเป็น Bicycle Lane เปล่าเลยยยย มันคือทางเดินลอยฟ้า แค่คิดก็ฟินแล้ววววว
สำหรับที่นี่ ส่วนใหญ่จะเป็นเส้นทางเดินเที่ยวไปเรื่อยๆ พบเจอกับธรรมชาติปังๆของ Cingjing
จุดถ่ายรูป และวิวเดินเที่ยวบนภูเขาที่ เดินง่ายมากกก ยกครอบครัวกันมาได้อ่ะ
ส่งท้ายกันที่ 499 Steps Trails ปลายทางเส้นทางเดินเที่ยวของเราฮะ
หลังจากนั้นเราก็เดินเลียบไปเรื่อยยยย จนไปถึง Cingjing Guest House เพื่อรอรถกลับสู่ Taichung ฮะ
และขอแนะนำ สำหรับคนที่เดินทางมาอาลีซานและชิงจิ้ง สองที่นี้อากาศมันหนาววววเหลือเกินนน
นวัตกรรมถุงทรายร้อน ฉีกซองออกมา กำถุงทรายอย่างละข้างและบีบไปบีบมา ขยำๆๆๆ
สักพักทรายจะเริ่มร้อนและให้ความอุ่นมากกกก คือช่วยได้เยอะมากก
เราใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อตลอดเลย เผื่อหนาวจะได้ซุก แต่ถ้าใครมีคนข้างๆ
ใส่ไว้ในเป๋าเสื้อคนข้างๆก็ได้ อร๊ายยยย สวีทท 555555
ปล.ที่ชิงจิ้งหนาวมากกก เลยใส่ไว้ในถุงเท้าด้วยเลยยย 555555
Noted : ซื้อได้ที่ 7-11 ฮับบ ราคาไม่เกิน 20NT$
และเราก็ได้ฤกษ์เดินทางเข้าเมืองไทเปกันบ้างงง เพื่อมาสัมผัสสีสัน ทริปนีมันต้องครบ!
เราเลยเลือกพักที่ ย่าน Ximending ฮะ
อารมณ์สยามบ้านเรา แต่ดูเหมือนจะคึกคักกว่าาา
อ่อออ วันที่ไปมีเทศกาลโคม ด้วยฮะ เลยคนเยอะมากกก
และเราต้องจะพักที่ซีเหมินยาวเลยฮะ 3 คืน เลยต้องเลือกโรงแรมที่เดินทางสะดวกและเซฟเงินกันซะหน่อยยย
สำหรับโรงแรม ส่วนใหญ่เราเลือกจองมาล่วงหน้าล่ะฮะ
และก็มีเว็บคู่ใจอยู่แล้วเรื่อยๆ อย่างล่าสุดก็จะเป็น TraveliGo.com ฮะ
เพราะว่ามันรวมทุกอย่างที่เกี่ยวกับเรื่องเที่ยว ทั้งตั๋วเครื่องบิน ที่พัก ประกันการเดินทาง
และราคาที่เห็นก็คือไม่มีบวกเพิ่มล่ะฮะ ใช้ง่ายยดีมากก
อย่างรอบนี้เราจองที่พัก และ ประกันการเดินทางผ่านที่นี่ ง่าย ครบ จบเลยยย
Noted : อยากแนะนำให้จองประกันการเดินทาง เพราะเวลาเดินทางไกลๆเนี่ย
เราไม่รู้เลยว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น ก็เซฟไว้ก่อน ราคาเริ่มต้นก็ไม่แพง ก็ยังอุ่นใจนิดๆนะ ถ้าเกิดเรื่อง มีคนช่วยออกอะไรแบบนี้
มาๆๆ และนี่คือ Ximending ที่ใฝ่หา
เต็มไปด้วยผู้คน ร้านค้า แบรนด์ต่างๆเพียบบ
และสายรองเท้าจะเปรมมากกับ ABC MART ยังไม่รวม Shop อื่นๆ ราคาน่ารัก น่าจับจองมากกก
และที่พลาดไม่ได้ นั่นคือออ Street Food ฮะ ที่เค้าว่าเด็ด อยากรู้ก็ไปลองกันได้เลยยยย!
บะหมี่อาจง
Ay-Chung Flour Rice Noodle
เจ้าดังที่ขายมานานกว่า40ปี ใครมาที่นี่ต้องลองฮะ ร้านหาไม่ยาก
เพราะจะเห็นคนยืนต่อคิวยาวเลยหน้าร้านมาเลย แถวจะเดินตามกันเรื่อยๆ รอไม่นานเลยฮะ
รสชาติจะคล้ายๆกระเพราะปลาที่อัดแน่นไปด้วยเส้นและเครื่องในนิดหน่อย
เส้นที่นี่จะไม่ได้เหมือนหมี่ขาวในก๋วยเตี๋ยวบ้านเรา จะกลมกว่านิดหน่อย เหนียวนุ่มกำลังดี
น้ำซุปก็กลมกล่อม แต่ถ้าใครชอบทานรสจัดก็ปรุงเพิ่มได้ฮะ
ถ้วยเล็ก 50 NT$
ร้านนี้ก็คนเยอะไม่แพ้กัน ชื่อร้าน OSAKA
จะอยู่ตรงหัวมุมเลยฮะ มีขายทั้งไก่ทอดและยากิโซบะ
ซึ่งยากิโซบะที่นี่เค้าผัดบนกระทะแบบเทปันยากิ ผัดกันด้านร้านแบบทีเดียวเยอะๆ ดูไปก็หิวไป รสชาติโอเคเลยฮะไม่ขี้เหร่
กล่องเล็ก 60 NT$
มาถึงชานมกันบ้าง ร้าน50
มีหลายสาขามากในตลาดซีเหมิน
มีภาษาอังกฤษบอก แถมเลือกความหวานและเลือกได้ว่าใส่น้ำแข็งมั้ย
แก้วนี้เป็นชาอู่หลงแบบไม่ใส่นม มีไข่มุกกับวุ้นมะพร้าวด้วย ไข่มุกนุ่มมาก ชาหอมเบาๆดีฮะ
ส่วนแก้วนี้เป็นชาเขียวฮะ
เห็นเค้าบอกว่าเพิ่งกลับมาหลังจากที่หมดไปหลายเดือน
เอาเว้ยๆเราก็เลยตามล่าหาทุกสาขา จนมาเจอสาขานี้อยู่ในซอยเดียวกับร้านโมจิย่างฮะ
เราเลือกแบบหวานน้อยไป อร่อยอ่ะ ชาหอมกำลังดี
ส่วนไข่มุกเม็ดใหญ่เหมือนในรูปดันหมด เลยได้เม็ดเล็กแบบนี้มา อร่อยอยู่น้า
อันนี้คือ โมจิย่างง
มันเป็นแป้งโมจิที่เค้าเอามาย่างจนเกรียมและพองตัว มีซอสให้เลือกหลายแบบทั้งคาวและหวาน
เราเลือกเป็นซอสบาบีคิวและชีส ตัวแป้งร้อนๆอร่อย แต่ตัวซอสสำหรับเราไม่ค่อยโดนใจ ฮรือออ
ส่วนอันนี้ขอพรีเซนต์สุดด
มันเป็นโรตี ซื้อจากร้านรถเข็นในตลาดซีเหมิน โรตีที่นี่ไม่ได้ราดนมโรยน้ำตาลเหมือนบ้านเราฮะ แต่จะเป็นไส้คาว
เราสามารถเลือกไส้ได้เองเหมือนอารมเครปเลยอ่ะ
มีไข่ แฮม ชีส หมูหยอง บลาๆ แป้งโรตีจะจะหนาๆกรอบนอกนุ่มใน ชอบบบฮะ
อร่อยยยยยยยยย
นอกจากชานม คนที่นี่คงชอบทานของทอดเป็นลำดับต่อไป 55555
อย่างเมนูไก่ทอดนี้มีแทบทุกตลาด แต่เห็นร้านนี้ขึ้นว่าอันดับ1 ขายมา40 กว่าปีอ่ะ ลองดูก็ได้แฮะ
ไก่ชุบแป้งทอดหอมๆ ตัวแป้งกรอบ ตัวไก่นุ่ม มหัศจรรย์ 5555
พอทอดขึ้นมาเสร็จเค้าก็โรยผงปรุงรส ใครชอบของทอดก็แนะนำฮะ เพราะเรานี่โคตรชอบบบบบบ
ปิดท้ายคืนนี้ด้วยน้ำมะเฟืองละกัน ร้านนี้อยู่ใกล้กับทางออก MRT เลยฮะ
ความจริงร้านนี้ขายน้ำสัปปะรดด้วยแต่ตอนเราไปน่าจะหมด
รสชาติเปรี้ยวๆเค็มๆกินแล้วชื่นใจดีอ่ะ เค้ามีแบบเป็นถ้วยมีเนื้อมะเฟืองด้วยนะ แต่สั่งไม่เป็นเลยอดไป 555555
สำหรับที่พักใน Ximending เราเลือกพักที่ 卡樂町旅店 Colormix Hotel & Hostel
ห้องพักสะอาดมากก มีความจัดสรรพื้นที่ห้องได้เท่ดี ราคาคุ้มค่าฮะ
พนักงานบริการดีมากก และเจ้าของพูดไทยได้นิโหน่ยด้วยยย
ที่สำคัญเดินมาจาก MRT ไม่นานไม่เกิน 5 นาทีฮะ เข้าซอยมาอีกนิด คือเหมาะแก่การนอนมากกก
Noted : จริงๆมันมีที่พักที่ติดMRTกว่าฮะ แต่รู้สึกว่าติด เกินไปกลัวเรื่องเสียงดัง คนเยอะ วุ่นเกินนนฮับบ
Day 5
แพลนของเราวันนี้คือ จะไปปิคนิคกันที่อุทยานแห่งชาติ หยางหมิงซาน 陽明山擎天崗 Yangmingshan National Park
ถ้าใครยังไม่เคยมาไต้หวัน นี่เป็นสถานที่ที่ควรจะปัก ปัก ปักหมุด
ควรค่าแก่การจัดทริปมาไต้หวัน มันเป็นอุทยานแห่งชาติที่สวยมากกกกก ความเว่อร์วังของธรรมชาติที่ทุกคนจะต้องตกหลุมรัก
ผสมผสานกับเส้นทางเดินเขา แบบจะว่าเหนื่อยก็เหนื่อยย แต่คุ้มก็คุ้มมมม คือมันดีไปทุกสัดส่วนนน
มองไปทางนั้นก็ โหยยย หันไปทางนี้ก็ หูยยยยย เยี่ยมจริงๆ เยี่ยมจริงๆ เยี่ยมจริงๆ 55555555
เอ้ออ คือดีมาก จนต้องแนะนำทุกคนนน
ที่สำคัญอยู่ในไทเปเลยย ใครจะไปคิดว่าเมืองหลวงจะมีของดีขนาดนี้!
การเดินทาง : เรานั่ง MRT ไปลงสถานี Jiantan เดินตามทางออก Exit 1
เดินออกมาปุ๊ป เลี้ยวซ้ายเดินย้อนขึ้นไปหน่อย และหารถบัสสาย R5 สุดสายยยถึงเลยยฮับบ
พอมาถึงป้ายหยางหมิงซานปุ๊ป จะมีคิวรถบัสอีกคัน
นั่นคือสาย 108 ท่าพระ – รัชโยธิน #ยยยย
สาย 108 ในตำนานคันนี้จะเป็นอารมณ์ Shuttle Bus ที่วิ่งวนรอบในเขตอุทยานหยางหมิงซาน
ซึ่งก็จะดรอปตามจุดท่องเที่ยวภายในอุทยานฮะ ค่าใช้จ่ายเที่ยวละ 15 NT$
Noted : เห็นหลายคนบอกว่ามันมี Pass แบบเหมาทั้งวัน ลองเช็คกันดูอีกทีนะ
สำหรับจุดท่องเที่ยว
1. สถานีรถบัสสายหยางหมิงซาน
2. สำนักงานใหญ่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว
3. Yangmingshuwu
4. Zhuzihu
5. Mt.Qixing
6. Erziping
7. Xiaoyoukeng*
8. Zhonghu
9. Lengshuikeng (ไปยัง Qingtiangang)*
10. Qingtiangang*
11. Lengshuikeng
12. Songyuan
13. น้ำตก Juansi
เปิดทำการ วันจันทร์ – ศุกร์ เวลาทำการ 08.30 – 17.30
ข้อมูลจาก : http://www.taiwan.net.my/th/attractions/66-district/northern/taipei/524-yangmingshan-national-park-th
คือแบบนี้ ไอ้จุดท่องเที่ยวที่ลิสไว้น่ะฮะ สามารถเดินถึงกันได้หมดเลย ลองแพลนตามความสะดวกของแต่ละทริปแล้วกันฮะ
สำหรับเรา วันนี้ขอจัดแพลนแบบหลวมๆ ตื่นสายหน่อย และกว่าจะเดินทางก็ 9-10 โมงแล้วว กลัวอุทยานปิดด้วยย
เลยเลือกจุดหลักๆ 3 ที่ฮะ ตามที่ดอกจันไว้ก่อนหน้า แต่พอเอาเข้าจริงหมดแรง 555555
เลยเหลือแค่ 2 ที่จ้าาาาา
Xiao you keng
จุดแรกของเราที่หยางหมิงซาง หลังจากความซิ่งระดับโลกของ 108 ในตำนาน
เหวี่ยงทุกคนติดกระจกรถทุกโค้งแล้วว เราปลื้มใจมากกับวิวของที่นี่
โอยยยยย นอกจากอากาศดีๆแล้ว อีกสิ่งคือธรรมชาติของไต้หวัน ใครเป็นสายธรรมชาติ ประเทศนี้ไม่ควรพลาดจริงๆอ่ะ
ไฮไลท์ของ Xiaoyoukeng นอกจากจะมีเส้นทาง Hiking แล้ว ยังเป็นจุดที่ทุกคนมาชม ไอน้ำและกำมะถันหลังภูเขาไฟดับ
ซึ่งแต่ะละวิวตรงจุดนี้ หันไปทางไหนก็ดี! ชื่นชมกับความงามของที่นี่เสร็จแล้วเราก็ไปกันต่ออออ
Noted : วิวรอรถเมล์หน้าป้าย Xiaoyoukeng เป็นป้ายรถเมล์ที่สวยที่สุดในโลกกกกกกกก
เอาเป็นว่าใครที่มีแรง + เวลา แนะนำเดิน Hiking Trail จาก Xiaoyoukeng เพื่อไปยอดเขา Qixing
และเดินลงที่ Lengshuikeng มีแต่คนการันตีมาว่า วิวระหว่างทางนี่เจ๋งมากกกกก เขาช้างเผือกแบบย่อๆอ่ะ
จุดต่อมา ใครไม่แนะนำแต่เราขอแนะนำ !
Leng shui keng
คือจุดนี้ จริงๆแล้วมันดังเรื่องบ่อน้ำร้อน แต่ความบังเอิญอีกอย่างคือก็ไปเห็นป้ายเส้นทาง Hiking Trail นั่นแล
มันเขียนว่าประมาณ 1.8 โล เลยแบบเอาซะหน่อยยย ไม่ให้เสียเที่ยววว
และสุดท้ายยังไงรู้ม๊ะ เดินไปได้ก็เหนื่อยประมาณ 2 อึดใจ ฝนจะตกจ้าาา
ลมแรงมากกกกกกกก พายุเข้า และไปเจอศาลานึง ก็เลยหยุดพักแปบ ฝนมีทีท่าจะตกจริงๆ
สุดท้ายเราก็เลยตัดสินใจรีบลงและเดินกลับมาทางเดิม 55555555
แต่มาดูวิวระหว่างทางกัน สำหรับใครอยากเดินสวยๆ อยากชมวิวของที่นี่ แต่ก็ไม่อยากเหนื่อยมาก (ซับซ้อน 555555)
เราแนะนำลงป้ายนี้เลยยยย
แต่วิวที่เห็นมันคุ้มมากกกกก
เราว่าบรรยากาศที่นี่มันสุดยอดเกินไปล่ะ โอยยยยย
แถมภาพโปรไฟล์เท่ๆก่อนกลับบบบซะหน่อยยย
Noted : ขากลับเรานั่ง 108 วนกลับมาที่เดิมและก็ต่อสาย R5 กลับไปลงที่ Mrt Jiantanฮับบ
หรือใครจะนั่งสาย R15 จากป้าย Leng shui keng กลับ Mrt Jiantan ก็ได้ (ตอนแรกเราก็รอ แต่รถแน่นสุด อดซะ)
หลังจากที่เราเหน็ดเหนื่อยจากการ Hiking ระยะสั้น 55555 นี่คือตั้งใจล้างท้องมารอเพื่อการนี้เลย
ใครที่ชอบทานอาหารญี่ปุ่นแบบพวกซูชิ ปลาดิบ ที่นี่คือสวรรค์! 555555
Addiction Aquatic Development (AAD)
The Second Wholesale Fruit and Vegetable Market แต่เอาชัวร์ๆบอกพี่เค้าดักคอไว้หน่อยย เผื่อเลยย 5555555
เสร็จแล้วก็เดินข้ามถนนไปฮะ เดินเข้าซอยติด Family Mart ได้เลยแล้วเลี้ยวไปทางขวา จะมีป้ายบอกอยู่ววว
ที่นี่มีหลายโซนด้วยกันฮะ มาเริ่มที่โซนนี้กันก่อน
Stand Sushi Bar เห็นหลายคนไปบอกว่าโซนนี้รอนานมาก คิดว่าสงสัยจะอดซะแล้ว
แต่วันที่เราไปบังเอิญได้ที่เลย เลยสั่งซาชิมิมาลองดูฮับบ
ราคานี้ถือว่าทั่วไปไม่ได้ถูกมาก แต่คือออ
มันดีต้องยอมรับว่าคุณภาพคือคับแน่นนน ทุกอย่างสดมาก เนื้อหวานฉ่ำ อร่อยแบบน้ำตาจะไหล 55555
แต่ราคาโซนนี้ไม่น่ารักเท่าไหร่ฮะ
ถ้าจะกินให้อิ่มสมกับที่ล้างท้องมา น่าจะหมดตัวได้
เราเลยขอไปส่องอีกโซนนึงต่อละกันเนาะ >3
โซนยอดฮิต Ready to go
มีเป็นเซ็ตทั้งซูชิ ปลาดิบ ข้าวหน้าต่างๆ กุ้ง หอย ปู ไข่ปลา แบบว่าเยอะมากกกก
ราคาถือว่าถูกเลย ถ้าเทียบกับที่ไทยแบบคุณภาพเดียวกันฮะ
ถัดมาอีกแถวจะเป็นพวกของทอดของย่าง ทงคัตสึ ปลาย่าง กุ้งย่าง พร้อมให้เลือกหยิบเยอะมากเช่นกัน
เมนูของหวานก็เยอะไม่แพ้กัน น่ากินทั้งน้านนนน
ซึ่งความดีงาม คือเค้ามีโต๊ะบริการให้นั่งทานด้านนอกด้วยย
ส่วนโชยุ วาซาบิและอุปกรณ์การกิน ก็มีบริการฟรีตรงจุดชำระเงินเน้อออ
จัดซูชิกันไปแบบเบาๆรองท้องงง
ปลาไหลย่างมาเป็นแผ่นใหญ่ๆ
บอกได้แค่ว่ามันฟินนน ฟินนนน และฟินนนนนน
ส่วนอันนี้เป็นข้าวปั้นหน้าเทมปุระ โอ้โหหหห
กุ้งชิ้นใหญ่อะไรเบอร์นั้น มีคล้ายๆน้ำสลัดไว้ให้จิ้มด้วย
3 ชิ้นยักษ์กับราคา 100นิดๆ จุ้งงงงงงเลยยย (กุ้ง+จุก)
Notes : มีคนบิ๊วมาตั้งแต่ก่อนไปไต้หวัน มันจะมีชานมคุณลุง ติดมหาลัย NTU ต้องไปให้ได้
นี่ก็เอาด้วยยย อยากกินตั้งแต่วันแรก ยังไม่มีเวลาแว่บมา วันนี้เวลาพอเหลือขอจัดหน่อยยย !
จริงๆ ย่านนี้เป็นอะไรที่น่าเดินมากเลยนะ ดูมีแต่หนุ่มสาวมหาลัย คึกคักดีอ่ะ
แต่เรามุ่งมาที่ร้านชานมคุณลุง ร้านเดียวนี่แหละ แน่วแน่มากก
การเดินทาง : MRT สถานี Gongguan Exit 4 และเราก็เปิด Google Map ผสมกับ Wongnai 555
ตั้งเด่นเป็นสง่า เห็นไม่ยากกกก
ชานมไข่มุกร้านลุง (เฉิน ขัด) 陳三鼎 (Chen Khad)
ซึ่งร้านนี้ มันเหมาะมากสำหรับคนที่ชอบไข่มุกแบบเราอยาก Recommend มากกกก ไม่ทำให้ผิดหวัง!
คือมันเป็นไข่มุกที่เรายอมศิโรราบ 555555
ไข่มุกเจ้านี้นุ่มมมมมากฮะ มันเหมือนจะละลายในปากได้เลย ตัวชานมจะไม่หวาน แต่ตัวไข่มุกจะมีความหวานอยู่วว
เวลาทานแนะนำให้คนให้ทั่วก่อน ถ้าปักหลอดแล้วดูดเลยแบบเราอาจมีแสบคอได้จ้าาาาา (สายตะกละ) 5555555
และจุดหมายสุดท้ายของวันนี้ Shilin night market
การเดินทาง : MRT Jiantan Exit 1
ส่วนตัวเราว่า Night market ที่ไหนๆในไต้หวัน คือดี!
ในส่วนของStreet Food ไม่ต่างกันฮะ แต่เหมือนแต่ละ Night Market จะมีไฮไลท์ของตัวเองอยู่ล่ะ
แต่คือตอนนั้นบอกเลยว่า แน่นมากก แน่นแบบไม่มีพื้นที่ในท้องแล้วว
แต่ด้วยความมาแล้วววอ่ะะ จะให้พลาดได้ยังไง เลยเก็บของอร่อยที่นี่มาเป็นไกด์ไลน์ซักนิด เริ่มจาก
สปันจ์เค้กที่โคตรนุ่มมมมม นุ่มมากกกกกก ทำแบบชิ้นใหญ่มากกกกก
พออบเสร็จ ก็จะมีดีเทลเท่ๆ โดยการสั่นกระดิ่งเป็นสัญญาณ
แล้วก็โชว์หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ(ซึ่งก็ยังใหญ่อยู่ดี ดูได้จากรูปเลย)555555
กลิ่นหอมตลบอบอวลทำให้แถวที่เข้าคิวยิ่งยาวขึ้นเรื่อยๆๆ
ซึ่งนี่เป็นหลงกลเป็นหนึ่งในนั้น มีให้เลือก3รส แบบออริจินอล ชีส และช็อคโกแลต
ทำเสร็จใหม่ๆมันหอมเกินไป เลยจัดมา 2 รส (เพื่อ?) ตอนนั้นเหมือนต้องมนต์ 55555555555
ราคาชิ้นละประมาณ 100 – 120 NT$
อีกเมนูที่อยากให้ลองฮะ
ซาลาเปาอบโอ่งที่ร่ำลือ ตัวแป้งคือกรอบดีงาม กัดไปไส้ในยังฉ่ำน้ำอยู่เลย หมูรสชาติดีมาก โคตรเด็ดดด
ถ้าไม่ได้ลองนี่ถือว่าพลาดเลย ฮ่าๆ
ปิดท้ายค่ำคืนด้วยการยืนมองเบคอนแบบตาปริบๆ ท้องจะแตกแล้วจริงๆเว้ยยยย แง
Day 6
ประเดิมวันสุดท้าย ด้วยความวึ่นวืออออ
ร้านชาบูที่ฮ็อตที่สุดในไต้หวัน Mala yuanyang hotpot ฮะ ที่หลายๆคนรู้จักกันในนาม Mala Shabu
เพราะทุกคนจะถามตลอดว่าได้ไปกินยังงง นอกนั้นยังการันตีด้วยการที่มาต่อแถวตั้งแต่ก่อนร้านเปิด
ซึ่งเราก็ทำงานกันเป็นทีมฮะ เนื่องจากร้านนี้มี 2 สาขและมันก็อยู่ไม่ไกลกัน เดินไปประมาณ5นาทีก็ถึง
ก็เลยแยกกันไปคนละที่ (ต้องไฟลท์ขนาดนี้เลยหรอ 555555) ซึ่งสุดท้ายก็ได้คิวที่สาขา1 เนี่ยแหละฮะ
เราเลือกน้ำซุปแบบออริจินอลกับแบบหมาล่าที่เป็นซิกเนเจอร์ฮะ
Noted : มีคนแนะนำให้ไปทานช่วงเช้า มีโอกาสได้กินมากกว่า และไม่ต้องต่อคิวนานมากกก
ความเจ๋งของ Mala Shabu คือมีของให้เลือกค่อนข้างเยอะ และที่เด็ดสุดคือ ที่นี่เป็นสมาคมของคนรักเนื้อ!
และอีกส่วนประกอบที่จะทำให้ชาบูมื้อนี้ของคุณเป็นเรื่องดีๆ หรือเป็นวันแย่ๆ 55555
น้ำจิ้มที่ต้องปรุงเองง แนะนำให้ใส่ไข่แดงเข้าไปด้วย ช่วยเราได้เยอะ!
Noted : ความเด็ดของ Mala Shabu อีกอย่างคือไอติม Movenpick กับ Haagen-Dazs จ้าาา
มีรวมๆแตะ 30 รสอ่ะ แต่นี่มัวแต่กิน ไม่ถ่ายแล้วววววว 55555555
Beitou
แหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงเรื่อง น้ำพุร้อน
แต่สิ่งที่เราชอบในเมืองนี้ คือ บรรยากาศที่ค่อนข้างร่มรื่นอ่ะ ระหว่างเส้นทางเดินเที่ยวคือมันน่าเดินตลอดทางเลยย
การเดินทาง : MRT Beitou แล้วเปลี่ยนสายไป MRT Xinbeitou
สำหรับ Xinbeitou จะมีโรงแรม และ บ่อน้ำแร่สาธารณะอยู่ทั่วไปหมดเลยย
และอย่างที่บอกสวนสาธารณะและทางเดินเท้าที่นี่ ค่อนข้างน่าเดินมากก เหมาะกับการเป็นเมืองที่พักผ่อนหย่อนใจสุด
นอกจากแหล่งแช่น้ำแร่แล้ว ยังมี ห้องสมุดสาธารณะ ที่มีดีไซน์ค่อนข้างน่าสนใจฮะ
เป็นห้องสมุดสีเขียวแห่งแรกในไต้หวัน และถูกยกย่องว่าเป็น 1 ใน 25 ห้องสมุดที่สวยที่สุดในโลกด้วย!
บรรยากาศระหว่างการเดินนนน
Beitou Hot Spring Museum
พิพิธภัณฑ์ที่จะให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องราวของเป่ยโถว
โดยอาคารหลังนี้เคยเป็นโรงอาบน้ำที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกสมัยนั้น
ภายในก็จะมีการจัดแสดงของใช้โบราณ ให้ทุกคนได้เรียนรู้ความเป็นมาของเป่ยโถวได้จากที่นี่เลยยย
Noted : ปิดทุกวันจันทร์
และมาถึงไฮไลท์สำคัญที่เมืองนี้
Beitou Thermal Valley
จุดชมวิวบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติจากภูเขาไฟ น้ำแร่ที่นี่มีอุณหภูมิ 80-100 องศาเซลเซียส แบบว่าแค่เฉียดๆก็รู้สึกร้อนล่ะ 5555555
Noted : ปิดทุกวันจันทร์
สีสวยมากกกกกกกก
Beitou เหมาะสำหรับมาเที่ยวแบบสั้นๆฮะ แต่ถ้าใครชอบแช่น้ำแร่ก็มาจัดกันได้ มีทั้งบ่อสาธารณะ
และก็ Private ก็จิ้มแพ็คเก็จตามโรงแรมได้เลยยยย
แพลนของเราวันนี้ค่อนข้างชิลล์ฮะ เดินเล่นที่ Beitou ประมาณบ่าย 4 โมง ก็มูฟกลับไปที่ Ximending
ตะลุยหาของฝาก เดินชิม ชอป ชิลล์ และจัดกระเป๋าเตรียมกลับไฟล์ทเช้าสุดเบยยยย
สุดท้ายขอลากันด้วยยภาพนี้ฮะ
และก็จบทริป ไต้หวันของเราแบบประทับใจสุด
และไปบิ๊วเพื่อนๆต่อว่า มาเหอะ ไต้หวันนน ประเทศที่ใครไปแล้วก็อยากไปอีกกก
และถ้าใครอยากสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับทริปนี้ ก็ตามมาเจอกันได้ที่เพจ 247Journey ได้เลยยฮะ 🙂
..
สุดท้าย ท้ายสุด เผื่อใครที่สนใจแบ็คแพ็คเที่ยวไต้หวันครั้งแรกแบบเรา
ก็แนะนำให้หาข้อมูลกันก่อนเดินทางนะฮะ ช่วยได้มากเลยทีเดียว
หรือถ้าใครขี้เกียจวางแพลนเอง ก็แนะนำให้ซื้อทัวร์ไปเลยจ้า ง่าย ครบ จบเลย!
เว็บรวมทัวร์ต่างประเทศราคาถูก เราแนะนำที่นี่ฮะ Tourkrub
หาทัวร์ง่ายมากๆๆๆๆ บางทีคิดทริปไม่ออก ก็แอบไปลอกทริปตามแพ็คเก็จทัวร์นี่ล่ะฮะ มี PDF ให้ดูด้วย 555555
และสำหรับทัวร์ไต้หวันก็ Link นี้โลดดดด ไปลองดูล่ะกันนะฮะ
คลิกจอง ทัวร์ไต้หวัน >> https://tourkrub.co/taiwan-tour
แล้วเจอกันใหม่ทริปหน้าฮะ ว่าพวกเราจะพาไปเที่ยวไหนกัน!
:: Contact Us ::
Facebook : https://goo.gl/HWYK38
Instagram : https://goo.gl/pXjtHZ
Twitter : https://goo.gl/6AULbo