ด้วยระยะเวลาที่ค่อนข้างจำกัด ทริปนี้ไม่ต้องการอะไรมาก
อยากออกไปเที่ยว พักผ่อน อย่างใครเขา
มานั่งๆคิด..เอ๊ะ! ทุกคนเดินทางไปต่างจังหวัดกันหมดเลยอ่ะ
ถ้าเราอยู่ต่างจังหวัดล่ะ จังหวัดที่อยากมาเที่ยวบ้าง ก็คือกรุงเทพฯ ซินะ!
ต้องบอกก่อนว่า ถ้าลองเสิจหาข้อมูล … จะรู้ว่ากรุงเทพฯ เนี่ย
เป็น Destination ที่น่าสนใจมาก มีผู้คนต่างบ้านต่างเมืองรีวิวไว้เยอะเลยล่ะ
เราว่าเสน่ห์ของมัน คือเป็นเมืองที่มีอะไรให้เที่ยวและกิจกรรมเยอะ
————————–
ทริปนี้เลยขอลองเที่ยวแบบชิลๆ สบายๆ ในเมืองหลวง
และคิดว่าสถานที่หนึ่ง ที่นักท่องเที่ยวสายชิล จะปักหมุด คือ ตลาดนัดสวนจตุจักร
แต่ด้วยอากาศที่ค่อนข้างร้อนและเวลาที่แพลนไว้ไม่เยอะมาก
เลยเลือกมาเดินเล่นช่วงกลางคืนแทน จึงได้มาลองเดิน JJ Green
สิ่งที่ชอบที่สุดในการเดินเล่นชอปปิ้ง คือ มันเป็นความภูมิใจของคนรุ่นเราๆ
ที่เห็นความครีเอทมากมาย จากสินค้า/บริการต่างๆ ที่นำมาขายกัน
และก็คงจะไม่แปลก ถ้าหากที่นี่จะติดเป็น A Cool Night Market in BKK!
———————————————–
แล้วที่พักล่ะ?
เพื่อให้อินกับการแบกเป้มากที่สุด ฉะนั้น โฮสเทล คือคำตอบของเรา
…….
เราตั้งงบไว้ประมาณ 500 บาท และสุดท้ายได้มาเจอกับ
‘YOO YEN PEN SOOK HOSTEL’
ได้ราคาอยู่ที่คนละ 490.- และรวมอาหารเช้า เรียบร้อย อิอิ
YOO YEN PEN SOOK HOSTEL (อยู่ เย็น เป็น สุข โฮสเทล)
ที่พักเปิดใหม่ได้ไม่ถึงเดือน อยู่ติดสถานี BTS สะพานควายเลย
จากใจเด็กย่านชานเมืองคนหนึ่ง .. เราเพิ่งเข้าใจว่าคอนโดติด BTS มันดียังไงก็คราวนี้ !
————————
ลักษณะของที่พัก ที่นี่ยังคงเก็บภาพเดิมของตึกแถว 4 ชั้นไว้อย่างชัดเจน
ด้านหน้าอาคาร จัดเป็นมุมสวนเล็กๆน่ารัก กะทัดรัดตามขนาดของพื้นที่
ต้องบอกว่าบรรยากาศของที่นี่ ค่อนข้างกระชากอารมณ์เรา พอสมควร
อาจจะเพราะเจอความวุ่นวายมาตลอดวัน พอเดินเข้ามา
บรรยากาศภายในกลับช่วยดึงอารมณ์ให้ช้าลงแบบบอกไม่ถูก
สำหรับการตกแต่งภายใน ค่อนข้างโดดเด่น คือดูเท่อ่ะ
มันมีทั้งความวินเทจ หรือสไตล์โมเดิร์นไปเลย ผสมแนวอาร์ตบ้าง มีความดิบนิดหน่อย
ทุกอย่างเหมือนจะไม่เข้ากัน แต่กลับแปลกที่ไม่มีอะไรที่ขัดตาเลย
บางมุมก็ยังเก็บภาพเดิมๆของตึกแถวเอาไว้ แบบว่าเจ๋งดี
เอาเป็นว่าเห็นถึงความละเอียด พิถิพิถัน กับการตกแต่งในแต่ละมุม
——————————–
ในส่วนของห้องพัก จะมีแบบเดียวเลย คือเป็น ดอร์ม เท่านั้น
เป็นการแชร์ห้อง แบบโฮสเทลทั่วไป (ประมาณ 6 – 8 เตียง)
ความพิเศษของที่นี่ เรารู้สึกว่า เขาไม่พยายามอัดเตียง อัดลูกค้าแบบแน่นๆอ่ะ
มันเลยให้ฟิลลิ่งแบบสบายๆ นี่แหละ! เสน่ห์ของโฮสเทล
อบอุ่นและสบาย ฟิลลิ่งที่รู้สึกเหมือนอยู่บ้าน
เราได้พักที่ชั้น 2 ซึ่งเป็นโซนเอาใจนักท่องเที่ยวที่เป็นผู้หญิง
ชั้นนี้ LADY ONLY นะคะ สำหรับใครที่กังวลเรื่องความปลอดภัย
กลัวๆในการนอนโฮสเทล จะมาลองแชร์เตียงที่มีแต่เพื่อนสาวก่อนก็ได้
ความเซฟอีกเรื่องคือ ประตูห้องพักจะใช้เป็นระบบคียการ์ด !
สำหรับห้องพัก ในห้องเรา จะเป็นเตียง 2 ชั้น 3 เตียง (รวมเป็น 6 เตียง)
ซึ่งแต่ละเตียงจะมีหมอน ผ้าห่ม และผ้าเช็ดตัวพร้อม
บนหัวนอนมีปลั๊กไฟของแต่ละคน (นอนเล่น Wifi สบายใจเฉิบ)
และที่สำคัญ มีลิ้นชัก ของแต่ละเตียงให้เก็บของ
———————————-
เรื่องห้องน้ำ และห้องอาบน้ำ มันมีแยกเฉพาะของแต่ละชั้นเลย
แยกออกเป็นส่วนชัดเจน อาบน้ำส่วนอาบน้ำ ห้องน้ำส่วนห้องน้ำ
สบู่ แชมพู ไดร์เป่าผม มีพร้อมหมด เรียกว่า Facilities ครบครัน แบกแค่เสื้อผ้ามาก็พอ!
————————————
มาถึงในส่วนของชั้น 3 ก็จะเป็นพื้นที่ส่วนกลาง เอาไว้รวมตัวนั่งคุย มีโซนครัวให้ใช้งานด้วย
แม้พื้นที่ใช้สอยที่มีมันค่อนข้างจำกัด
แต่ที่นี่ไม่ค่อยปล่อยพื้นที่ว่าง ให้เปล่าประโยชน์อ่ะ
มีจิตรกรรมฝาผนัง เก๋ๆ ซึ่งแต่ละชั้นไม่เหมือนกันเลยยย
—————————–
สำหรับความประทับใจ สิ่งที่พีคสุดคือ อาหารเช้า
อร่อยมากกกกกกก สมคำร่ำลือ ย่านสะพานควาย-ประดิพัทธ์
วันที่เราไป ได้ชิมโจ๊ก แบบว่าอร่อยอ่ะ ไม่ต้องเหยาะอะไรเพิ่มเลย
และพี่เค้าใจดี แถมข้าวเหนียวมะม่วงมาให้ชิมด้วย เย้!
ที่นี่จะไม่ได้มีเมนูอาหารเช้าตายตัว ส่วนใหญ่จะเสิร์ฟวนๆกันไป
โดยเค้ายึดหลักไทยสไตล์ เน้นอาหารเช้า เบาๆ รองท้องน่ะ..
———————
ความประทับใจอีกเรื่อง คือ บรรยากาศ
เราชื่นชอบในความอบอุ่นของที่นี่
ความรู้สึกที่ให้มันเหมือนมาเที่ยวเล่น นอนค้างบ้านเพื่อน
มันชวนให้คิดถึงบรรยากาศเดิมๆ อะไรแบบนั้น
โดยสรุป เราคิดว่าที่นี่มันค่อนข้างตอบโจทย์ สำหรับคนที่อยากจะเที่ยวในกรุงเทพฯ
แต่ไม่ได้อยากพักใจกลางเมืองมากเกินไป และก็ยังไม่ทิ้งเรื่องความสะดวกในการเดินทาง
อย่างที่บอกว่าทำเลติด BTS นี่ถือว่าเป็นสวรรค์ชัดๆ ในการเที่ยวที่เมืองนี้
จะมาเดินเล่นตลาดกลางคืน และขี้เกียจกลับบ้านล่ะ
หรือแวะพัก มาทำธุระ รอไปสนามบิน ที่นี่ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ
—————–
สุดท้ายล่ะ .. เราอยากให้ทุกคนลองลบภาพโฮสเทลเดิมๆ และมาลองดูกัน !
การพักโฮสเทลของเราแต่ละครั้งเนี่ย รู้สึกเหมือนได้เปิดโลก 555
ส่วนตัวคือรู้สึกว่าตัวเองจะยึดติดอะไรที่อยู่รอบๆตัวน้อยลงอ่ะ
มันคือการแชร์พื้นที่ แชร์การใช้งานต่างๆ ทำอะไรก็เริ่มนึกถึงส่วนรวม
ได้แชร์ความคิด แชร์ประสบการณ์ เปิดรับอะไรใหม่ๆ
มาๆๆๆ สำหรับใครที่ยังไม่มีแพลนไปไหน หยิบกระเป๋าตอนนี้เลยย
เสาร์-อาทิตย์ จัดทริปเที่ยวเบาๆอยู่ในเมืองนี่ล่ะ
มาลองมอง กรุงเทพฯ ด้วยสายตาที่ต่างออกไป
แล้วจะรู้ว่าความสุข..มันอยู่ใกล้แค่นี้เอง 😛
………..
Facebook : www.facebook.com/247journeyy
Instagram : 24_7journey
24 Hours a day, 7 Days a week for Journey!