Wellnex Clinic คลินิกกายภาพบำบัด ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ รักษาออฟฟิศซินโดรม บรรเทาอาการปวดเมื่อย แบบครบวงจร

คลินิกกายภาพบำบัดแบบครบวงจร บอกเลยว่าไม่เกินจริง สำหรับ Wellnex Clinic คลินิกกายภาพบำบัดชื่อดัง ย่านเลียบด่วนรามอินทรา ที่นี่เป็น Luxury Wellness Center ที่ได้รับรองมาตรฐานสากล อุปกรณ์ทันสมัยผสมผสานกับหัตถการ รักษาด้วยนักกายภาพผู้เชี่ยวชาญ ทำให้มีการวิเคราะห์การรักษาได้อย่างตรงจุด รู้สึกดีขึ้นแน่นอนหลังจากรักษาครั้งแรก! พูดมาขนาดนี้ไม่เกินจริง เพราะเค้าเปิดมามากกว่า 4 ปีแล้วฮะ

นอกจากเชี่ยวชาญเรื่องการรักษาอาการปวดเมื่อย ออฟฟิศซินโดรม ไมเกรน รองช้ำ อาการปวดต่างๆแล้ว ตอนนี้ทางคลินิกได้เปิดตัวบริการใหม่อย่าง การผ่อนคลายกล้ามเนื้อ (muscle relaxation) ตอบโจทย์ลูกค้าที่อยากจะบรรเทาอาการแบบผ่อนคลาย และแน่นอนเรื่องคุณภาพและความคุ้มค่าก็ไม่แพ้กันเลย และไม่ว่าจะมารักษาแบบกายภาพบำบัดหรือแค่ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ จะเป็นห้องส่วนตัวทุกคอร์สที่เลือกใช้บริการเลย ความส่วนตัวและได้รับการดูแลแบบ 1:1 อย่างนี้แหละฮะ ที่ทำให้ลูกค้าหลายคนเลือกกลับมาใช้บริการซ้ำ

สำหรับวันนี้เราเลือกใช้บริการทั้ง 2 แบบเลย เริ่มจากการภาพบำบัดกันก่อน ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 1 ชม.นิดๆ แรกเริ่มก็จะเป็นการปรึกษากับนักกายภาพฯ พูดคุยสอบถามเกี่ยวกับอาการปวด และวิเคราะห์ร่างกายด้วยเทคนิค personalized wellness ค้นหาต้นตอของจุดปวด เรียกได้ว่าพิจารณากันตามอาการและไลฟ์สไตล์การทำงาน การใช้ชีวิตของลูกค้าแต่ละคน ทำให้รักษาได้อย่างตรงจุดมากขึ้นด้วยล่ะฮะ

หลังจากนั้นก็จะเริ่มทำหัตถการ พูดง่ายๆก็คือการนวดเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อก่อนการรักษา ซึ่งบอกเลยว่าด้วยความเชี่ยวชาญของนักกายภาพ คือตรงจุดมากกก ตรงเป๊ะ และลงน้ำหนักดีมาก ไม่เบาหรือหนักเกินไป ทำให้รู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาสเต็ปนึงเลย

หลังจากนั้นนักกายภาพ จะมีการนำเครื่องมือเข้ามาใช้เพื่อรักษาอาการ ซึ่งของเรารอบนี้ ใช้เป็น อัลตร้าซาวน์ (Ultrasound) ซึ่งเป็นการใช้คลื่นความร้อนเข้าไปรักษาถึงกล้ามเนื้อชั้นในได้ลึกขึ้นกว่าเดิม ลดอาการปวดได้ไว และที่สำคัญคือระบมน้อยมาก

เวลเน็ค ไม่ได้โดดเด่นแค่เรื่องรักษาอาการออฟฟิศซินโดรมนะฮะ หากใครที่มีอาการปวดอื่นๆ ก็สามารถเข้ามารักษาได้เหมือนกัน เพราะว่าทีมงาน นักกายภาพของที่นี่ มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับกล้ามเนื้อโดยเฉพาะเลย อย่างเรามีอีกหนึ่งอาการ คือเอ็นข้อมืออักเสบ ทางนักกายภาพก็มีการเลือกอีกหนึ่งเครื่องมือมาใช้ด้วย นั่นคือ เลเซอร์ อาจจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมนอกเหนือจากแพ็คเก็จหลัก แต่หลังจากเลเซอร์ก็รู้สึกว่าอาการปวดเบาขึ้นมาก

หลังจากนั้น จะมีการประคบร้อน เพิ่มการไหลเวียนของเลือด ซึ่งความร้อนจากการประคบมันจะช่วยทำให้หลอดเลือดขยายตัวมากขึ้นฮะ ทำให้เกิดการผ่อนคลายของกล้ามเนื้อและช่วยทำให้อาการปวด บวม อักเสบ ลดลงด้วยนะ ในช่วงนี้เราจะได้นอนหลับตาสบายๆ กับเสียงเพลงเบาๆในห้อง รวมถึงแสงสีฟ้า Light Blue ภายในห้อง ยิ่งช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย มากขึ้นจริงๆ ปิดจบสุดท้ายด้วยการสอนท่ายืดกล้ามเนื้อเพื่อให้เรากลับไปออกกำลังกล้ามเนื้อ ช่วยแก้อาการออฟฟิศซินโดรมได้เองด้วย

และหากใครยังอยากที่จะผ่อนคลายร่างกายกันต่อ ทางคลินิกมีบริการใหม่น่าสนใจมาก เป็นบริการ ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ (muscle relaxation) ด้วยทีมงานคุณภาพ จากนักกายภาพ, ผู้ช่วยนักกายภาพ ที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์เรียกได้ว่าเป็นการผสมผสานของกายภายบำบัดรูปแบบใหม่ ครบวงจร

เวลเน็ค มีบริการที่ค่อนข้างหลากหลาย แตกต่างตามความต้องการผ่อนคลายของทางลูกค้า ถ้าใครไม่แน่ใจว่าอาการตัวเองเหมาะกับแพ็คเก็จไหน สามารถสอบถาม ปรึกษาทางคลินิกได้โดยตรงเลยฮะ

โดยส่วนตัวคือประทับใจในบริการ และการรักษาของที่นี่อยู่แล้ว ทั้งเรื่องความเป็นส่วนตัว มีการใช้ห้องรักษาเป็นสัดส่วนมีนักกายภาพที่เชี่ยวชาญด้านกล้ามเนื้อโดยเฉพาะมาวิเคราะห์อาการ ตรวจและรักษาเองแบบตรงจุดเลย ไม่ต้องกังวลเรื่องการส่งต่อเคสไปให้คนอื่นในการรักษา และยังมีเครื่องมือที่ีทันสมัยและได้รับมาตรฐาน ปลอดภัย ที่สำคัญคือไม่ต้องทนเจ็บ กลัวระบม หลังรักษาเสร็จก็ทำกิจกรรมอื่นๆได้ตามปกติเลย และยิ่งมีบริการนวดผ่อนคลายกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้นมา เรียกได้ว่า เป็นการฟื้นฟูร่างกาย กึ่งรักษากึ่งการพักผ่อน มาที่เดียวครบจบทุกอาการเลยฮะ

เปิดบริการทุกวัน 10.00 – 21.00 น.
เลียบทางด่วนเอกมัย – รามอินทรา (มีที่จอดรถ)
รายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.facebook.com/WellnexThailand/
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : 082-497-9696

---

หากใครกำลังมองหาที่เที่ยว ที่กิน ที่พัก ทริปเดินทาง สามารถติดตามพวกเรา 247Journey ได้ทาง
>> https://247journey.in.th หรือ Facebook : https://www.facebook.com/247journeyy เลยฮะ

รีวิว Mister Robot รุ่น Hybrid ULTRA WASH หุ่นยนต์ทำความสะอาดบ้าน ที่มีติดบ้านแล้วจะติดใจ

ขอเสียงปรบมือให้กับ Mister Robot รุ่น Hybrid ULTRA WASH บัดดี้คนใหม่ของบ้านเราด้วยฮะ วันนี้จะมาแนะนำน้องใหม่ประจำบ้าน หุ่นยนต์ทำความสะอาดบ้าน ผู้ช่วยสุดเท่ที่มาช่วยทำความสะอาดพื้นบ้านให้สะอาดกริ้บบบบ ทั้งดูดฝุ่น ขัด ถูพื้น ซัก เป่า กำจัดกลิ่น ครบจบทุกกระบวนการ เราแค่สั่งงานผ่านแอพ แบบชิลล์ๆไม่ต้องเหนื่อยเลยยยย

ต้องยอมรับเลยว่าเจ้าหุ่นยนต์ทำความสะอาดเนี่ย ช่วยอำนวยความสะดวกเรามากกกกก ยิ่งบ้านไหนที่ไม่มีเวลากวาดบ้านถูบ้าน อาจจะเพราะงานยุ่ง หรือแม้แต่คนที่ไม่ค่อยขยันทำความสะอาดบ้านเหมือนเรา ฮ่าๆ พอได้ลองใช้แล้วจะรู้สึกแฮปปี้มากๆเลยนะ

Hybrid ULTRA WASH เป็นรุ่นใหม่ล่าสุดที่พัฒนามาให้ตอบโจทย์มากขึ้น

ทั้งระบบดูดฝุ่นที่มีโหมดปรับแรงดูดให้เลือกได้ถึง 4 ระดับ ดูดได้หมดตั้งแต่ฝุ่นผง เส้นผม ขนสัตว์ รวมทั้งเศษขยะ น้องจะดูดเข้าไปเก็บไว้ในกล่องเก็บฝุ่นในหุ่นยนต์ ที่จุได้ถึง 400 มล. เลย

และระบบขัดถูพื้นที่เราว่าดีต่อใจมาก เพราะน้องมีผ้าถู 2 อันด้านหลัง หมุนวนๆๆๆฟีลเหมือนเวลาเราขัดพื้นเลย แต่ไม่ต้องกลัวว่าแรงจะตกเลยฮะ โดยน้ำยาจะต้องใช้น้ำยาทำความสะอาดพื้นอเนกประสงค์ Floor Cleaner ที่มากับเครื่องเท่านั้นนะฮะ ใช้ได้กับหุ่นยนต์ ไม้ถูพื้น ทุกรุ่น อัตราส่วนตามความชอบ กลิ่มหอมสะอาด อ่อนโยนกับทั้งคนและสัตว์เลี้ยงด้วย

พอถูเสร็จ หุ่นยนต์ก็จะกลับเข้าประจำตำแหน่งที่แท่นพัก และมีระบบซักผ้าถูพร้อมทำการเป่าแห้งไปในตัว เราไม่ต้องถอดผ้าออกมาซักหรือบิดเองใดๆ ไม่ต้องเลอะมือ ไม่ต้องเปลืองแรงบิด แถมน้ำก็ไม่หยดเลอะบ้านด้วย

ในส่วนการเติมน้ำสะอาดหรือการถ่ายน้ำเสียหลังจากที่หุ่นยนต์ชะล้างผ้าถู ก็สะดวกและทำได้ในถังเดียว เพราะมุมด้านล่างของตัวแท็งก์จะมีวาล์วเปิด/ปิดไว้สำหรับทิ้งน้ำสกปรกออกได้ง่ายๆ ไม่ต้องออกแรงยกเทให้หนักและเหนื่อย

แท็งก์น้ำดีไซน์มาให้ประหยัดพื้นที่ในการใช้งานมากๆ ถังใหญ่ความจุได้ถึง 4,500 มล. เรียกได้ว่าเพียงพอสำหรับการถูครอบคุมพื้นที่ภายในบ้านเลยล่ะ แถมยังมีระบบ Ionized Ozone Deodorizer ช่วยฆ่าเชื้อโรคและกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ด้วย

ที่สำคัญคือเราสามารถควบคุมการทำงานง่ายๆผ่าน Application บนมือถือ ที่สามารถสั่งงานได้จากทุกที่ ไม่จำเป็นว่าจะต้องอยู่ที่บ้านหรือใกล้ตัวเครื่อง อยากให้เจ้าหุ่นยนต์ทำงานเวลาไหน จุดไหนของบ้าน กดสั่งได้แค่ปลายนิ้วชิลล์ๆ อิอิ

ตั้งแต่มีน้องหุ่นยนต์ Mister Robot รุ่น Hybrid ULTRA WASH เป็นผู้ช่วย งานทำความสะอาดบ้านก็กลายเป็นเรื่องสนุกและสะดวกสุดๆไปเลย ♥

Facebook : https://www.facebook.com/misterrobotcleaner
Line: @mister_robot หรือคลิก bit.ly/2ElyF58
Call : 087-087-5352
Shopee : https://shopee.co.th/misterrobot_official

---

หากใครกำลังหาแพลนเที่ยว ที่กิน ที่พัก ทริปเดินทาง รวมถึงไลฟ์สไตล์ต่างๆ สามารถติดตาม 247Journey เพิ่มเติมได้ทุกช่องทางเลยนะฮะ ฝากช่องทางน้องใหม่ สำหรับใครที่ชอบดูคลิปสั้นๆ เรามี Tiktok แล้วนะ ไปรับชมกันได้เลย ♥

OKDD โปรสุดคุ้ม บ้าน คอนโด ตกแต่งใหม่ พร้อมเข้าอยู่ได้ทันที

วันนี้เป็นคอนเทนต์พิเศษ เอาใจคนที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัย เริ่มอยู่ในช่วงวัยที่กำลังสร้างเนื้อสร้างตัว มีอะไรดีๆมาแนะนำกันให้รู้จักฮะ สำหรับใครที่กำลังมองหาที่อยู่ บ้าน-คอนโด ในราคาที่จำกัด งบประมาณ ไม่บานปลาย ที่สำคัญสุดคือพร้อมเข้าอยู่ได้ทันที ขอให้อ่านให้จบคอนเทนต์ น่าจะเป็นประโยชน์และอีกหนึ่งตัวเลือกได้ไม่มากก็น้อยฮะ

• 

เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับ OKDD เป็นพื้นที่สำหรับการ ซื้อ-ขาย-เช่า ลงทุน บ้าน คอนโด และอสังหาริมทรัพย์ที่น่าสนใจ ซึ่งทาง OKDD จะคัดสรรอสังหาริมทรัพย์ บ้าน คอนโด มาตกแต่งใหม่ เน้นคอนเซปต์ เข้าอยู่ได้ทันที’ บอกได้เลยว่าเหมาะมาก สำหรับลูกค้าที่กำลังมองหาที่อยู่ แบบยกกระเป๋าเข้ามาใบเดียว พร้อมอยู่ได้เลย เพราะมีเฟอร์นิเจอร์และตกแต่งทุกอย่างครบหมดแล้ว ในราคาสุดคุ้ม ซึ่งทำให้ประหยัดเวลา และหมดกังวลเรื่องอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการดูเรื่องโครงสร้าง การหาผู้รับเหมา รวมถึงไม่ต้องกังวลเรื่องงบประมาณบานปลาย ไปได้เยอะเลยล่ะฮะ

• 

เราขอนำตัวอย่าง คอนโดแถว เมืองทองธานี ซึ่งเราได้ไปเซอร์เวย์ที่นี่มาฮะ ค่อนข้างถูกใจ เลยขอยกตัวอย่างที่นี่ มาให้ทุกคนดูล่ะกันนะ แต่ก็ไม่ได้มีแค่ที่นี่ที่เดียวนะ โลเคชั่นอื่นๆก็มี ถ้าใครสนใจก็ คลิกที่นี่ได้เลย

Victoria Lakeview Condominium เมืองทองธานี

วิคตอเรีย เลควิว คอนโดมิเนียม ตั้งอยู่ถนนบอนด์สตรีท (แจ้งวัฒนะ-ติวานนท์) ใจกลางเมืองทองธานี พัฒนาโดย Bangkok Land ที่เป็นเจ้าของโครงการเมืองทองธานี ที่นี่เป็นคอนโด High-Rise 24 ชั้น โลเคชั่นใกล้กับถนนเส้นหลักเลย เดินทางสะดวกมากๆ และอนาคตคือเพิ่มความเป็นทำเลทองไปอีก ติดรถไฟฟ้ารถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีเมืองทองธานี

• 

ก่อนอื่น เราจะพาไปดูบรรยากาศรอบๆกันนะฮะ ฝั่งตรงข้ามมี 7-11, Gym มวยไทย, ธนาคารไทยพาณิชย์ ส่วนใต้คอนโดก็มีร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านนวด และร้านอื่นๆอีกมากมาย เรียกได้ว่าเป็นเมืองอยู่อาศัย แหล่งชุมชน ไม่ต้องกลัวเหงา และที่สำคัญบรรยากาศถนนบอนด์สตรีท คือได้ฟีลเมืองนอกมาก

• 

• 

• 

• 

---

มาดูบรรยากาศภายในกันเลยดีกว่า ห้องนี้อยู่ที่ชั้น 13 ความสูงของชั้น กำลังดี มีวิวติดถนน ออกไปยืนนอกระเบียงคือมุมดีเว่อร์ และจุดเด่นที่เราชอบ สำหรับโครงการนี้เลยก็คือ ขนาดไซส์ห้องใหญ่มาก เมื่อเทียบกับราคาคอนโดทั่วไป ดีไซน์การตกแต่งออกแบบมาดีเลยล่ะ สไตล์มินิมอล ดูเรียบง่าย ใครชอบโทนขาวๆคลีนๆคือถูกใจแน่นอนฮะ

• 

รายละเอียดของห้อง จะเป็น 2 Bedroom ขนาด 54 Sq.m. ตกแต่งพร้อมอยู่ได้ทันที ราคาอยู่ที่ 2.2 ล้านบาท ซึ่งปกติเวลาเราซื้อคอนโดจะเป็นห้องเปล่า หรือถ้าซื้อมารีโนเวทก็ต้องวางแผน ค่อนข้างเยอะ ทั้งดีไซน์ การตกแต่งภายใน วัสดุที่ใช้ เฟอร์นิเจอร์ ตรวจสอบงานระบบ หรือตามหาผู้รับเหมา ซึ่งเราว่า OKDD ตอบโจทย์เรื่องนี้ได้ดีมาก ที่คัดเฉพาะบ้าน-คอนโด ตกแต่งพร้อมอยู่มาเรียบร้อยแล้ว เพราะมันประหยัดเวลาและถ้าเทียบค่าใช้จ่ายแล้วคุ้มค่า ซึ่งในบางเรื่องเราไม่ถนัดจริงๆ ก็ตัดปัญหาเหล่านี้ออกไปได้ฮะ

• 

สำหรับห้องนั่งเล่น ตกแต่งในบรรยากาศสบายๆ เหมาะกับเวลาเหนื่อยจากการทำงาน มานั่งเล่น ดูทีวี อ่านหนังสือ โทนสีที่ใช้ดูอบอุ่น น่าอยู่มากเลยฮะ และยังมีระเบียง ที่สามารถเดินออกไปได้ด้วยนะ ซึ่งมุมห้องนี้จะเห็นวิวถนนพอดี เช้าๆตื่นมายืดเส้นยืดสาย จิบกาแฟสามารถเปิดประตูไปรับลมเย็นๆ ก็ดีเหมือนกันฮะ

• 

• 

• 

• 

• 

• 

• 

ต่อมา เป็นส่วนของห้องครัว มีการแบ่งสัดส่วนต่อจากโซนนั่งเล่น มาพร้อมกับ เคาน์เตอร์ Built-in เป็นครัวง่ายๆ ไม่จริงจังมาก ตอบโจทย์คนยุคใหม่ฮะ โทนขาวๆคลีนๆแสงส่องถึง น่ารักดีฮะ สำหรับมุมนี้

• 

• 

• 

• 

• 

• 

• 

ห้องนอน Master Bedroom ห้องกว้างไม่อึดอัด มีเตียงนอน 5 ฟุต พร้อมตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเล็กๆ หน้าต่างไซส์ใหญ่เต็มผนัง ทำให้แสงเข้าถึง บรรยากาศละมุนมากเลย

• 

• 

• 

• 

• 

• 

• 

และนี่ก็เป็นตัวอย่างคอนโดตกแต่งพร้อมอยู่ ทำเลและราคาน่าสนใจ จากทาง OKDD นะฮะ
ซึ่งจริงๆแล้วก็ไม่ได้แนะนำเฉพาะเรื่องการขาย เช่า ซื้อ เท่านั้น
ยังช่วยให้คำปรึกษาแนะนำ เตรียมความพร้อมในการกู้สินเชื่อด้วย
เผื่อถ้าใครกำลังมองหาบ้าน-คอนโด ตกแต่งใหม่ สามารถไปดูเพิ่มเติม และสอบถามทาง Facebook เพจ >> คลิกที่นี่ได้เลย

---

ส่วนใครที่ชอบเรื่องกิน เที่ยว ทริปเดินทาง สามารถติดตาม 247Journey ได้ทาง >> https://247journey.in.th หรือ Facebook : https://www.facebook.com/247journeyy เลยฮะ

How to ซื้อประกันรถยนต์ออนไลน์ แบบง่ายๆ เพียงไม่กี่ขั้นตอน ได้รับกรมธรรม์ทันที

• 

สมัยนี้ อะไรๆก็ออนไลน์หมดแล้ว แม้แต่ประกันรถยนต์ก็สามารถซื้อออนไลน์ได้แล้วนะฮะ รู้ยัง? สำหรับคอนเทนต์พิเศษนี้ จะพามาแนะนำวิธีการ ซื้อประกันรถยนต์ออนไลน์ ให้กับทุกคนกัน เผื่อใครกำลังมองหากรมธรรม์ และต้องการจะเช็คเบี้ยประกัน และซื้อประกันรถยนต์ด้วยตัวเอง ทำได้แบบง่ายๆเลยนะฮะ ไม่กี่ขั้นตอน ก็รับกรมธรรม์ออนไลน์ได้ทันที!

คอนเทนต์นี้เรามาเล่าถึงตัวประกันภัยรถยนต์ที่เรากำลังใช้อยู่นะฮะ เป็นของบริษัททิพยประกันภัย ต้องบอกก่อนว่า เวลาที่เราจะเลือกซื้อประกันภัยอะไรสักอย่างเนี่ย ก็จะดูจากหลายๆอย่างประกอบกัน ทั้งชื่อเสียงบริษัท ความยาวนาน รวมไปถึงความคุ้มค่าของกรมธรรม์ และที่สำคัญมากอีกอย่างคือระบบการซื้อ ซึ่งหลังจากสกรีนมาคร่าวๆแล้ว เราว่าของที่นี่ใช้งานค่อนข้างง่าย สะดวก และระบบเสถียรใช้ได้เลย ซึ่งสามารถใช้งานได้ทั้งทางเว็บไซต์ https://www.tipinsure.com/ และแอพพลิเคชั่นเลยล่ะฮะ

• 

ขั้นตอนการซื้อประกันของ Tipinsure สามารถทำด้วยตัวเองได้แบบง่ายๆ เพียงไม่กี่ขั้นตอนก็ได้รับกรมธรรม์แล้ว เช็คราคา เลือกแบบประกัน จ่ายเงิน และรับกรมธรรม์ออนไลน์ได้ทันที

1.เช็คราคา

ระบุข้อมูลเลือกแบบประกันภัยรถยนต์ที่สนใจ พร้อมระบุข้อมูลรถยนต์ เพื่อทำการเช็คเบี้ยประกัน

• 

2.เลือกแพ็คเกจ

เลือกแพ็คเกจตามไลฟ์สไตล์การขับของตัวเอง อย่างเราสนใจประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 เพราะครอบคลุมทั้งหมด ซึ่งของทางทิพยประกันภัยมีให้เลือกทั้งแบบซ่อมอู่และซ่อมศูนย์ได้ด้วย มาดูกันต่อว่ามีแพ็คเก็จไหนน่าสนใจบ้าง?

• 

TIP Premium

ประกันชั้น 1 แบบจัดเต็ม สำหรับคนชอบเดินทาง มีการใช้งานรถบ่อยเราว่าเหมาะกับแพ็คเกจนี้เลย มีให้ทุกคนเลือกว่าจะซ่อมอู่คูณภาพทั่วไทย หรือ ซ่อมศูนย์ รับประกันงานซ่อม 1 ปี ไม่มีค่าเสียส่วนแรก คุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถยนต์ แลคุ้มครองทั้งแบบมีและไม่มีคู่กรณี รวมถึงรถยนต์สูญหาย ไฟไหม้ น้ำท่วม ใครเป็นมือใหม่หัดขับ นับว่าตอบโจทย์เลยแหละ และสามารถผ่อนผ่านบัตรเครดิตได้ 0% นาน 10 เดือน

• ซ่อมอู่เริ่มต้น 12,xxx บาท/ปี
• ซ่อมศูนย์เริ่มต้น 14,xxx บาท/ปี

• 

TIP-Shock Price

ประกันชั้น 1 ราคาถูกพิเศษ เบี้ยเริ่มต้น 9,xxx บาท เราว่าเหมาะมากกับคนที่ใช้รถแนว Eco Car เพราะว่ามันครอบคลุมรถยนต์รุ่นฮิตหลายรุ่นมาก ไม่ใช่ว่าจะเจอประกันรถยนต์ชั้น 1 ราคาพิเศษขนาดนี้ ที่สำคัญคือความคุ้มครองเทียบเคียงตัวพรีเมียมเลย ซ่อมอู่คุณภาพ ไม่มีค่าเสียหายส่วนแรก คุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถยนต์ คุ้มครองทั้งแบบมีและไม่มีคู่กรณี รวมถึงรถยนต์สูญหาย ไฟไหม้ น้ำท่วม พร้อมประกันคุณภาพงานซ่อม 1 ปี สามารถผ่อนผ่านบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ 0% นาน 3 เดือนเลยนะฮะ

• 

TIP Lady ประกันชั้น 1 ที่เข้าใจผู้หญิง เพราะนอกจากจะคุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถยนต์ คุ้มครองทั้งแบบมีและไม่มีคู่กรณี รวมถึงรถยนต์สูญหาย ไฟไหม้ น้ำท่วม ยังตอบโจทย์สุภาพสตรี ที่ต้องการความปลอดภัยและการดูแลเป็นพิเศษ ตลอด 24 ชม. รวมถึงการคุ้มครองทรัพย์สินในรถ และค่าศัลยกรรมที่เกิดจากอุบัติเหตุอีกด้วย ถ้าคุณเป็นผู้หญิงเราขอแนะนำให้ซื้อ คุ้มมาก!! ผ่อนผ่านบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ 0% นาน 10 เดือน

• ซ่อมอู่เริ่มต้น 12,xxx บาท/ปี
• ซ่อมศูนย์เริ่มต้น 14,xxx บาท/ปี

• 

TIP อัพทูไมล์ ประกันชั้น 1 เหมาะสำหรับคนใช้รถน้อย ขับบางวัน เพราะมีรถหลายคัน, ขับใกล้ๆ เพราะใช้รับ-ส่งลูก, ขับน้อย จอดนาน เพราะเน้นโดยสารรถไฟฟ้า, ขับเฉพาะยามจำเป็น ปีนึงไม่ถึง 10,000 กิโล แต่อยากได้ความคุ้มครองเหมือนประกันชั้น1 ทั้งความคุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถยนต์ คุ้มครองทั้งแบบมีและไม่มีคู่กรณี รวมถึงรถยนต์สูญหายไฟไหม้ น้ำท่วม ขับแค่ไหน จ่ายแค่นั้น! สามารถผ่อนผ่านบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ 0% นาน 3 เดือน

• เริ่มต้นเพียง 4,XXX บาท/ปี

• 

ซึงถ้าใครมาถึงตรงนี้แล้ว สนใจไปหมดทุกแบบเลย ทำไงดีล่ะ เราแนะนำนี่เลยให้กดเปรียบเทียบแพ็คเก็จ ซึ่งความดีงามของระบบการสั่งซื้อออนไลน์ที่เราชอบมากอีกฟังก์ชั่นก็คือการเปรียบเทียบแพ็คเกจที่เราสนใจได้เนี่ยแหละ ดูได้ง่ายขึ้นว่าความคุ้มครองแต่ละแบบต่างกันอย่างไร ไม่ต้องนั่งลิสต์เอง

• 

---

3. ระบุข้อมูล

หลังจากที่เลือกแบบประกันที่สนใจเรียบร้อยแล้ว ก็มาถึงขั้นตอนกรอกข้อมูลส่วนตัว และข้อมูลรถยนต์นะฮะ โดยขั้นตอนนี้จะมีทั้งหมด 5 หัวข้อ ต้องระบุให้ครบทั้งหมดนะ ถึงจะไปต่อขั้นตอนถัดไปกันได้

• 

4.ชำระเงิน

ตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดให้เรียบร้อย ใส่ Coupon ส่วนลดเพื่อรับส่วนลด (ถ้ามี) เลือกวิธีการชำระเงิน มีทั้ง บัตรเครดิต/เดบิด หรือว่าจะเป็น QR Code สแกนจ่าย หรือจะจ่ายผ่าน Rabbit Line Pay ก็ได้นะฮะ เท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อย รอรับกรมธรรม์ได้เลย

• 

นอกจากโปรโมชั่นดีๆแล้ว ทางทิพยประกันภัย ยังมีบริการพิเศษที่ไม่เหมือนใคร นั่นก็คือ บริการเลขาส่วนตัวด้านการเคลม คอยจัดการประสานงานให้ เริ่มตั้งแต่ต้นจนจบเคส ทั้งนัดหมาย ติดตามและคุยกับอู่หรือศูนย์บริการ เหมือนมีเลขาส่วนตัวมาจัดการให้ ไร้กังวลเรื่องซ่อม เรื่องปัญหาการเคลมอุ่นใจ มีคนช่วยดูแลอยู่ตลอด

• 

และสำหรับตอนนี้ใครที่ประกันรถยนต์กำลังจะหมด แนะนำให้เริ่มมองหากันได้แล้วนะฮะ ซึ่งถ้าเป็นประกันภัยรถยนต์ สามารถซื้อล่วงหน้าก่อนประกันจะหมดได้ 2 เดือนนะ ลองเริ่มเช็คเบี้ยประกัน ความคุ้มครอง ก่อนตัดสินใจก็ลองหาข้อมูลกันเพิ่มนะว่าจะต่อประกันกับบริษัทเดิมหรือบริษัทใหม่ และเราาหวังว่าคอนเทนต์นี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนบ้างนะฮะ สำหรับใครที่กำลังมองหาประกันรถยนต์อยู่ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.tipinsure.com/

• 

หมายเหตุ : เงื่อนไขการรับประกันภัยเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนดผู้ซื้อควรทำความเข้าใจและศึกษารายละเอียดความคุ้มครองและเงื่อนไขก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง

---

24 Hours a day, 7 Days a week for Journey!

Website : https://247journey.in.th/

Facebook : 247Journey

Twitter : 247Journey

Instagram : 247Journeyy

8 Must-Have Items ของจำเป็น ที่ควรพกไป เมื่อไป เที่ยวเชิงธรรมชาติ

• 

ช่วงปลายปีอากาศดี ๆ ใคร ๆ ก็นึกอยากจะออกเดินทางท่องเที่ยว แม้ว่าเราจะเดินทางไปเที่ยวยังต่างประเทศกันไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่มีสถานที่ให้ไปเที่ยวเลย เพราะในประเทศไทยเราเองนั้น มีแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติที่สวยงามมากมาย ไม่ว่าจะเป็นอุทยาน ป่าเขา น้ำตก หรือยอดดอย ที่สามารถไปเที่ยวกันได้พร้อมชมความสวยงามของธรรมชาติที่น่าทึ่ง แต่ก่อนจะเดินทางไปเที่ยวกันนั้น เรามาเตรียมตัวให้พร้อมก่อนไปกับ ไอเทม ของจำเป็น ที่ควรพกไปเมื่อไป เที่ยวเชิงธรรมชาติ จะมีอะไรบ้างนั้น มาดูกันเลย

8 ไอเทมที่จำเป็น ที่สายท่องเที่ยวธรรมชาติควรพกติดตัวไปด้วย

1. กระเป๋าเป้

• 

แน่นอนว่าเมื่อต้องเดินทางท่องเที่ยว ก็จะต้องมีสัมภาระติดตัวไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์มือถือต่าง ๆ กระเป๋าสตางค์ ของใช้จำเป็นอื่น ๆ ที่ถ้าจะใส่กระเป๋าสะพายทั่วไปของสาว ๆ อาจจะยัดไม่พอ หรือไม่คล่องตัวนัก การเลือกใช้กระเป๋าเป้จะทำให้การเดินทางเที่ยวของคุณสะดวกยิ่งขึ้น แถมยังจุของได้เยอะอีกด้วย ถ้านึกไม่ออกว่าจะใช้กระเป๋าเป้แบบไหน แนะนำกระเป๋า anello เพราะขนาดกะทัดรัด ไม่เล็กและไม่ใหญ่จนเกินไป ใส่ของได้มาก ที่สำคัญกันน้ำได้อีกด้วย เหมาะแก่การสะพายไปบุกป่าฝ่าดงสุด ๆ 

2. รองเท้า

• 

การจะไปเดินเที่ยวชมธรรมชาตินั้น ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นสถานที่ที่อยู่ตามป่า เขา และอุทยานต่าง ๆ ที่ต้องใช้ความระมัดระวังในการเดินเป็นพิเศษ ดังนั้น รองเท้าที่เลือกใช้ จึงเป็นอีกสิ่งสำคัญที่มองข้ามไม่ได้ การใช้รองเท้าเดินป่าจะช่วยให้การเดินขึ้นเขาลงห้วยสะดวกยิ่งขึ้น เพราะพื้นรองเท้าจะกันลื่นและยึดเกาะแน่นกับพื้นผิวสัมผัส ทำให้ไม่ลื่นล้มได้ง่าย ซึ่งจะดีกว่าการเลือกใส่รองเท้าผ้าใบมาก ๆ เพราะรองเท้าผ้าใบเป็นพื้นยางหากเจอพื้นที่เปียกหรือลื่น อาจทำให้ลื่นล้มเกิดอุบัติเหตุได้นั่นเอง

3. ขวดใส่น้ำ

• 

อีกหนึ่งไอเทมที่ลืมไม่ได้เลย คือ ขวดใส่น้ำ เพราะการเดินทางท่องเที่ยวที่ต้องเดินระยะทางไกลอาจทำให้รู้สึกกระหายน้ำได้ ซึ่งขวดน้ำที่ใช้ซ้ำได้ไม่เพียงแต่เป็นทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังเป็นวิธีที่ดีในการประหยัดเงินอีกด้วย เพื่อที่จะได้ไม่ต้องซื้อเพิ่มอีกแต่ใช้การเติมน้ำเอา และยังสามารถพกไปได้ในทุก ๆ ที่เมื่อเดินทาง และกระเป๋าเป้ส่วนใหญ่ก็มีช่องใส่ขวดน้ำ จึงง่ายต่อการพกอีกด้วย

4. แว่นกันแดด

• 

ใคร ๆ ก็รู้ว่าแดดเมืองไทยเจิดจ้าขนาดไหน ไม่ว่าจะไปเที่ยวฤดูไหนก็ตามการใส่แว่นเพื่อกันแดดจึงจำเป็นมาก เพราะแสงแดดสามารถทำร้ายดวงตาของเราได้ตลอดเวลา อย่าลืมพกแว่นกันแดดคุณภาพดีที่จะปกป้องดวงตาของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ แนะนำให้เลือกแว่นกันแดดที่ป้องกันรังสี UV ได้ทั้ง UVA, UVB และ UVC รวมถึงเลือกที่เป็นเลนส์ Polarized เพราะจะช่วยลดแสงสะท้อนและลดอาการปวดตาได้ ทำให้เราสามารถจ้องมองดวงอาทิตย์ได้โดยตรง สามารถใช้วันที่มีแดดออกได้ตามต้องการ

5. หมวก

• 

นอกจากแว่นตากันแดดจะช่วยปกป้องแสงแดดให้กับดวงตาแล้ว หมวกสวย ๆ เก๋ ๆ สักใบก็สามารถช่วยป้องกันศีรษะและใบหน้าจากแสงแดดได้ด้วย แถมยังเป็นพร็อพในการถ่ายรูปให้คุณออกมาดูสวย เท่ เลือกหมวกที่ดูเหมาะกับสไตล์ของคุณ ที่ไม่จำเป็นต้องมีราคาแพง แต่ควรมีปีกของหมวกที่เพียงพอที่จะบดบังแสงแดดได้ และเลือกขนาดที่ไม่ใหญ่จนเกินไป เพื่อจะได้ไม่เกะกะในระหว่างเดินทางท่องเที่ยว

6. ยา

• 

แม้ว่าการไปเที่ยวเชิงธรรมชาติของคุณนั้น จะเป็นแบบไปเช้าเย็นกลับไม่ได้ค้างคืนหรือตั้งแคมป์ แต่ยาที่ต้องใช้ระหว่างการเดินทางอาจเป็นสิ่งของที่สำคัญที่สุด โดยเฉพาะยาสามัญประจำบ้านทั่วไป เช่น ยาพารา ยาแก้ปวด ยาแก้ท้องเสีย เกลือแร่ เบตาดีนใส่แผล แอลกอฮอล์ล้างแผล และพลาสเตอร์ปิดแผลแบบกันน้ำ เพราะการเดินทางท่องเที่ยวอาจเกิดอุบัติเหตุเล็ก ๆ น้อย ๆ ระหว่างเดินทางได้ เพื่อการปฐมพยาบาลเบื้องต้น จึงควรพกยาสามัญประจำบ้านไปด้วยจะดีที่สุด

7. โทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์ชาร์จ

• 

ไม่ว่าจะไปท่องเที่ยวที่ไหนใกล้ไกล มีสัญญาณมือถือหรือไม่ การพกโทรศัพท์มือถือไปเป็นสิ่งจำเป็น เพราะไม่มีใครรู้ว่าในระหว่างการเดินทางท่องเที่ยวของคุณนั้น จะเกิดเหตุด่วนเหตุร้ายอะไรหรือไม่ การมีโทรศัพท์ไว้ติดตัว ไม่ใช่แค่การรายงานการเดินทางของคุณให้เพื่อน ๆ ได้รู้ผ่านทางโซเชียลมีเดียเท่านั้น แต่มันยังเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ติดต่อขอความช่วยเหลือในยามฉุกเฉินได้อีกด้วย ที่สำคัญควรชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มอยู่ตลอดเวลา และอย่าลืมพกสายชาร์จ และแบตเตอรี่สำรองไปด้วย 

8. กล้องถ่ายรูป

• 

สุดท้ายกับไอเทมจำเป็นที่ไม่ควรพลาดที่จะพกไปเที่ยวด้วยนั่นคือ กล้องถ่ายรูป มันคงจะไม่ดีนักหากคุณไม่ได้เก็บภาพความประทับใจ หรือความสวยงามของธรรมชาติกลับมา เพราะกล้องถ่ายรูปคือสิ่งที่บันทึกความทรงจำและเรื่องราวต่าง ๆ ตลอดการเดินทางของคุณ แม้ว่าปัจจุบันสมาร์ทโฟนจะมีคุณภาพดีพอที่จะถ่ายภาพได้ออกมาสวยงาม แต่ถ้าต้องการภาพธรรมชาติที่ได้มุมกว้างและเก็บได้ทุกรายละเอียดแล้วนั้น กล้องถ่ายรูปก็ยังเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า เพราะจะให้ภาพได้ตามอย่างที่คุณต้องการในทุกมุมมอง ที่สำคัญอย่าลืมอุปกรณ์ในการชาร์จด้วยล่ะ ยิ่งหากต้องใช้ถ่ายภาพทั้งวัน แบตเตอรี่จะได้มีใช้อย่างเพียงพอ รวมไปถึงเมมโมรี่การ์ด ตรวจเช็คให้ดีก่อนว่าเมมโมรี่การ์ดที่มีอยู่นั้น มีความจุเหลือเพียงพอสำหรับทริปเที่ยวธรรมชาติของคุณหรือไม่

---

การจะไปท่องเที่ยว และยิ่งเป็นการ เที่ยวเชิงธรรมชาติ นั้น เป็นการเที่ยวแบบที่เข้าไปหาแหล่งธรรมชาติ และมักจะอยู่ไกลจากผู้คนและเขตเมือง ดังนั้น ไอเทมต่างๆ ของจำเป็น เหล่านี้ นอกจากจะช่วยให้การเที่ยวของคุณราบรื่นไม่สะดุดแล้ว ในยามฉุกเฉินยังอาจเป็นอุปกรณ์ช่วยชีวิตได้อีกด้วย อย่าลืมจัดกระเป๋าแล้วหยิบ 8 ไอเทมนี้ไปด้วย เพื่อให้การเที่ยวของคุณสนุกและปลอดภัย และสุดท้าย เลือกเสื้อผ้าที่สวมใส่สบายและคล่องตัว โดยเฉพาะสำหรับบางสถานที่ที่ต้องเคลื่อนไหวมาก อย่างเช่น เดินขึ้นเนินเขา ปีนโขดหิน นอกจากเพื่อความคล่องตัวแล้ว ต้องระวังในเรื่องของความปลอดภัย และความอบอุ่นเพียงพอด้วย หากต้องไปในสถานที่ที่มีอากาศหนาวเย็นเป็นพิเศษ อย่าลืมหยิบแจ็กเก็ตกันหนาวติดตัวไปด้วยล่ะ

ที่มา : https://www.st-christophers.co.uk/travel-blog/what-to-pack-in-your-travel-backpack

---

Shopee 2.2 Free Shipping Sale จัดโปรโมชั่นเด็ดรับต้นปี! พบกับดีลพิเศษ ให้คุณช้อปกันแบบส่งฟรีไม่มีขั้นต่ำ! พร้อมกองทัพสินค้าของแท้จากแบรนด์ดังที่มาพร้อมโปรโมชั่นส่งฟรีทุกวัน พลาดไม่ได้ เริ่มช้อปพร้อมกัน ตั้งแต่วันที่ 25 มกราคม – 2 กุมภาพันธ์นี้เท่านั้น!

และหากใครได้ไอเท็มจำเป็นแล้ว ยังไม่รู้จะไปไหน กำลังหาแพลนเที่ยวอยู่ สามารถติดตามทริปท่องเที่ยวอื่นๆของเราได้ทาง >> https://247journey.in.th เลยฮะ

5 อุปกรณ์หาง่าย ออกกำลังกายที่บ้าน ในวันที่ต้องกักตัว Workout from Home

สำหรับคอนเทนต์นี้จะมาชวนทุกคน ออกกำลังกายที่บ้าน Work(out) From Home กัน!

ในช่วงท่ามกลางวิกฤตไวรัสระบาด ทุกคนก็ต้องเซฟตัวเอง อยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ ช่วยกันกักตัว ฟิตเนสก็ปิด Netflix ก็ดูหมดทุกเรื่องแล้ว ทางเราก็กลัวทุกคนจะเบื่อไม่มีอะไรทำ จากคนที่เคยอยู่แต่นอกบ้าน พออยู่บ้านยาวๆก็เริ่มปล่อยเนื้อปล่อยตัว 5555 และต้องยอมรับว่าสมัยนี้คนเราหันมาใส่ใจสุขภาพและรูปร่างที่ดีกันมากขึ้น นอกจากการทานอาหารดีมีประโยชน์ กินคลีนควบคุมน้ำหนัก อีกหนึ่งอย่างที่สำคัญคือ การออกกำลังกาย วันนี้เรา 247Journey ก็อยากสนับสนุนให้ทุกคนหันมาออกกำลังกาย เลยขออาสา รวบรวม 5 อุปกรณ์หาง่าย ออกกำลังกายที่บ้าน ในวันที่ต้องกักตัว เป็นอุปกรณ์แบบเบสิคที่แนะนำให้มีไว้ติดบ้าน ใช้พื้นที่ไม่เยอะ และราคาไม่แพง เผื่อเป็นไอเดียให้ใครที่คิดอยากเริ่มออกกำลังนะฮะ

1.Yoga/Training Mat

เสื่อโยคะ (Yoga/Training Mat) ที่ไม่จำเป็นว่าต้องเล่นโยคะเพียงอย่างเดียว เพราะเสื่อนี้สามารถใช้สำหรับป้องกันการบาดเจ็บ ใช้รองเข่า ข้อศอก หรือรองหลังในท่าออกกำลังต่างๆที่อยู่กับพื้นแข็งๆ ซึ่งเสื่อนี้ก็จะมีหลายราคาตั้งแต่หลักร้อยจนถึงหลักพันเลยฮะ

หาซื้อเสื่อโยคะ หรือ เบาะออกกำลังกายได้ที่นี่เลย ราคาเริ่มต้นแค่ 159.- บาท >> คลิกที่นี่

2.Dumbbell

ใครที่เริ่มออกกำลังกายแบบ weight training จำเป็นต้องมี เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยในการกระชับสัดส่วนและสร้างกล้ามเนื้อ ซึ่ง ดัมเบล(Dumbbell) ก็จะมีหลากหลายขนาดและน้ำหนัก รวมถึงมีแบบปรับน้ำหนักที่เราสามารถเพิ่ม/ลดเองได้ด้วย

หาซื้อดัมเบล ลดราคาเหลือแค่ 499.- พร้อมส่งฟรี >> คลิกที่นี่

3.Resistance Band

ยางยืดที่ช่วยเพิ่มแรงต้านในการออกกำลังกาย เป็นอีกอุปกรณ์ที่มีน้ำหนักเบาและพกพาสะดวกมากๆ โดยจะมีระดับความต้านและความหนาที่แตกต่างกัน สามารถดัดแปลงเล่นได้หลายส่วนเลยค่ะ

หาซื้อยางยืด ออกกำลัง ราคาไม่แรง มีให้เลือกทุกแบรนด์ >> คลิกที่นี่

4.Hula Hoop

งานเอวคอดต้องมา! สำหรับใครที่อยากมีท้องสวย ก้นเฟิร์ม อีกหนึ่งอุปกรณ์ที่สาวๆหลายคนชอบก็คงหนีไม่พ้นฮูล่าฮูปตัวนี้ เพราะนอกจากจะหาซื้อง่าย ยังได้โยกย้ายส่ายสะโพก จะเปิดเพลงเข้าจังหวะไปด้วยก็ช่วยเพิ่มความบันเทิงได้ดีทีเดียว

หาซื้อฮูลาฮูป สัมผัสนุ่ม ได้มาตรฐาน ถอดประกอบได้ >> คลิกที่นี่

5.Jump Rope

สำหรับใครที่ชอบการ cardio หรือชอบการเบิร์นแบบเร่งด่วน เชือกกระโดดเป็นอุปกรณ์ที่ค่อนข้างตอบโจทย์ นอกจากฝึกความว่องไว ยังช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้หัวใจและหลอดเลือดไปพร้อมๆกันด้วย

หาซื้อเชือกกระโดด หุ่นฟิต เพิ่มความแข็งแรง สุขภาพดี งบเริ่มต้น 70.- บาท >> คลิกที่นี่

และจบกันไปแล้วนะฮะ กับ 5 อุปกรณ์หาง่าย ออกกำลังกายที่บ้าน ในวันที่ต้องกักตัว บอกได้เลยว่าสุขภาพดีมีได้ทุกที่ แค่เราเริ่มที่จะลงมือทำ ไม่จำเป็นต้องเสียเงินซื้ออุปกรณ์แพงๆ เราอาจเริ่มจากการหาวัสดุใกล้ตัวมาลองเล่นก่อน เช่น ใช้ขวดน้ำแทนดัมเบล ใช้บันไดแทนสเต็ป บลาๆๆ ซึ่งข้อดีของการออกกำลังกายที่บ้าน นอกจากจะช่วยประหยัดเวลาในการเดินทาง ยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายอื่นๆไปด้วย ทุกอย่างไม่มีผิดมีถูก แค่เราเลือกในแบบที่ชอบและทำมันอย่างมีความสุขนะฮะ

---

หากใครกำลังหากิจกรรมทำอยู่ ขอแนะนำคอลัมน์ Spice – Up ของพวกเราเลยฮะ ตอนนี้เรากำลังเร่งทยอยผลิตคอนเทนต์ ฮ่าๆ การันตีได้เลยว่ามีเรื่องสนุกๆให้ทำที่บ้านกันแน่นอน ตอนนี้มี 15 เมนูไข่ที่ทำได้ง่ายและดีต่อสุขภาพ by pookie_jb สามารถ คลิกอ่านที่นี่ และทำตามได้เลย

15 เมนูไข่ ง่ายและดีต่อสุขภาพ

(15 Healthy Egg Recipes)

‘ไข่’ วัตถุดิบที่หาได้ง่ายและราคาถูก

สำหรับสาวๆที่รักสุขภาพจะรู้ดีว่าไข่เป็นแหล่งโปรตีนชั้นดีเลยค่ะ

…..

ไข่ 1 ใบให้พลังงานประมาณ 90 kcal เป็นโปรตีนประมาณ 6 กรัม

วันนี้ปุ๊กเลยลองรอบรวมเมนูอาหารแบบ Healthy ที่ทำทานเอง

และมีส่วนประกอบหลักคือ ‘ไข่’

เมนูไข่ ง่ายๆที่เชื่อว่าทุกคนสามารถทำได้ ลองมาชมกันนะคะ ^^

1.ไข่ในหลุม

เมนูนี้ทำได้ไม่ยากเลยค่ะ แค่ใช้ขนมปังที่ชอบ

ถ้าเป็นแบบแผ่นก็นำมาพับลงไปในถ้วยพิมพ์ ตอกไข่ เข้าเตาอบ

หรือจะเป็นแบบบัน เอามาเจาะรูตรงกลาง ตอกไข่ใส่ชีสลงไป

แล้วเข้าไมโครเวฟ ปิ๊ง! ง่ายสุดๆ

---

2. Egg salad sandwich

แซนวิสอีกเมนูที่ทำง่ายไม่แพ้กันค่ะ ปุ๊กชอบทำเวลาที่มีไข่แก้บนเหลือที่บ้านเยอะๆ lol

ใช้ไข่ต้มสุก ปุ๊กใช้ไข่ขาว2แดง1นะคะ ใช้ส้อมบี้ๆยีๆไข่ให้เป็นชิ้นเล็กๆ

ใส่มายองเนสแบบ low fat ประมาน 1-2 ช้อนโต๊ะตามความชอบเลยค่ะ

เสร็จแล้วก้เอามาทาบนขนมปังปิ้ง ประกบกันเป็นอันเสร็จเรียบร้อย

---

3.Poached egg

การทำ Poached egg หรือไข่น้ำ ทำได้ไม่ยากเลยค่ะ

อันดับแรกตอกไข่พักใส่ชามไว้ก่อนนะคะ ต้มน้ำด้วยไฟอ่อน

แล้วใส่น้ำส้มสายชูเล็กน้อย(เพื่อให้ไข่จับตัวกัน)

พอน้ำเริ่มเดือดหรือเริ่มมีฟองปุดๆขึ้นมา ให้เอาช้อนคนให้น้ำหมุนเป็นวงนะคะ

แล้วใส่ไข่ลงไป น้ำจะพัดไข่ขาวเข้ามาจับตัวกัน

รอซักแปปให้ไข่พอสุกก็ตักขึ้นได้เลยค่ะ เสิร์ฟบนขนมปังเป็นแซนวิสหน้าเปิดก็อร่อย

หรือใครอยากทำเมนู Egg benedict สูตร Healthy ก็ทำได้ไม่ยากค่ะ

วิธีการทำซอส Healthy Hollandaise Sauce :

ผสมกรีกโยเกิร์ต2ช้อนชา + มาโยfat free 2 ช้อนชา + มัสตาร์ด1ช้อนชา

ปุ๊กเอาเข้าเวฟนิดหน่อยด้วยค่ะ เนื้อจะได้เข้ากันสวยงาม

วางขนมปัง ธัญพืช เบคอนแบบless fat ไข่ดาวน้ำ

แล้วราดด้วยซอส Hollandaise เสิร์ฟคู่กับสลัดผักตามชอบ แค่นี้ก็ไม่ต้องง้อร้านอาหารราคาแพงๆแล้วค่ะ

---

4.ไข่ตุ๋น

เมนูนี้ทานได้ทุกเพศทุกวัยเลยค่ะ

ตอกไข่ใส่ชามแล้วผสมน้ำลงไปหน่อยด้วยนะคะ ตีให้เข้ากัน

แล้วใช้กระชอนตาถี่กรองซัก2-3ครั้ง เพื่อให้ไข่ตุ๋นของเราเนื้อเนียนค่ะ

เสร็จแล้วก็เอาไปนึ่งไฟกลาง วิธีการเช็คว่าไข่สุกรึยัง ให้ใช้ไม้จิ้มฟันลองจิ้มดูนะคะ

พอใกล้สุกดีแล้ว ก็ท็อปด้วยผักหรือปูอัดตามชอบ ระยะเวลาในการทำเมนูนี้ประมาณ 20 นาทีค่ะ

หรือถ้าใครอยากเพิ่มมูลค่าให้กับไข่ตุ๋นของเรา ลองทำเมนู ‘ไข่ตุ๋นกะหล่ำปลี’ ได้นะคะ

ใช้กะหล่ำปลีหัวเล็ก คว้านแกนตรงกลางออก

ในส่วนของไข่ วิธีทำเหมือนกับไข่ตุ๋นปกติเลยค่ะ อร่อยไปอีกแบบ

---

5. ไข่เจียวดาว

ในวันที่เลือกไม่ได้ว่าจะทานไข่เจียวหรือไข่ดาวดี ต้องเมนูนี้เลยค่ะ

วิธีทำก็เบสิคสุดๆ เจียวไข่ 1 ฟอง ปรุงรสด้วยซีอิ๊วแบบ low sodium นิดหน่อย

ตั้งกระทะไฟอ่อน พอกระทะเริ่มร้อนใส่ไข่ลงไปเหมือนทำไข่เจียวปกติเลยค่ะ

พอเริ่มเซ็ตตัวก็ตอกไข่ดาวใส่ลงไปตรงกลาง ปิดฝากระทะนิดนึงเพื่อให้ไข่สุกไวขึ้น

พอใกล้สุกก็ใส่ปูอัดหรือพริกตามชอบเลยค่ะ

เสร็จแล้วตักขึ้นเสิร์ฟบนข้าวร้อนๆ ทานกับแม็กกี้ ซอสพริกหรือมะเขือเทศก็ได้ค่ะ

ส่วนปุ๊กชอบทานกับข้าวคลุกน้ำพริก ฟินมากๆ

---

6. ยำไข่ดาว

บางคนอาจเบื่อที่จะทานไข่ดาวเหยาะซีอิ๊ว

เมนูนี้เป็นอีกเมนูที่ชอบมากเลยค่ะ เหมาะกับคนชอบทานแซ่บๆ

ทอดไข่ดาวแบบไม่ใช้น้ำมัน กลับด้านให้ไข่แดงพอสุก ตักขึ้นมาหั่นเป็นชิ้นๆ

ขั้นตอนต่อไปคือทำน้ำยำค่ะ ผสมพริก หอมใหญ่ ขึ้นฉ่าย พริกตำ น้ำปลาแท้ น้ำตาลทรายนิดหน่อย

น้ำมะนาวในปริมาณตามชอบนะคะ คนๆให้เข้ากัน

ถ้าได้รสที่ชอบแล้วก็ใส่ไข่ดาวที่เตรียมไว้ลงไปเลยค่ะ คลุกเคล้าให้เข้ากัน คลีนจานเลยจริงๆ

---

7. Pizza

สำหรับสาวๆเฮลตี้ การทานพิซซ่าไม่ผิดนะคะ แค่เลือกวัตถุดิบที่ดี

ปุ๊กใช้แป้ง Whole Wheat Tortilla ค่ะ หาซื้อได้ตาม Villa market แผ่นละ 60 kcal เองค่ะ

เมนูนี้ปุ๊กไม่ง้อเตาอบด้วยนะคะ

เริ่มแรกเอาแผ่น Tortilla มาจี่ในกระทะกรอบ ตักขึ้นมาทาซอสมะเขือเทศ

แล้วไปวางบนกระทะอีกรอบ ใส่ท็อปปิ้งตามชอบ (ไส้กรอก,แฮม,ปูอัด,หมูเค็ม)

ตอกไข่ใส่ตรงกลาง โรยชีส แล้วปิดฝาไว้ช่วยให้ไข่สุกและชีสละลายเร็วขึ้น ได้ที่แล้วก็เสิร์ฟเลยค่ะ

---

8. พิซซ่าญี่ปุ่นไร้แป้ง

งานญี่ปุ่นก็มา Okonomikayi ฉบับมโน หรือจะเรียกว่าไข่เจียวกะหล่ำปลีก็ได้ค่ะ lol

หั่นกะหล่ำปลีเป็นฝอย ตอกไข่ลงไปเจียวให้เข้ากัน

เสร็จแล้วเอาลงไปทอดแบบไม่ใช้น้ำมันนะคะ พลิกกลับด้านจนสุก

เสร็จแล้วทาซอสเทอริยากิด้านบนค่ะ บีบมายองเนสfat free โรยด้วยสาหร่ายย่าง ดูอินเตอร์ขึ้นทันที 555

---

9. ไข่เจียวเต้าหู้ไข่

เป็นอีกเมนูที่ชอบมากเลยค่ะ แค่หั่นเต้าหู้ไข่ใส่เข้าไป

นอกนั้นทำเหมือนไข่เจียวปกติเลยค่ะ ทานกับข้าวแล้วอร่อยมาก

---

10. ไข่คน

วันไหนที่เบื่อไข่ดาว ลองเปลี่ยนเป็นไข่คนหรือไข่ขยี้ดูได้นะคะ

ตอกไข่ลงในกระทะเทฟร่อนแบบไม่ใช้น้ำมัน ใช้ตะหลิวกวนๆวนๆให้ไข่แตก

ใส่ผักหรือเนื้อสัตว์ตามชอบ (แครอท,มะเขือเทศ,แฮม,เบคอนบิทส์,ไส้กรอก,กุ้ง,ปูอัด)

ใส่ชีสลงไป พอชีสละลายปิดไฟตักเสิร์ฟเลยค่ะ จะทานกับขนมปังแผ่นหรือบันได้หมดเลย

---

11. ไข่กระทะ

เมนูมื้อเช้าสุดคลาสสิค ง่ายแถมได้สารอาหารครบถ้วนด้วยค่ะ

สะดวกด้วยเพราะเสิร์ฟกันบนกระทะ ไม่ต้องล้างจานเลย lol

ไข่กระทะตามร้านอาหารจะใส่เนยเยอะมากๆ เวลาปุ๊กทำเองจะใช้กระทะ Teflon นะคะ

สามารถตัดเนยออกประหยัดแคลลอรี่ได้เยอะเลยค่ะ ทานกับขนมปังปิ้งและสลัดผัก อิ่มเลย

---

12. ซูชิโรลไข่ข้าวผัดน้ำพริกเผา

ความจริงคือไข่เจียวธรรมดาเลยค่ะ แต่อยากเสิร์ฟในสไตล์อาหารญี่ปุ่น lol

ทอดไข่เจียวแบบไม่ใช้น้ำมัน ตักขึ้นมาพักไว้

นำน้ำพริกเผากุ้งแห้งมาใส่ในกระทะ (น้ำพริกเผาที่ดีไม่ควรมีน้ำมันเยิ้มนะคะ)

เติมน้ำนิดหน่อย แล้วใส่ข้าว(ใช้แบบแช่เย็นจะได้ไม่แฉะ)

ผัดจนเข้ากัน เสร็จแล้วนำมาม้วนในไข่ที่เตรียมไว้ หั่นฉึ่บๆ เป็นอันพร้อมเสิร์ฟค่ะ

---

13. ยำไข่ต้ม

ขอเมนูแซ่บๆอีกซักอย่าง น้ำยำทำคล้ายเดิมเลยค่ะ

ผสมพริกขี้หนูซอย น้ำปลาแท้ มะนาว น้ำตาลทรายไม่ขัดสีนิดหน่อย หอมแดงซอย

ใครชอบรสไหนเน้นรสนั้นเลยนะคะ คลุกเคล้าให้เข้ากัน

ตักราดบนไข่ต้มหรือไข่มะตูม ทานกับข้าวร้อนๆ อร่อยสุดๆเลยค่ะ

---

14. Oyakadon (ข้าวหน้าไก่ญี่ปุ่น)

เมนู(อยากจะ)ญี่ปุ่นมาอีกแล้วค่ะ ชอบทานมากๆเลยค่ะ

ตั้งกระทะไฟใส่น้ำมันมะกอกนิดหน่อย ผัดหอมใหญ่ซอยจนเริ่มใส ใส่ไก่ เติมน้ำลงไป

ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว low sodium ผัดจนไก่สุก ตอกไข่ใส่ลงไป

(ใครชอบไข่เจียวเหมือนต้นฉบับก็ได้นะคะ แต่ปุ๊กสายไข่เยิ้มเลยชอบตอกให้เป็นไข่ดาวแทน)

ปิดฝากระทะเพื่อไข่จะได้สุกเร็วขึ้น เสร็จแล้วตักราดบนข้าวสวยหรือข้าวญี่ปุ่น อร่อยไม่ต้องง้อร้านอาหารเลยค่า

---

15. ไข่ไมโครเวฟ

เมนูสุดท้ายนี้ เอาไว้ทำทานวันที่ขี้เกียจสุดๆเลยค่ะ

เลือกขนาดถ้วยที่สามารถเข้าไมโครเวฟได้ ไซส์ไม่ต้องใหญ่มากนะคะ

เติมน้ำพอท่วมไข่ แล้วตอกไข่ใส่ลงไป เอาเข้าไมโครเวฟ ปิดฝาครอบกันไข่ระเบิด

บางสำนักบอกให้ใช้อะไรแหลมจิ้มค่ะ เวฟโดยใช้ไฟแรงสุดนะคะ

รอบแรกหมุนไป 30 วินาที เปิดดูแปปนึง แล้วเวฟอีก 30 วิค่ะ

(เคยลองเวฟทีเดียว 60 วินาทีเลย ไข่ระเบิดเละเทะมาก lol)

ทานกับขนมปังปิ้ง พริกไทย แม็กกี้ แถมกาแฟอีกแก้ว อิ่มอร่อยแบบง่ายๆเลยค่ะ

.

แต่ละเมนูทำได้ไม่ยากเลยใช่มั้ยคะ ปุ๊กทำได้ ทุกคนก็ทำได้เหมือนกัน

เพราะสุขภาพที่ดีเริ่มมาจากอาหาร อย่าลืมหันมาใส่ใจดูแลตัวเองกันนะคะ

เริ่มด้วยการทำอาหารทานเองที่บ้านง่ายๆ ใครที่มองหาอุปกรณ์ครัวอยู่

ช้อปผ่าน Lazada คลิกที่นี่ หรือจะ สั่งซื้อผ่าน JD Central คลิกที่นี่

.

สำหรับใครที่สนใจอยากแชร์เรื่องอาหารและสุขภาพ

สามารถเข้าไปแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันได้ที่ instagram : @pookie_jb นะคะ

Being healthy isn’t a trend but it’s LIFESTYLE.

---

:: Contact Us ::
Facebook : https://goo.gl/HWYK38
Instagram : https://goo.gl/pXjtHZ
Twitter : https://goo.gl/6AULbo

อ่านรีวิวทริปเที่ยวและเดินทางของ 247Journey ต่อได้ที่ >> https://247journey.in.th/