close
Croatia

พาเที่ยวปักหมุด 15 ที่เที่ยว โครเอเชีย สวยต้องแวะ

อยากไปเที่ยวกันแล้วใช่ไหม หลังจากที่รอคอย COVID-19 ก็คงอีกสักพัก แต่การรอคอยการไปเที่ยวต่างประเทศของหลายคน จะไม่ต้องรอคอยอีกต่อไป เพราะตอนนี้ประเทศส่วนใหญ่ในยุโรป เปิดเดินทางให้สามารถไปเที่ยวกันได้แล้ว ดังนั้นหากใครมีวีซ่าเชงเก้นอยู่แล้ว พาสปอร์ตพร้อม เอกสารการเดินทางพร้อม บอกเลยว่าไม่ต้องอดใจรออีกต่อไป เข้าแอพลิเคชั่น Traveloka แล้วไปจองตั๋วเครื่องบินกันได้เลย สำหรับบทความนี้เราจะพาบินไปเที่ยว โครเอเชีย หนึ่งในประเทศสวยริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียน อยู่ในสหภาพยุโรป ที่สวยงาม และมีที่เที่ยวโครเอเชียมากมายรอให้คุณไปสัมผัส

ที่สำคัญหากใครเดินทางไปเที่ยวโครเอเชีย หรือจองตั๋วเครื่องบินไปโครเอเชีย แล้วเดินทางกลับมาไทย ไม่จำเป็นต้องกักตัว เพราะอยู่ในเงื่อนไขฉีดวัคซีนครบแล้วเดินทางเข้าประเทศไทยได้เลย แค่รอตรวจ COVID-19 ในวันแรกเท่านั้น อ่านมาตรการสนามบินเพิ่มเติมได้ที่ > https://www.traveloka.com/th-th/flight/safe-travel

จองตั๋วเครื่องบินไปโครเอเชีย กับTraveloka > https://www.traveloka.com/th-th/flight/to/Zagreb.ZAG


15 ที่เที่ยวโครเอเชีย

1.อุทยานพลิตวิเซ่ (Plitvice Lakes National Park)

จองตั๋วเครื่องบินไปโครเอเชียแล้วไปเที่ยวที่สุดยอดทะเลสาบ ที่อยู่ในอุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ่กันดีกว่า ถือว่าเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวโครเอเชียที่สำคัญ และได้รับความนิยมมาก หากมาเที่ยวโครเอเชียแล้วไม่ได้มาเที่ยวที่นี่ ก็ดูเหมือนจะมาไม่ถึง ภายในอุทยานแห่งนี้ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นที่เที่ยว ทะเลสาบ ที่มีมากกว่า 16 แห่งด้วยกัน โดยทะเลสาบทั้งหมดจะเชื่อมต่อไป แต่จะมีทะเลสาบที่ลดหลั่นกันออกไป และในแต่ละจะมีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์ นอกจากจะเป็นที่เที่ยวโครเอเชียที่สำคัญ ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกด้วย

Google Maps


2.พระราชวังไดโอคลีเชียน (Diocletian’s Palace)

มาต่อกันที่ที่เที่ยวโครเอเชียแห่งถัดไป “พระราชวังไดโอคลีเชียน (Diocletian’s Palace)” พระราชวังโบราณที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกไปแล้วเรียบร้อย โดยความพิเศษของพระราชวังแห่งนี้ เป็นพระราชวังโบราณขนานแท้ มีสถาปัตยกรรมแบบกรีก และไบแซนไทน์ผสมกัน โดยพระราชวังยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ และเปิดให้นักท่องเที่ยวทั่วไปได้เข้าชม พระราชวังไดโอคลีเชียนเป็นพระราชวังที่ถูกสร้างขึ้นสำหรับจักรพรรดิโรมัน ที่นอกจากจะสวยงาม และยังเป็นที่เที่ยวสำคัญต่อประวัติศาสตร์โลก ดูเหมือนจะเป็นพระราชวัง แต่นอกแนวเป็นป้อมปราการ

Google Maps


3.เมืองสปลิท (Split)

ไปเที่ยวพระราชวังไดโอคลีเซียนกันแล้ว อย่าลืมแวะไปเที่ยวที่เมืองสปลิทกัน ขอยกให้เป็นที่เที่ยวแห่งสำคัญของโครเอเชียเลย ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสอง เป็นรองก็แค่กรุงซาเกรบ ที่เป็นเมืองหลวงของโครเอเชียแค่เพียงเท่านั้น โดยเมืองสปลิทนั้นเป็นเมืองชายทะเลที่ใหญ่ที่สุดในอาเดรียดิก มีอายุอานามความเป็นมามากกว่า 2,500 ปีมาแล้ว โดยภายในเมืองก็จะมีที่เที่ยวมากมาย ที่สำคัญคือมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามมาก เพราะตั้งอยู่ชายฝั่งโครเอเชีย ใครยังไม่รู้บินไปโครเอเชียแล้วจะไปเที่ยวที่ไหน แนะนำที่นี่เลย

Google Maps


4.ดูบรอฟนิค (dubrovnik)

อันเป็นสถานที่เที่ยวสำคัญของโครเอเชีย เอาเป็นว่าใครบินมาเที่ยวโครเอเชีย ก็ต้องแวะมา เพราะ “ดูบรอฟนิค (dubrovnik)” เป็นเมืองโบราณที่เก่าแก่ และสำคัญมากต่อประวัติศาสตร์ของโครเอเชีย จนได้รับสมญานามว่าเป็น “ไข่มุกแห่งทะเลเอเดรียติก” ด้วยผังเมืองที่ดูเป็นระเบียบเรียบร้อย จึงทำให้เมืองโบราณแห่งนี้ดูคล้ายดังกับเมืองในนิทาน ความโดดเด่นของเมืองดูบรอฟนิคก็คือการบูรณะเมือง จึงทำให้ภายในเมืองนี้มีสถาปัตยกรรมหลายอย่างผสมผสานเข้าด้วยกัน ทั้งแบบเรเนสซองส์ บาโร้ค และแบบโกธิค ด้านในภายในดูบรอฟนิคจะมีทั้งเขตเมืองเก่า กำแพงเมืองที่นักท่องเที่ยวชอบมาเดินถ่ายรูป เพราะจะเห็นวิวทะเลสวยๆ แนะนำเลยว่าจองตั๋วเครื่องบินไปดูโครเอเชีย แล้วต้องไปเที่ยวที่นี่เลย

Google Maps


5.กำแพงเมืองดูบรอฟนิค (Walls of Dubrovnik)

หรืออีกชื่อหนึ่ง ก็คือกำแพงเมืองโบราณ ที่มีความยาวประมาณ 1,940 เมตร อันเป็นสถานที่เที่ยวสำคัญอีกแห่งของทั้งดูบรอฟนิค และก็ประเทศโครเอเชีย ถือว่าเป็นจุดเช็คอินที่ใครๆ ก็มาถ่ายรูป เพราะวิวทิวทัศน์บริเวณนี้สวยงามมาก รายล้อมไปด้วยหอทรงกลมมากมาย มีทั้งหอทรงกลม ทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า และทรงจตุรัส ใครที่มาเที่ยวบริเวณกำแพงเมืองเก่า แนะนำว่าให้ชาร์จแบตกล้องมาให้พร้อม ถือว่าเป็นจุดถ่ายรูปชื่อดังที่ต้องมาเยือน

Google Maps


6.อุทยานแห่งชาติครักคา (Krka National Park)

อีกหนึ่งอุทยานแห่งชาติที่ใครจองตั๋วเครื่องบินไปโครเอเชีย แล้วอยากให้ไปจริงๆ เพราะขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามแบบยืนหนึ่ง ภายในอุทยานแห่งชาติแห่งนี้จะมีน้ำตกที่ชื่อเดียวกันเป็นไฮไลท์ของที่เที่ยวแห่งนี้ สำหรับอุทยานแห่งชาติครักคา ได้ตั้งอยู่ที่เมืองชีเบนิค (Sibenik) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ใช้เวลาเดินทางไปไม่นาน โดยรวมแล้วภายในอุทยานแห่งชาติเองจะมีทั้งน้ำตก ทางเดินศึกษาธรรมชาติ และเกาะที่อยู่กลางน้ำ มีที่เที่ยวหลายแห่งน่าสนใจ อาจจะใช้เวลาหลายวันถ้าอยากเก็บให้ครบ

Google Maps


7.พิพิธภัณฑ์ของคนใจสลาย (Museum of Broken Relationships)

ที่โครเอเชียเองก็มีพิพิธภัณฑ์ที่แปลก และไม่เหมือนใครอยู่หนึ่งแห่ง และยังเป็นที่เที่ยวสำคัญของโครเอเชียอีกด้วย นั่นก็คือ “Museum of Broken Relationships” มีจุดเด่นตรงที่เป็นพิพิธภัณฑ์ของคนใจสลาย หรือคนที่ต้องบอกลากับสถานะความสัมพันธ์ โดยด้านในจะเป็นการรวบรวมสิ่งของที่เกิดขึ้นโดยความสัมพันธ์ที่มีจุดจบคือการบอกลา เปิดเป็นที่แรกที่กรุงซาเกร็บ ประเทศโครเอเชีย ตั้งแต่เมื่อปี 2021 ก่อนจะมีสาขาอื่นตามมา ถือว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ทั้งน่าสนใจ และน่าค้นหาไปพร้อมกัน เป็นหนึ่งในพิพิธถัณฑ์ที่ได้รับความสนใจจากทั่วโลก

Google Maps


8.โกลเด้นฮอร์น (Golden Horn Beach)

หนึ่งในชายหาดที่มีความสวยงามอันดับต้นๆ ติดท็อปของประเทศโครเอเชีย ใครที่มีโอกาสจองตั๋วเครื่องบินไปโครเอเชีย บอกเลยว่าต้องไปโดน เพราะไม่ใช่แค่เป็นชายหาดที่เด่นในโครเอเชีย ยังได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในชายหาดที่สวยที่สุดในโลกด้วย เนื่องจากจุดเด่นของชายหาดนี้ จะมีลักษณะเหมือนเป็นแหลมที่ยื่นออกไปในทะเล โดยการเดินทางไปยังชายหาด ตั้งอยู่ไม่ห่างจากเมือง Bol ประมาณแค่ 2 กิโลเมตรแต่เพียงเท่านั้น ความพิเศษอีกอย่างคือลักษณะเฉพาะของชายหาดจะแตกต่างกันไปตามกระแสลม และน้ำ

Google Maps


9.มหาวิหารเซนต์เจมส์ (Cathedral of St. James)

โครเอเชียนั้นโด่งดังในเรื่องของมหาวิหารเป็นอย่างมาก เพราะมีมหาวิหารหลายแห่งที่สวยงาม ได้รับการบูรณะ และอยู่ในสภาพดี อย่างเช่น “มหาวิหารเซนต์เจมส์ (Cathedral of St. James)” เป็นมหาวิหารที่ตั้งอยู่ในเมืองซีเบนิก (Sibenik) มีที่ตั้งอยู่ริมทะเล เพราะเมืองนี้เป็นเมืองท่า โดดเด่นตรงที่มหาวิหารได้ใช้เวลานานมากกว่า 100 ปีในการสร้างขึ้นมา แถมยังใช้วัสดุที่เป็นหินทั้งหมด ดังนั้นสถาปัตยกรรมของมหาวิหารเซนต์เจมส์จึงสวยงามมาก ทำให้มหาวิหารเซนต์เจมส์ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกไปเรียบร้อย

Google Maps


10.พูลา อารีน่า (Pula Arena)

เป็นสิ่งที่ยังหลงเหลือจากในอดีตให้เห็นถึงปัจจุบัน อันถือว่าเป็นสนามรบโบราณที่ยังอยู่ในสภาพดี และเป็นที่เที่ยวสำคัญทางประวัติศาสตร์ของโครเอเชีย ซึ่งพูลา อารีน่าถือว่าเป็นหนึ่งในหกของสนามต่อสู้ หรือที่เรียกว่า “อารีน่า” ในสมัยจักรรวดิโรมันโบราณ โดยสนามกีฬาแห่งนี้จะมีลักษณะเป็นครึ่งวงกลม มีทั้งหมดสามชั้น และยังเป็นสนามกีฬาโบราณทื่มีหอคอยสี่ด้านครบ ใครที่บินมาเที่ยวโครเอเชีย ต้องห้ามพลาดที่จะมาเยือนที่เที่ยวโครเอเชียแห่งนี้เลย

Google Maps


11.ถ้ำสีน้ำเงิน (Blue Grotto)

แม้ว่าสถานที่เที่ยวถ้ำสีน้ำเงินจะมีที่เกาะคาปรี ประเทศอิตาลี แต่ว่าที่โครเอเชียก็มี “Blue Grotto” เช่นเดียวกัน โดยถ้ำแห่งนี้จะตั้งอยู่ที่อ่าว Balun เป็นอ่าวเล็กๆ ในประเทศโครเอเชีย อยู่ทางทิศตะวันออกของเกาะ Biševo ภายในถ้ำนี้จะมีแสงสีฟ้าปรากฎอยู่ โดยแสงสีฟ้าที่เกิดขึ้นจะไม่ได้เกิดขึ้นทั้งวัน แต่จะแค่เฉพาะช่วงเวลาประมาณ 11 โมงเช้า ถึงประมาณ 12.00 เที่ยงเท่านั้น หากใครที่อยากจะไปชม หรือว่าถ่ายรูปกับแสงสีฟ้าสวยๆ ก็อาจจะต้องไปให้ทันเวลา สามารถเดินทางเข้าไปเที่ยวได้ด้วยการนั่งเรือ หรือว่าดำน้ำก็ได้เช่นกัน

Google Maps


12.เมืองโทรเกียร์ (Trogir)

ไปเที่ยวโครเอเชียทั้งที ต้องไปเยือนเมืองที่เป็นมรดกโลกให้ครบ สำหรับเมืองนี้ถือว่าเป็นเมืองสมัยโบราณ ที่ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรีก ถ้าหากให้นับอายุอานาม ก็จะมีอายุประมาณ 2,500 ปีมาแล้ว แต่ก่อนในโซนนี้จะเป็นเมืองที่อยู่ในจักรวรรดิกรีก และโรมัน หลังจากที่จักรวรรดิล่มสลาย เมืองเหล่านี้ก็ได้กลายมาเป็นอิสระ ซึ่งจุดเด่นของเมืองนี้คืออยู่ติดทะเล มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามมาก ใครมาเที่ยวก็สามารถเดินเที่ยวชมเมืองได้รอบๆ ทั้งยังถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO ด้วย

Google Maps


13.วังเร็กซ์เตอร์ (Rector’s Palace)

พามาเที่ยวกับอีกหนึ่งวังที่มีความสำคัญ และสวยงามไม่แพ้วังอื่นๆ เลยในประเทศโครเอเชีย ตั้งอยู่ในย่านเมืองเก่าของดูบรอฟนิค หากใครได้มีโอกาสมาเยือนดูบรอฟนิค บอกเลยว่าไม่ควรพลาด เพราะเป็นสถานที่เที่ยวสำคัญทางประวัติศาสตร์ เพราะพระราชวังแห่งนี้ทั้งเก่าแก่ และมีความสวยงามไปพร้อมกัน มีความสำคัญตรงที่เป็นที่ปฎิบัติงานของผู้ว่าการเมืองดูบรอฟนิคในอดีต ซึ่งในตอนนี้ก็ได้เปลี่ยนมาเป็นพิพิธภัณฑ์เพื่อให้นักท่องเที่ยวทั่วไปได้เข้าชม ด้านในจะมีทั้งรูปโบราณ อาวุธโบราณ หรืออาคารสถาปัตยกรรมแบบบาโร๊คให้ชมเพียบ

Google Maps


14.โบสถ์กรุงซาเกร็บ (Cathedral of Zagreb)

ไปเที่ยวหลายเมืองแล้ว กลับมาเที่ยวที่กรุงซาเกร็บกันบ้าง กับจุดแลนด์มาร์คยอดฮิตที่คนชอบมาเช็คอิน และถ่ายรูปกัน ก็คือ “โบสถ์กรุงซาเกร็บ (Cathedral of Zagreb)” เป็นมหาวิหารที่เก่าแก่ เพราะถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่เมื่อสมัยศตวรรษที่ 13 มีความสูงมากถึง 108 ถือว่าเป็นสิ่งปลูกสร้างที่สูงที่สุดของกรุงซาเกร็บเลยก็ว่าได้ โดยสถาปัตยกรรมหลักของวิหารนี้คือแบบนีโอโกธิก และเป็นการบูรณะขึ้นมาจากชาวเมือง เมื่อครั้งที่โบสถ์เจอความเสียหายจากแผ่นดินไหว เป็นหนึ่งในที่เที่ยวกรุงซาเกร็บที่สำคัญ

Google Maps


15.ออร์แกนทะเล (Sea Organ)

ปิดท้ายด้วยที่เที่ยวโครเอเชียสุดชิค ที่บอกเลยว่ามาเยือนโครเอเชียทั้งทีต้องห้ามพลาดที่จะมาเช็คอินบริเวณจุดนี้ ที่สถาปนิก Nikola Bašić ได้เข้าร่วมโครงการออกแบบเมืองใหม่ให้บ้านเกิดที่โครเอเชีย ได้ออกแบบหีบเพลงแห่งท้องทะเล ที่มีความยาวมากถึง 70 ตลอดชายหาดซาดาร์ ซึ่งได้มีการซ่อนช่องลมไว้ด้านใน ทำให้เมื่อคลื่นซัดหาดทรายนี้ ก็จะทำให้มีเสียงดนตรีดังขึ้นมานั่นเอง เนื่องจากช่องลมที่ซ่อนไว้ด้านในทำหน้าที่เป็นเหมือนเครื่องเป่าขนาดใหญ่ ที่ใช้พลังงานคลื่นทะเลในการเป่าลมให้เกิดเสียง ทำให้ที่เที่ยวบริเวณนี้กลายมาเป็นแลนด์มาร์คจุดสำคัญของโครเอเชียที่ใครก็ต้องมาเช็คอิน

Google Maps


ไม่ใช่แค่ที่เที่ยวดังต่อไปนี้ แต่ว่าใน โครเอเชีย ยังมีที่เที่ยวโครเอเชียสวยๆ มากมายที่รบเร้นอยู่ รอให้คุณได้ไปค้นหา อันที่จริงแล้วแม้ประเทศโครเอเชียจะไม่ใช่จุดหมายปลายทางหลักของนักท่องเที่ยวมากมาย ในยุโรป แต่ถ้าถามหาที่เที่ยวทางประวัติศาสตร์ และความสวยงามของเมืองที่อยู่ติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ให้กลิ่นอายของความเป็นกรีก และโรมันแบบเบาๆ โครเอเชียถือว่าตอบโจทย์เลยหล่ะ

หากใครกำลังหาแพลนเที่ยว ที่กิน ที่พัก ทริปเดินทาง และยังไม่รู้จะไปไหน สามารถติดตามทริปท่องเที่ยวอื่นๆ จาก 247Journey เพิ่มเติมได้ทาง >> https://247journey.in.th หรือ FB : https://www.facebook.com/247journeyy เลยฮะ

Tags : Blue GrottoDubrovnikGolden Horn BeachSea OrgantravelokaTrogirกำแพงเมืองครักคาจองตั๋วเครื่องบินจองตั๋วเครื่องบินราคาถูกดูบรอฟนิคถ้ำสีน้ำเงินที่เที่ยวที่เที่ยวยอดฮิตพระราชวังไดโอคลีเชียนพูลา อารีน่ามหาวิหารเซนต์เจมส์วังเร็กซ์เตอร์สถานที่ท่องเที่ยวสถานที่เที่ยวอุทยานพลิตวิเซ่เมืองสปลิทโครเอเชียโทรเกียร์โบสถ์กรุงซาเกร็บ
to3ychonpi

The author to3ychonpi

error: Content is protected !!