close

LifeStyle

Wellnex Clinic คลินิกกายภาพบำบัด ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ รักษาออฟฟิศซินโดรม บรรเทาอาการปวดเมื่อย แบบครบวงจร

Wellnex-Clinic_luxury-Wellness-Center

Wellnex Clinic คลินิกกายภาพบำบัด ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ รักษาออฟฟิศซินโดรม บรรเทาอาการปวดเมื่อย แบบครบวงจร

คลินิกกายภาพบำบัดแบบครบวงจร บอกเลยว่าไม่เกินจริง สำหรับ Wellnex Clinic คลินิกกายภาพบำบัดชื่อดัง ย่านเลียบด่วนรามอินทรา ที่นี่เป็น Luxury Wellness Center ที่ได้รับรองมาตรฐานสากล อุปกรณ์ทันสมัยผสมผสานกับหัตถการ รักษาด้วยนักกายภาพผู้เชี่ยวชาญ ทำให้มีการวิเคราะห์การรักษาได้อย่างตรงจุด รู้สึกดีขึ้นแน่นอนหลังจากรักษาครั้งแรก! พูดมาขนาดนี้ไม่เกินจริง เพราะเค้าเปิดมามากกว่า 4 ปีแล้วฮะ

นอกจากเชี่ยวชาญเรื่องการรักษาอาการปวดเมื่อย ออฟฟิศซินโดรม ไมเกรน รองช้ำ อาการปวดต่างๆแล้ว ตอนนี้ทางคลินิกได้เปิดตัวบริการใหม่อย่าง การผ่อนคลายกล้ามเนื้อ (muscle relaxation) ตอบโจทย์ลูกค้าที่อยากจะบรรเทาอาการแบบผ่อนคลาย และแน่นอนเรื่องคุณภาพและความคุ้มค่าก็ไม่แพ้กันเลย และไม่ว่าจะมารักษาแบบกายภาพบำบัดหรือแค่ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ จะเป็นห้องส่วนตัวทุกคอร์สที่เลือกใช้บริการเลย ความส่วนตัวและได้รับการดูแลแบบ 1:1 อย่างนี้แหละฮะ ที่ทำให้ลูกค้าหลายคนเลือกกลับมาใช้บริการซ้ำ

สำหรับวันนี้เราเลือกใช้บริการทั้ง 2 แบบเลย เริ่มจากการภาพบำบัดกันก่อน ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 1 ชม.นิดๆ แรกเริ่มก็จะเป็นการปรึกษากับนักกายภาพฯ พูดคุยสอบถามเกี่ยวกับอาการปวด และวิเคราะห์ร่างกายด้วยเทคนิค personalized wellness ค้นหาต้นตอของจุดปวด เรียกได้ว่าพิจารณากันตามอาการและไลฟ์สไตล์การทำงาน การใช้ชีวิตของลูกค้าแต่ละคน ทำให้รักษาได้อย่างตรงจุดมากขึ้นด้วยล่ะฮะ

หลังจากนั้นก็จะเริ่มทำหัตถการ พูดง่ายๆก็คือการนวดเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อก่อนการรักษา ซึ่งบอกเลยว่าด้วยความเชี่ยวชาญของนักกายภาพ คือตรงจุดมากกก ตรงเป๊ะ และลงน้ำหนักดีมาก ไม่เบาหรือหนักเกินไป ทำให้รู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาสเต็ปนึงเลย

หลังจากนั้นนักกายภาพ จะมีการนำเครื่องมือเข้ามาใช้เพื่อรักษาอาการ ซึ่งของเรารอบนี้ ใช้เป็น อัลตร้าซาวน์ (Ultrasound) ซึ่งเป็นการใช้คลื่นความร้อนเข้าไปรักษาถึงกล้ามเนื้อชั้นในได้ลึกขึ้นกว่าเดิม ลดอาการปวดได้ไว และที่สำคัญคือระบมน้อยมาก

เวลเน็ค ไม่ได้โดดเด่นแค่เรื่องรักษาอาการออฟฟิศซินโดรมนะฮะ หากใครที่มีอาการปวดอื่นๆ ก็สามารถเข้ามารักษาได้เหมือนกัน เพราะว่าทีมงาน นักกายภาพของที่นี่ มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับกล้ามเนื้อโดยเฉพาะเลย อย่างเรามีอีกหนึ่งอาการ คือเอ็นข้อมืออักเสบ ทางนักกายภาพก็มีการเลือกอีกหนึ่งเครื่องมือมาใช้ด้วย นั่นคือ เลเซอร์ อาจจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมนอกเหนือจากแพ็คเก็จหลัก แต่หลังจากเลเซอร์ก็รู้สึกว่าอาการปวดเบาขึ้นมาก

หลังจากนั้น จะมีการประคบร้อน เพิ่มการไหลเวียนของเลือด ซึ่งความร้อนจากการประคบมันจะช่วยทำให้หลอดเลือดขยายตัวมากขึ้นฮะ ทำให้เกิดการผ่อนคลายของกล้ามเนื้อและช่วยทำให้อาการปวด บวม อักเสบ ลดลงด้วยนะ ในช่วงนี้เราจะได้นอนหลับตาสบายๆ กับเสียงเพลงเบาๆในห้อง รวมถึงแสงสีฟ้า Light Blue ภายในห้อง ยิ่งช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย มากขึ้นจริงๆ ปิดจบสุดท้ายด้วยการสอนท่ายืดกล้ามเนื้อเพื่อให้เรากลับไปออกกำลังกล้ามเนื้อ ช่วยแก้อาการออฟฟิศซินโดรมได้เองด้วย

และหากใครยังอยากที่จะผ่อนคลายร่างกายกันต่อ ทางคลินิกมีบริการใหม่น่าสนใจมาก เป็นบริการ ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ (muscle relaxation) ด้วยทีมงานคุณภาพ จากนักกายภาพ, ผู้ช่วยนักกายภาพ ที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์เรียกได้ว่าเป็นการผสมผสานของกายภายบำบัดรูปแบบใหม่ ครบวงจร

เวลเน็ค มีบริการที่ค่อนข้างหลากหลาย แตกต่างตามความต้องการผ่อนคลายของทางลูกค้า ถ้าใครไม่แน่ใจว่าอาการตัวเองเหมาะกับแพ็คเก็จไหน สามารถสอบถาม ปรึกษาทางคลินิกได้โดยตรงเลยฮะ

โดยส่วนตัวคือประทับใจในบริการ และการรักษาของที่นี่อยู่แล้ว ทั้งเรื่องความเป็นส่วนตัว มีการใช้ห้องรักษาเป็นสัดส่วนมีนักกายภาพที่เชี่ยวชาญด้านกล้ามเนื้อโดยเฉพาะมาวิเคราะห์อาการ ตรวจและรักษาเองแบบตรงจุดเลย ไม่ต้องกังวลเรื่องการส่งต่อเคสไปให้คนอื่นในการรักษา และยังมีเครื่องมือที่ีทันสมัยและได้รับมาตรฐาน ปลอดภัย ที่สำคัญคือไม่ต้องทนเจ็บ กลัวระบม หลังรักษาเสร็จก็ทำกิจกรรมอื่นๆได้ตามปกติเลย และยิ่งมีบริการนวดผ่อนคลายกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้นมา เรียกได้ว่า เป็นการฟื้นฟูร่างกาย กึ่งรักษากึ่งการพักผ่อน มาที่เดียวครบจบทุกอาการเลยฮะ

เปิดบริการทุกวัน 10.00 – 21.00 น.
เลียบทางด่วนเอกมัย – รามอินทรา (มีที่จอดรถ)
รายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.facebook.com/WellnexThailand/
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : 082-497-9696


หากใครกำลังมองหาที่เที่ยว ที่กิน ที่พัก ทริปเดินทาง สามารถติดตามพวกเรา 247Journey ได้ทาง
>> https://247journey.in.th หรือ Facebook : https://www.facebook.com/247journeyy เลยฮะ

Read More

Simantra Private Villas ศิมันตรา ไพรเวท วิลล่า บ้านพักหลังใหญ่ ชายหาดส่วนตัว ติดทะเล ชะอำ

Simantra Private Villas

Simantra Private Villas ศิมันตรา ไพรเวท วิลล่า บ้านพักหลังใหญ่ ชายหาดส่วนตัว ติดทะเล ชะอำ

ทริปนี้ขอกลับมารันวงการชะอำ-หัวหิน อีกครั้ง อยากไปนั่งเล่นริมทะเลเมื่อไหร่ ชะอำหัวหิน คือคำตอบเสมอมา โจทย์รอบนี้คืออยากได้บ้านพัก พูลวิลล่า ติดทะเล เน้นเรื่องความเป็นส่วนตัว ถ้าใครกำลังหาที่พักแนวนี้อยู่ ลองอ่านรีวิวนี้ดูก่อนฮะ

Simantra Private Villas ศิมันตรา ไพรเวท วิลล่า เป็นบ้านพักหลังใหญ่ ริมทะเล ใครกำลังหา บ้านพักวิลล่า พูลวิลล่าติดทะเล ที่เน้นเรื่องความสงบ ส่วนตัว ชายหาดสวย หาดทรายเนียนๆอยู่ติดบ้านเลย ช่วงเย็นๆพระอาทิตย์ตก ออกมาเดินเล่นชายหาด ไม่ผิดหวังแน่นอน สำหรับบ้านพักจะมีให้เลือกทั้งแบบ 3 และ 4 ห้องนอน ไม่ต้องห่วงเรื่องความอึดอัด เพราะที่นี่บ้านหลังใหญ่ และสามารถเสริมเตียงได้

บริเวณรอบบ้านพักก็มีพื้นที่ให้นั่งเล่น สนามหญ้า พกพร๊อพมาถ่ายรูปเล่นได้เลย ไม่ผิดหวัง ช่วงบ่ายๆ แสงดีมากกก หรือใครจะปิ้งย่างบาร์บีคิวก็มีเตาพร้อม นั่งเล่นชมวิวทะเลแบบใกล้ชิดสุดๆไปเลยฮะ เห็นภาพกันแบบชัดๆไปเลยว่า ติดทะเล ของจริงมันเป็นยังไง! วิวสวนหลังบ้านสวยเลยฮะ ฟ้าใส น้ำทะเลสวย

ทริปนี้เราพักเป็นวิลล่า 4 ห้องนอนติดทะเลนะฮะ ซึ่งวิลล่าติดทะเล 4 ห้องนอน จะไม่ได้มีสระว่ายน้ำส่วนตัวนะ สามารถใช้สระว่ายน้ำส่วนกลางได้ ส่วนสำหรับใครที่ชอบแบบมีสระว่ายน้ำส่วนตัว เราแนะนำเป็นพูลวิลล่า 3 ห้องนอนเลยฮะ Type นี้จะมีสระส่วนตัวเลย แต่ถ้าชอบบ้านแบบติดทะเล ขอแนะนำเป็น วิลล่า 4 ห้องนอนแบบในรีวิวนี้

ภายในบ้าน พื้นที่โถงส่วนกลางกว้างขวาง สำหรับการตกแต่งภายในบ้านก็เป็นแนวโมเดิร์น มีความเรียบหรูฮะ เปิดเข้ามาจะเจอโซนครัวภายในก่อน เตาไฟฟ้า ตู้เย็น อ่างล้านจาน อุปกรณ์ต่างๆครบ มีเครื่องทำกาแฟสดแบบ barista เมล็ดกาแฟ arabica แท้100% ให้ดื่มได้ไม่อั้น สายกาแฟเลิฟเลย สำหรับพื้นที่ครัวเชื่อมต่อกับพื้นที่โถงส่วนกลางขนาดใหญ่ มีโซฟา, Smart TV เชื่อมต่อกับโซนโต๊ะอาหาร นั่งทานข้าวแก๊งค์ใหญ่สบายๆ

ส่วนตัวคิดว่าเป็นวิลล่าหลังใหญ่ ที่อุปกรณ์ครบเลยฮะ ไม่ต้องเตรียมอุปกรณ์อะไรมาเพิ่มเลย หรือสำหรับแก๊งค์ไหนที่ไม่อยากทำอาหารเอง ทางที่พักยังมี เมนูอาหารของร้านอาหาร/ซีฟู้ด ใกล้ๆเตรียมไว้ให้ด้วย แค่โทรสั่งแป๊บเดียวก็ได้ทานแล้ว ราคาไม่แพง อาหารอร่อย และไม่เสียค่าส่งด้วยฮะ สะดวกสบายสุดๆ

มาถึงส่วนของชั้นบนกันดีกว่าฮะ ชั้นบนจะมี 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ ชอบตรงนี้มาก เวลาไปกันหลายๆคนไม่ต้องแย่งห้องน้ำกัน รวมถึงชั้นบนยังมีโซฟากับทีวีอยู่ตรงกลางฮะ มานั่งเล่นกันได้

สำหรับห้องนอนหลักของบ้านพัก ขนาดจะใหญ่ที่สุดเมื่อเทียบกับห้องนอนอื่นๆ มีระเบียงที่เปิดออกไปสัมผัสทะเลได้แบบใกล้ชิด เป็นห้องนอนที่ตื่นมา ทุกคนก็สามารถเห็นวิวทะเลได้แบบนี้เลย รวมถึงห้องนี้ยังมีอ่างอาบน้ำส่วนตัวภายในห้องด้วยฮะ

ไฮไลท์ของ ศิมันตรา เรายกให้เรื่องความเป็นส่วนตัว และ ทำเลที่ติดชายหาดอย่างแท้จริง สวนหลังบ้านบรรยากาศดีมาก มีต้นไม้สูง สนามหญ้า และสัมผัสทะแบบใกล้ชิดจริงๆ ถ่ายรูปสนุกสนานมากฮะ มุมนี้ บรรยากาศดีเกิ๊นนน

อาบแดดกันมาเต็มที่แล้ว แวะไปสระว่ายน้ำส่วนกลางของทางที่พักกันบ้างดีกว่า สระส่วนกลางที่นี่ใหญ่สะใจจริงๆฮะ ว่ายยาวๆได้เต็มสโตรคเลย ล้อมรอบด้วยต้นไม้เขียวๆ เป็นอีกมุมที่ร่มรื่นมากๆเลยฮะ

สำหรับอาหารเช้าของทางที่พัก จะเสิร์ฟเป็น Buffet Line ย่อมๆ ส่วนตัวภายในที่พักเลย ชอบมากฮะ สามารถนัดแนะเวลาเสิร์ฟอาหารเช้าได้ตามสะดวก

โดยสรุปนะฮะ เราคิดว่าใครที่กำลังมองหาบ้านพักตากอากาศ วิลล่า พูลวิลล่า ติดทะเล ชะอำ และเน้นเรื่องความสงบ มีชายหาดส่วนตัว ไม่พลุกพล่าน และยังมีอาหารเช้าเสิร์ฟส่วนตัวถึงบ้านเลย Simantra Private Villas เป็นที่พักที่เหมาะมากกับการมาพักผ่อนกับเพื่อน ครอบครัวฮะ หรือถ้าใครอยากจะพาน้องหมา น้องแมวมาเที่ยวด้วย ทางศิมันตรา มีวิลล่าที่เป็น Pet-Friendly ด้วยนะ ถ้าชอบบรรยากาศแบบติดทะเลแบบนี้ แนะนำที่นี่เลย

รายละเอียดเพิ่มเติม :

Facebook >> https://www.facebook.com/simantraprivatevillas

Tel >> 098 263 3883

Google Maps >> https://goo.gl/maps/z7mw9KE1og42

เช็คราคา & จองที่พักราคาพิเศษ ผ่าน Agoda >> https://bit.ly/simantraprivatevillaschaam


หากใครกำลังมองหาที่เที่ยว ที่กิน ที่พัก ทริปเดินทาง สามารถติดตามพวกเรา 247Journey ได้ทาง >> https://247journey.in.th หรือ Facebook : https://www.facebook.com/247journeyy เลยฮะ

Read More

Foto Hotel Phuket ที่พักสวย ภูเก็ต ติดทะเล ดีไซน์โฮเต็ล ที่นอกจากโรงแรมสวยแล้ว ยังมีวิวอ่าวสิเหร่สวยๆให้ชมอีก

Foto-Hotel

Foto Hotel Phuket ที่พักสวย ภูเก็ต ติดทะเล ดีไซน์โฮเต็ล ที่นอกจากโรงแรมสวยแล้ว ยังมีวิวอ่าวสิเหร่สวยๆให้ชมอีก

สวัสดีค่ะทุกคน กลับมาเจอกันอีกแล้ว รอบนี้พาไปเที่ยวต้อนรับอากาศร้อนๆ และแน่นอน ไม่ว่าซัมเมอร์ไหนๆ ทะเลไทย คือคำตอบ ยิ่งเป็นทะเลทางใต้นะ มากี่รอบก็ไม่เคยเบื่อเลย เราเดินทางช่วงกลางเดือนมีนาคม 2566 ที่ผ่านมา แดดใส ฟ้าสวย ท้องฟ้าปลอดโปร่ง แต่รอบนี้ตั้งใจพักผ่อนในโรงแรม เลยตั้งใจจะมานอนพักอยู่ในที่พักสวยๆ และชมวิวทะเลได้ด้วย

ทริปนี้มีโอกาสได้มาพักผ่อนที่โรงแรม Foto Hotel ภูเก็ตฮะ เป็นหนึ่งในที่พัก ที่ให้ความรู้สึกที่เหมาะกับการพักผ่อนมากๆ ทั้งสนุกสนานและได้ฟีลสบายๆเป็นกันเอง โรงแรมนี้อยู่ในทำเลที่สวยงามและใกล้หาดสิเหร่ และยังอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองเก่าภูเก็ตด้วย

สิ่งที่ทำให้เราชื่นชอบ Foto Hotel เป็นพิเศษคือ การออกแบบภายในที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ที่สุด ซึ่งการออกแบบทั้งหมดนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากห้องล้างฟิล์มและรูปโทนขาว-ดำ ที่บอกเล่าเรื่องราวของเมืองภูเก็ตผ่านกล้อง Analog สัญลักษณ์โรงแรมที่ใครเห็นก็ต้องจำได้คือตุ๊กตาหมีลายตาราง พี่หมีโฟโต้ นั่นเอง

ภายในที่พักจะแบ่งส่วนห้องพักเป็น 2 โซน Ozone Hall และ Ocean Hall ก็ตรงตามชื่อเลย ใครอยากได้ห้องพักแบบตื่นขึ้นมาแล้วมองเห็นวิวทะเลก็เลือกเป็น Ocean Hall ไปได้เลย ส่วนครั้งนี้เราพักห้อง Ozone Hall with Bathtub (Pool Access) ที่สามารถเปิดห้องพักแล้วเล่นน้ำในสระได้เลย

ภายในห้องพักเท่มาก ทุกอย่างจะเป็นสีดำทั้งหมด ไฮไลท์ของห้องที่เราพัก คือมีอ่างอาบน้ำ และมีระเบียงที่เปิดออกไปเป็นสระว่ายน้ำ และยังมีมุมให้นั่งเล่นด้านหน้าห้อง ส่วนภายในห้องพัก สิ่งอำนวยความสะดวกก็ครบครันมาก มีมินิบาร์ฟรี ที่เป็นปีโป้และยาคูลท์ให้ทานด้วย สดชื่นดีจริงฮะ

สิ่งที่ประทับใจอีกอย่างของที่นี่คือ ที่นอน หมอน คือคุณภาพดี นอนสบายมาก สบายจนต้องถามทางโรงแรมว่ามีขายไหม คำตอบคือมีขายนะฮะ ติดต่อทางโรงแรมได้ โดนตกแบบจริงจังมาก และแน่นอนว่าเราไม่ใช่ลูกค้าคนแรกที่ถาม 555555

ส่วนใครที่แพลนมา Workation ภายในห้องพักก็มีโต๊ะเก้าอี้ พร้อมให้นั่งทำงานนะ หรือเบื่อๆจะออกไปนั่งริมสระ ริมทะเล หรือแม้แต่คาเฟ่ภายในที่พักก็มีเหมือนกันฮะ

ในส่วนของสระว่ายน้ำ ทางโฟโต้โฮเต็ล จะมีทั้งหมด 2 สระนะฮะ อยู่ระหว่างตึกเป็นสระที่ติดห้องพักของเราเอง และอีกสระจะอยู่ด้านหน้าติดริมทะเลเลย หรือถ้ายังไม่เต็มอิ่ม อยากจะไปเล่นสระน้ำของทาง Hotel Tide ก็ได้ เพราะทั้งสองโรงแรมเป็นเจ้าของเดียวกัน และใช้พื้นที่ริมทะเล ร้านอาหารเดียวกันเลยฮะ ทำให้ใครที่เข้ามาพักสองโรงแรมนี้ จะได้สัมผัสบรรยากาศริมทะเล สระว่ายน้ำแบบยาวๆติดทะเล

และสิ่งที่ชอบที่สุดเลยคือ บรรยากาศวิวที่สวยสุดๆของภูเก็ต ดูพระอาทิตย์ขึ้นช่วงเช้า นอนเล่นริมทะเลฟังเสียงคลื่น เหมาะมากสำหรับการพักผ่อนในช่วงวันหยุดเพื่อเติมพลัง อิอิ

อาหารเช้าที่โรงแรม Foto Hotel ก็อร่อยมากๆ ไลน์อาหารเช้าของที่นี่ก็จัดเต็มไม่แพ้ใคร นอกจากไลน์บุฟเฟ่ต์ กับข้าว ไทย ฝรั่ง เอเชีย ไลน์บุฟเฟ่ต์แน่นๆ และยังมี Egg Station ให้บริการ ไข่กระทะเครื่องแน่น และอาหารจานเดียว เช่น ข้าวหน้าไก่, ข้าวไก่ย่างจิ้มแจ่ว และอื่นๆ ซึ่งเมนูแต่ละวันก็จะไม่เหมือนกันด้วย เป็นเมนูพิเศษให้ลุ้นกัน 55555 และไลน์บุฟเฟ่ต์ไม่ใช่ธรรมดานะ ซีฟู้ดให้มาแบบไม่หวง ทั้ง ปลา ปลาหมึก กุ้ง ก็คือชิ้นแน่นๆ สดๆเลย

ส่วนของห้องอาหาร ใช้พื้นที่เดียวกันกับของ Hotel Tide เลยนะ ห้องอาหารชื่อว่า มีเมนูให้เลือกมากมาย และการบริการก็ดีมากๆ พนักงานก็คือมีความน่ารักเป็นกันเอง

สรุปนะฮะ Foto Hotel Phuket สำหรับเรา เป็นโรงแรมที่เหมาะมากกับการพักผ่อน ดีไซน์โมเดิร์น บรรยากาศดี วิวดี ติดทะเลและไม่ไกลจากตัวเมืองเก่าภูเก็ต ธีมสีดำและขาวผสมผสานกันได้อย่างลงตัว ถ่ายรูปสวยทุกมุมเลย เตรียมชุดไหนมาก็ปัง นอกจากนั้นแต่ละโซนของห้องพักก็มีความโดดเด่นชัดเจน ทำให้ได้ประสบการณ์การเข้าพักแต่ละครั้งไม่เหมือนกันด้วยฮะ เอาเป็นว่ารอบหน้าไว้มาใหม่ ปักไว้แล้วว่าอยากจะตื่นมาแบบเห็นทะเลเลย Ocean Hall เจอกันแน่นอน!

ใครที่กำลังมองหาที่พักในจังหวัดภูเก็ต ขอแนะนำที่นี่เลย เป็นอีกที่ที่ประทับใจจริงๆ ด้วยราคา คุณภาพ บรรยากาศ การบริการ 🙂

รายละเอียดเพิ่มเติม

Facebook >> https://www.facebook.com/fotohotelphuket

Tel >> 076-601398, 076-601399

เช็คราคา & จองที่พักราคาพิเศษ ผ่าน Agoda >> คลิกที่นี่

Website >> https://www.fotohotelsthailand.com/


หากใครกำลังมองหาที่เที่ยว ที่กิน ที่พัก ทริปเดินทาง สามารถติดตามพวกเรา 247Journey ได้ทาง >> https://247journey.in.th หรือ Facebook : https://www.facebook.com/247journeyy เลยฮะ

Read More

at Café พรีเมียมบุฟเฟ่ต์ หลายสัญชาติ สายเนื้อไม่ควรพลาด ทานไม่อั้น ทั้ง ยำเนื้อดิบญี่ปุ่น เนื้อริบอาย แกงระแวง โรงแรม Grand Richmond นนทบุรี

At Cafe

at Café พรีเมียมบุฟเฟ่ต์ หลายสัญชาติ สายเนื้อไม่ควรพลาด ทานไม่อั้น ทั้ง ยำเนื้อดิบญี่ปุ่น เนื้อริบอาย แกงระแวง โรงแรม Grand Richmond นนทบุรี

มาๆๆ คอนเทนต์นี้จะพาไปทานพรีเมียมบุฟเฟ่ต์เปิดใหม่ เดินทางง่ายสุดๆ อยู่ที่ นนทบุรี นี่เอง โลเคชั่นคือเลิศที่สุด ติดรถไฟฟ้า MRT สถานีบางกระสอ เป็น Premium Buffet ที่อยู่ในโรงแรมด้วยนะฮะ บรรยากาศหรูหรา สวยมาก อาหารอร่อย ร้านสวย ถูกใจชาวนนทบุเรี่ยนและชาวละแวกใกล้เคียงแบบเรามาก ไม่ต้องฝ่ารถติดเข้าเมืองไปไกล ก็ขับรถตรงดิ่ง หรือนั่งรถไฟฟ้ามาที่โรงแรม Grand Richmond แทนได้เลย

at Café บุฟเฟต์พรีเมี่ยมหลายสัญชาติ ทานได้ไม่อั้นครบทั้งคาวหวาน อย่าเพิ่งกลับถ้ายังไม่อิ่ม

ก่อนอื่นขอแนะนำพิกัดก่อนคร่าวๆ เผื่อใครยังไม่รู้จักโรงแรม Grand Richmond ฮะ โรงแรมจะตั้งอยู่ติดถนนรัตนาธิเบศร์ เป็นโรงแรมขนาดใหญ่ที่เพิ่งมีการรีโนเวทปรับปรุงตกแต่งให้สวยงามฉ่ำว้าวมาก ตั้งแต่โซนล็อบบี้ที่ใส่ดีเทลความ Rich + Diamond มีความวิบวับสับแสงได้แบบเพลินตามาก

ส่วนความใหม่กริบอีกอย่างที่อยากมาแนะนำ ก็คือ at Café จะอยูที่ชั้น 1 ใกล้ๆกับบรเิวณล็อบบี้เลยฮะ โต๊ะที่นั่งต่างๆวางเรียงกันค่อนข้างสบายๆไม่อึดอัด จะลุกเดินไปตักตรงสเตชั่นไหนก็สะดวกสบาย

อย่างที่บอกว่าเป็น พรีเมียมบุฟเฟ่ต์ ไลน์อาหาร และสเตชั่นก็คือมีความหรูหรา จัดเรียงสวยงาม อลังการ เมนูมีให้เลือกกว่า 100 รายการ กินกันแบบจุใจไปเลยฮะ

ไฮไลท์หลักของที่นี่ ยกให้เป็นเรื่อง เนื้อ ใครที่ชอบทานเนื้อถูกใจแน่นอนฮะ มีเมนูเนื้อกว่า 20 รายการเลย เนื้อ Grain-Fed Angus Charolais Natural Beef ที่ผ่านการบ่ม Dry Aged และ Wet Aged เสิร์ฟเนื้อนุ่มๆ ฉ่ำๆกันแบบจุใจ

แค่เดินเข้ามากลางร้านก็ตาลุกวาวไปกับสีสันของเหล่าเมนูอาหารญี่ปุ่น เมนูซูชิและข้าวปั้นหน้าต่างๆ ที่วางเรียงรายรอให้คีบ ขนาดมาแบบกำลังดีไม่ใหญ่เกินไป

สายปลาดิบก็มีซาชิมิเกรดพรีเมี่ยมให้เลือกคีบด้วยนะ แซลม่อน ทูน่า ทูน่าทาทากิ ถ้าชอบแซ่บๆหน่อยตัดเลี่ยนก็มีแซลม่อนแซ่บ หรือถ้าแอบเกาหลีหน่อยก็เป็นแซลม่อนดอง และเมนูฮิตอย่าง ‘ยำเนื้อยุกเกะ’ ที่สายเนื้อไม่ควรพลาด ตัวเนื้อดิบจะคลุกเคล้าด้วยซอส และโปะด้วยไข่แดงเยิ้มๆ ตอนทานก็จะนัวๆหนุบหนับ

เมนูหลากสีที่ทำสะดุดตาอย่างหมี่เย็น ที่นี่นอกจากจะมีเส้นโซบะหลากหลายสีแล้ว อีกความเจ๋งต้องยกให้ ‘หมี่เย็นเส้นแซลม่อน’ ที่ใช้แซลม่อนดิบหั่นเป็นเส้นยาวๆมาแทน เวลาทานก็แค่จุ่มเส้นลงไปในน้ำซุป รสชาติเข้มข้นติดเส้นขึ้นมา อร่อยสดชื่น

ไฮไลท์ของที่นี่ เอาใจคนรักเนื้อแบบที่สุด คือมีเมนูแบบตั้งเตา ด้วยนะฮะ ถ้าชอบสายปิ้งย่าง เมนู ‘สเต็กเนื้อลูกเต๋าย่าง’ ที่เสิร์ฟมาเป็นกระทะเล็กๆน่ารัก ปิ้งเนื้อให้ได้ระดับความสุขตามชอบได้เลย หรือถ้าชอบแบบต้มๆก็มีเมนู ‘สุกี้ยากี้’ ที่รวมผักต่างๆต้มมาในน้ำซุปกลมกล่อม เป็นสองเมนูที่(ไฟ)ฮอตมากจริงๆ หรือใครอยากได้แบบไทยๆรสจัดหน่อย เนื้อย่างจิ้มแจ่ว แซ่บๆ และที่เห็นภาพทั้งหมดนี้ ย้ำอีกครั้งว่า สั่งได้แบบไม่อั้น!

ในส่วนของเมนูสไตล์ฝรั่ง อย่างพวกสเต็กที่นี่ก็เล่นใหญ่จัดเต็มเหมือนกันนะ ‘เนื้อริบอายอบ’ ที่ทำออกมาได้ความสุกที่พอดีมาก ทั้งนุ่มและฉ่ำ และ ‘แซลม่อนอบ’ เมนูปลาทานง่ายเหมาะกับทุกวัย รวมถึงบาบีคิวที่มีทั้งหมู/ไก่/เนื้อ และตัวเอกอย่างซี่โครงที่ฉ่ำซอส หอมนุ่มสุดๆ

และที่ขาดไม่ได้เลยคือเมนูอาหารไทยฮะ จะต้ม ผัด ยำ ย่างก็มีหลากหลาย แต่ที่สะดุดตาและต้องลองให้ได้ ‘แกงระแวงเนื้อ’ เมนูไทยโบราณที่ชื่อหาทานยาก ความหอมมันของกะทิตัดรสเผ็ดของเครื่องแกง อร่อยถูกใจ

ซี่โครงหมู บาร์บีคิวก็มีเสิร์ฟกันแบบไม่หวงของ ชิ้นใหญ่ จัดหนักจัดเต็ม และอย่าลืมปิดท้ายด้วยของหวาน เค้ก ไอศครีม ผลไม้ รวมถึงเครื่องดื่ม มีครบเลยฮะ ไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่มแล้ว

ทั้งหมดนี้ อิ่มคุ้มกันได้ ทานยาวๆไม่อั้น 90 นาที ราคา 1,590 บาทต่อคน ราคาแบบ Net Person แล้ว ไม่มีบวกเพิ่มฮะ

ช่วงเวลาให้บริการเป็นรอบ เปิดเฉพาะเสาร์อาทิตย์ และเปิดสองรอบต่อวันเท่านั้น

Lunch : 11.30 น. – 14.30 น. และ Dinner 18.00 น. – 21.00 น.

แนะนำให้โทรไปจองสำรองที่นั่งก่อนได้เลยฮะ สำหรับใครที่เป็นสายบุฟเฟ่ต์ สายเนื้อ บอกเลยว่าไม่ควรพลาด

📌 ห้องอาหาร at Café โรงแรมแกรนด์ ริชมอนด์

สำรองที่นั่ง >> https://bit.ly/InboxGrandRichmondHotel
ทักไลน์ >> https://bit.ly/LineGRM
โทร 0-2831-8881

ชมคลิปรีวิว : https://www.instagram.com/reel/Cp-CPh1AZO1/


หากใครกำลังมองหาที่เที่ยว ที่กิน ที่พัก ทริปเดินทาง สามารถติดตามพวกเรา 247Journey ได้ทาง >> https://247journey.in.th หรือ Facebook : https://www.facebook.com/247journeyy เลยฮะ

Read More

The Quartier Sukhumvit 39 โรงแรม บรรยากาศดี ใจกลางกรุงเทพ ใกล้ Emquartier สัตว์เลี้ยงเข้าพักได้ มีที่จอดรถ

The Quartier 39 Bangkok

The Quartier Sukhumvit 39 โรงแรม บรรยากาศดี ใจกลางกรุงเทพ ใกล้ Emquartier สัตว์เลี้ยงเข้าพักได้ มีที่จอดรถ

ปีนี้ Staycation ไม่หยุดหย่อน ใครเจองานโหมกระหน่ำกันตั้งแต่ต้นปีบ้าง ขอเสียงหน่อยเร็วววว! แม้งานจะพุ่งเข้าชนอย่างเต็มแรง แต่เราก็มีแรงเหลือในการหาที่พักอยู่ดี อิอิ ไปเปลี่ยนบรรยากาศกันซักหน่อย รอบนี้เอาใจคนรักสัตว์เลี้ยงด้วย พาไปโรงแรมใหม่ใจกลางเมือง ซอย สุขุมวิท39 การันตีมาตรฐานจาก Compass Hospitality ชื่อว่า The Quartier Sukhumvit 39 Hotel

โรงแรมขนาดไม่ใหญ่มาก ทำเลดี อยู่ใกล้ Supermarket และภายในซอยก็มีร้านต่างๆมากมาย เดินถัดไปตึกข้างๆมีคาเฟ่ Bonci แวะไปฮอปปิ้งกันได้ฮะ โรงแรมมีที่จอดรถให้บริการ หรือ ถ้าใครไม่ได้เอารถมา มีรถ Shuttle Bus โรงแรมให้บริการ ไม่ว่าเดินทางมาแบบพักผ่อนแบบไหนก็สะดวกสบายฮะ

เลี้ยวเข้ามาจอดรถเสร็จเรียบร้อยก็กดลิฟต์ขึ้นมา Check-in ได้เลย ด้วยความที่เป็นโรงแรมเล็กๆ บรรยากาศดูสบาย ไม่เป็นทางการมาก แต่ถึงจะเป็นล็อบบี้ที่มีพื้นที่จำกัด แต่ก็ตกแต่งสวยมองเพลินมาก ตั้งแต่ลวดลายกระเบื้องที่ทำให้ดูมีทันสมัย โซฟาสีเหลืองเด่นที่ตัดกับสีน้ำเงินเข้มของกำแพง และถ้าสังเกตอีกนิดจะเห็นว่าชุดพนักงานต้อนรับที่นี่มีความแฟชั่นไม่เหมือนที่อื่นเลยนะ เป็นรายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่ทำให้โรงแรมดูมีกิมมิค ใช้เวลาเช็คอินไม่นานก็ได้คีย์การ์ดมาเรียบร้อย

สำหรับห้องพักทริปนี้เราพักห้อง Executive Corner Room เป็นห้องพัก Type พิเศษสุดๆ เพราะภายในโรงแรมจะมี Type นี้แค่ไม่กี่ห้อง เนื่องจากเป็นห้องมุม จะมองเห็น City View และมีอ่างอาบน้ำสวยๆให้แช่พักผ่อนกันด้วย บรรยากาศภายในห้องพัก ตกแต่งแบบเรียบหรูฮะ โทนสีเทา ขาว เรียบแต่ดูหรูหรา ขนาดของห้องพักประมาณ 32 ตร.ม. แต่สามารถจัดสรรพื้นที่ให้ดูไม่อึดอัดเลย

เปิดประตูเข้ามา ตรงโซนด้านหน้าซ้ายขวาก็จะเป็นพื้นที่ที่เราสามารถเก็บสัมภาระ กระเป๋า แขวนเสื้อผ้าต่างๆ อีกฝั่งเป็นตู้เย็นและมุมขนมและเครื่องดื่ม เตียงขนาด King size ที่จัดเป็นระเบียบเรียบร้อยน่าทิ้งตัวนอน พร้อมกับขนมไทยสไตล์ในกล่องเป็น Complimentary ต้อนรับคนที่มาเข้าพัก ในกล่องก็จะรวมขนมไทยไว้หลากหลายชนิดเลยนะ น่ารักน่าหยิบ เอาไว้เติมความหวานเวลาน้ำตาลตก

อีกมุมนึงของห้องก็จะเป็นโซนนั่งทำงานฮะ โต๊ะยาวติดผนังช่วยประหยัดพื้นที่ทำให้ห้องดูกว้างขึ้นมาก เผื่อใครอยากเปลี่ยนที่ทำงาน หิ้ว notebook ตัวโปรดมา ทำงานพร้อมชมวิวเมืองได้เลย ชิลดีไปอีกแบบฮะ หรืออยากจะทิ้งตัวนอนพักผ่อน ก็มี Smart TV นอนดู Youtube แบบเพลินสุด

มาต่อกันที่ห้องน้ำภายในห้องพัก ดีไซน์และการตกแต่งเรียบง่าย แต่มีความหรูหรา อ่างอาบน้ำดีไซน์มินิมอล นอนแช่อ่างตีฟองฟินๆ เหมาะกับการมาพักผ่อนในวันหยุด เปลี่ยนที่นอน เปลี่ยนบรรยากาศ ไม่ต้องขับรถไกลไปถึงต่างจังหวัดเลยฮะ

ส่วนมื้อเย็น ใครที่ยังไม่มีแพลน ขอแนะนำ Medinii สำหรับดินเนอร์สุดโรแมนติก

เป็นร้านอาหารสไตล์ยูโรเปียน บนชั้น 35 โรงแรม The Continent ตรงแยกอโศก อยู่ไม่ไกลกันเลย

สามารถเรียก Shuttle Bus ไปส่งได้เลยฮะ ซึ่งเราขอแนะนำให้ไปตั้งแต่ช่วงร้านเปิดเลยนะ

เพราะบรรยากาศตอนพระอาทิตย์ตก ดีต่อใจที่สุด! อ่านรีวิว Medinii คลิกที่นี่เลย

สำหรับห้องอาหารเช้าก็อยู่ชั้นเดียวกันกับล็อบบี้เลยฮะ จะสามารถสั่ง Main Dish ได้คนละ 1 จาน เราสั่งเป็น Poached egg ฮะ และยังมีไลน์บุฟเฟ่ต์ สลัดผัก ขนมปัง นม คอนเฟลค ผลไม้ต่างๆ ตักเองได้เลย วัตถุดิบคุณภาพมากๆ

กินอิ่มแล้วขึ้นไปเดินเล่นกันหน่อยดีกว่า ชั้นบนดาดฟ้าของโรงแรมจะมีสระว่ายน้ำ ฟิตเนส และ พื้นที่นั่งเล่น บรรยากาศดี ลมเย็นสบาย เผื่อใครกลัวว่าจะเบื่ออยู่แต่ในห้อง มาเดินเล่นชั้นบนได้เลยฮะ

เผื่อใครกำลังหาที่พัก Staycation กรุงเทพ ขอแนะนำที่นี่อีกเสียง ห้องพักคือสะดวกสบายมาก เตียงนุ่ม หมอนดี นอนสบาย และยังเป็นโรงแรมใจกลางเมือง Pet-Friendly ด้วย เอาใจคนรักสัตว์เลี้ยง พาน้องๆมาเปลี่ยนที่นอนด้วยกันได้ด้วย และยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆครบเหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์จริงๆ

รายละเอียดเพิ่มเติม :

Facebook >> https://www.facebook.com/thequartierhotelbangkok/

Tel >> 02 392 7007

เช็คราคา & จองที่พักราคาพิเศษ ผ่าน Agoda >> คลิกที่นี่


หากใครกำลังมองหาที่เที่ยว ที่กิน ที่พัก ทริปเดินทาง สามารถติดตามพวกเรา 247Journey ได้ทาง >> https://247journey.in.th หรือ Facebook : https://www.facebook.com/247journeyy เลยฮะ

Read More

รีวิว Shama Lakeview Asoke ชามา เลควิว อโศก ชมวิวทะเลสาบสวยจากห้องพัก

Morino Green hills – 6

รีวิว Shama Lakeview Asoke ชามา เลควิว อโศก ชมวิวทะเลสาบสวยจากห้องพัก

โรงแรมชามา เป็นโรงแรมที่มีชื่อเสียงในเรื่องของ Serviced Apartments ในเครือ ONYX ฮะ โดยในกรุงเทพเนี่ยก็มีหลากหลายโลเคชั่นมาก ไม่ว่าจะเป็นโซนสุขุมวิท เย็นอากาศ(สาทร สีลม) หรือโซนใหม่อย่างเอกมัย เพชรบุรี แต่ครั้งนี้เราจะพาไปที่ Shama Lakeview Asoke ฮะ

อโศก เป็นอีกโลเคชั่นที่ครบเครื่องมาก ไม่ได้เป็นแค่ย่านใจกลางธุรกิจ สถานที่ต่างๆ ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า การเดินทาง ที่รวมความสะดวกสบายของความเป็นเมืองไว้ แต่ยังมีสวนสาธารณะใจกลางเมือง เผื่อใครอยากหากิจกรรมพักผ่อนท่ามกลางบรรยากาศสวนไว้ด้วยนะ

ชามา เลควิว อโศก อยู่ในซอยสุขุมวิท 16 ห่างจาก BTS / MRT อโศกประมาณ 5-10 นาที เดินทางสะดวกจริง อยู่ใกล้สี่แยกอโศก ที่นี่เป็นโรงแรมสไตล์เซอร์วิสอพาร์ทเมนต์ฮะ จะแบ่งออกเป็น 2 ตึก Tower A และ B ที่มีทางเชื่อมกันที่ชั้น 1

เราพักห้อง Studio Lakeview ฮะ ฟังก์ชั่นห้องก็คือครบ มีมุมครัว โต๊ะนั่งทานข้าว โซฟา เตียงนอน สไตล์ของห้องพักให้บรรยากาศค่อนข้างอบอุ่น สบายๆ สิ่งอำนวยความสะดวกครบตามแบบฉบับโรงแรมเลยฮะ

และที่สำคัญคือมีระเบียงที่เปิดออกไปเจอวิวเมืองกรุงเทพ และ วิวทะเลสาบ บรรยากาศตอนพระอาทิตย์ตกคือดีมากๆๆๆ สามารถชมวิวสวยแบบเป็นส่วนตัวจากห้องพักได้เลย

มาดูสิ่งอำนวยความสะดวกหลักของที่นี่กันบ้างดีกว่า เรียกได้ว่าครบเหมาะกับการเป็นเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ โดยเราสามารถกดไปที่ชั้น R ได้เลย ในชั้นนี้จะมีห้องฟิตเนสที่มีเครื่องออกกำลังกายต่างๆ ทั้งลู่วิ่งหรือในส่วนของเวทเทรนนิ่ง

หรือถ้าชอบเล่นกีฬาอย่างปิงปองหรือตีกอล์ฟ ก็มีโต๊ะปิงปองและ Golf Room ให้หวดวงสวิงกันได้ รวมไปถึง Kids Club ที่สามารถพาเด็กๆมาเล่นได้แบบเต็มที่

และอีกอย่างที่ขาดไม่ได้ Swimming Pool ที่นี่มีสระว่ายน้ำแบบ Outdoor ที่ไม่ว่าจะว่ายน้ำช่วงเช้าหรือเย็นก็ได้ฟีลดีมาก สามารถมาว่ายน้ำหรืออาบแดดได้ตามสะดวก ส่วนตัวชอบสระแบบนี้เป็นทางตรงยาว ได้รู้สึกว่าออกกำลังกายจริงๆดีฮะ

ความสะดวกสบายอีกอย่างคือ มีห้องอาหารหลักของโรมแรม Cool Chilli เป็นห้องอาหารนานาชาติที่เปิดตลอดทั้งวัน โดยช่วงเช้าจะเปิดเป็นโซนบุฟเฟ่ต์อาหารเช้าสำหรับแขกที่มาพัก หลังจากนั้นก็จะเป็นแบบ A La Carte ที่มีเมนูให้เลือกเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นอาหารไทยจานเดียว ยำ ซุป สลัด ไปจนถึงพิซซ่าเลย

ส่วนเราเลือกมาทานมื้อเย็นสไตล์อาหารไทยที่นี่ฮะ จานที่อยากแนะนำเป็น ไก่ย่าง ที่เสิร์ฟมาบนกระทะร้อนเนื้อนุ่มสุดๆ ส่วนจานอื่นๆก็ถูกใจหมดเกลี้ยงไม่แพ้กัน เมนูอื่นๆที่สั่งมาก็รสชาติดี ไก่ย่างสะเต๊ะ ยำวุ้นเส้น แกงส้มผักรวม รสชาติเข้มข้น จัดจ้านทุกเมนู

และอีกที่คือ The Coffee Club ร้านกาแฟและอาหารแบรนด์ดังที่ตั้งอยู่ด้านหน้าของโรงแรมเลยฮะ โดยเราจะสามารถเลือกได้ว่าจะรับบุฟเฟ่ต์อาหารเช้าที่ห้องอาหารของโรงแรม หรือจะเลือกมาทานเซ็ตอาหารเช้าที่นี่ก็ได้ เพียงแค่เราเอาคูปองอาหารเช้ามาแจ้งพนักงานก็สามารถเลือกเมนูอาหารเช้า ก็จะมีเมนูให้เราเลือก เราเลือกเป็น Club sandwiched ชิ้นใหญ่จุกๆกับ Poached egg with grilled potatos ซึ่งเราจะได้เครื่องดื่มอีกคนละแก้วด้วยนะ สาขานี้จะเปิดตลอด 24 ชั่วโมงด้วยนะ เผื่อใครเบื่อๆ อยากจะลงมาสั่งเครื่องดื่มนั่งจิบไปเพลินๆก็ได้

สรุป โดยส่วนตัวคิดว่า ชามา เลควิว อโศก เป็นโรงแรมที่ครบครัน โลเคชั่นดีมาก ใจกลางอโศก ใกล้ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์, Termainal 21 เดินทางได้ทั้ง BTS/MRT หรือจะขับรถยนต์ส่วนตัวมาก็มีที่จอดรถ สิ่งอำนวยความสะดวกครบ ห้องพักไซส์กำลังดี อุปกรณ์ต่างๆในห้องก็ครบ วิวทะเลสาบสวยมากตัดกับตึกสูง เป็นอีกมุมของกรุงเทพที่น่าแวะไปพักผ่อน Staycation หรือ Long Stay ก็ดี ภาพสุดท้ายขอปิดด้วย สระว่ายน้ำที่ชอบ 55555 ความยาวแบบไม่มีอะไรมากั้น และบรรยากาศวิวเมืองกรุงในวันฟ้าใส 🙂 ถ้ามาพักแถวอโศก สุขุมวิท แวะมาพักกันดูนะฮะ

รายละเอียดเพิ่มเติม :

Facebook >> https://www.facebook.com/ShamaLakeviewAsoke

Tel >> 02-663-1234

เช็คราคา & จองที่พักราคาพิเศษ ผ่าน Agoda >> คลิกที่นี่


หากใครกำลังมองหาที่เที่ยว ที่กิน ที่พัก ทริปเดินทาง สามารถติดตามพวกเรา 247Journey ได้ทาง >> https://247journey.in.th หรือ Facebook : https://www.facebook.com/247journeyy เลยฮะ

Read More

รีวิว Wonderfruit Festival 2022 เทศกาลดนตรีที่ไม่ได้มีแค่เสียงเพลง

Wonderfruit Festival 2022

รีวิว Wonderfruit Festival 2022 เทศกาลดนตรีที่ไม่ได้มีแค่เสียงเพลง

Welcome back, wonderers. It’s time to Live, Love and Wonder!

ต้อนรับการกลับมาของเทศกาลดนตรีที่ไม่ได้มีแค่เสียงเพลง แต่ยังรวม Art, Culture and Nature ไว้ในงานเดียว
เป็นอีกงานที่หลายคนตั้งตารอ กับความยิ่งใหญ่อลังการ Wonderfruit Festival 2022

ภาพงานคอนเสิร์ตส่วนใหญ่ที่น่าจะคุ้นหูคุ้นตา ก็คงจะมีแค่เวทีใหญ่กลางพื้นที่กว้างๆ มีร้านขายของที่ระลึกอยู่ด้านหน้างาน พอคนเข้ามาฟังดนตรีจบก็พากันกลับบ้าน แต่อยากบอกว่าที่ Wonderfruit นี้มีอะไรมากกว่า ไม่ใช่แค่เสียงเพลงที่สร้างความสุข กิจกรรมต่างๆ ผู้คนรอบตัวและบรรยากาศ เป็นการมาคอนเสิร์ตครั้งแรกที่เราพูดได้เลยว่าได้อะไรกลับไปมากกว่าทุกครั้ง

หลายปีผ่านไปกับงานเทศกาลดนตรีที่มีเอกลักษณ์ กลับมาครั้งนี้ Wonderfruit ก็ยังดึงความสนใจจากผู้คนไปได้มากเหมือนเคย ความตื่นตาตื่นใจจากคอสตูมสวยๆที่แต่ละคนแต่งมาแบบจัดเต็ม เป็นเหมือนพื้นที่แสดงออกอย่างสร้างสรรค์ที่ต้องยอมรับเลยว่าดูแล้วเพลินตามากกกก

และอย่างที่บอกไปคอนเซ็ปต์ของงานนี้ไม่ได้มีแค่ความสนุกแน่นอนฮะ แต่เป็นความสนุกบนพื้นฐานของความยั่งยืนหรือ sustainable จากผู้คนทั่วทุกมุมโลก เชื่อมต่อตัวเราให้กลมกลืนกับธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นศิลปะ อาหารการกิน การลดการสร้างขยะ

Wonderfruit Festival 2022 ครั้งนี้เป็นการจัดงานครั้งที่ 7 แล้ว จัดที่ The Field at Siam Country Club ในช่วงเดือนธันวาคมซึ่งเป็นช่วงเทศกาลแห่งความสุขพอดี พื้นที่กว้างขวางที่สามารถจุคนนับพัน ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในเมืองจำลองเมืองนึงเลย งานจัดขึ้นทั้งหมด 4 วัน ใครอยากไปกลับหรืออยากนอนค้างที่พักในงานก็ได้ตามสะดวกเลยฮะ

ในงานจะค่อนข้างเข้มงวดในเรื่องของการลดขยะพลาสติกมากฮะ โดยผู้ร่วมงานจะต้องเตรียมแก้วส่วนตัวหรือภาชนะที่บรรจุเครื่องดื่มไปเอง เพื่อใช้เติมน้ำจากจุดที่บริการ รวมถึงเติมเครื่องดื่มจากร้านค้าและบาร์ภายในงาน ซึ่งเราคิดว่าเป็นไอเดียที่ดีมาก เพราะช่วยลดขยะได้จำนวนมากเลยล่ะฮะ แต่ถ้าใครไม่ได้พกไป ในงานก็มีขายด้วยนะ Wonder Cup เป็นแก้วที่ผลิตจากรำข้าวและกาบมะพร้าว น่ารักจนต้องสอยมาแล้ว1! ส่วนขยะอื่นๆก็ต้องแยกประเภทก่อนทิ้งด้วยฮะ

ในงานจะมีกิจกรรมต่างๆให้ทำเยอะมากกกก ครั้งแรกของเราทั้งทีเลยขอลองไปเก็บบรรยากาศตั้งแต่ช่วงบ่ายๆเย็นๆเลยฮะ ตั้งแต่ช่วงบ่ายถึงเย็นของแต่ละวันจะมี Scratch Talks ที่ทุกคนสามารถเข้าไปร่วมฟังเรื่องราวสร้างแรงบันดาลใจ และพูดคุยต่อยอด แชร์ความคิดเห็นในหัวข้อต่างๆ

กิจกรรม Wellness ที่จัดสลับเปลี่ยนกันตั้งแต่เช้าจรดเย็น เวิร์คชอปต่างๆที่ไม่ใช่แค่การออกกำลังกาย โยคะ ยังมีการนั่งสมาธิและกิจกรรมอื่นๆเพื่อปรับสมดุลร่างกายและจิตใจจากภายใน

รวมถึงกิจกรรม Workshops จากแบรนด์ต่างๆอีกเยอะมาก ซึ่งเราไปหยุดอยู่ที่ HOUSE OF LA DOLCE VITA เป็นบ้านหลังนึงของทาง VESPA ฮะ

‘LA DOLCE VITA’ คือศิลปะการใช้ชีวิตในแบบชาวอิตาเลียน ถ้าแปลเป็นภาษาอังกฤษให้เข้าใจง่ายๆคือ The Sweet Life การดื่มด่ำความสุขแบบค่อยเป็นค่อยไป ใช้ชีวิตแบบที่อยากใช้ ไม่ต้องรีบร้อน ซึ่งเราว่ามันตรงคอนเซ็ปมากฮะ เพราะตั้งแต่เราเข้ามานั่งพักและนั่งทำกิจกรรมไป เวลาก็ผ่านไปไวมากเลยล่ะ อิอิ

กิจกรรมในบ้านหลังนี้จะมี

✅DIY BRACELET ข้อมือแฮนด์เมดน่ารักๆ ที่เราสามารถทำเองได้ตามใจชอบ โดยเลือกลวดลายแผ่นไม้มาระบายสีและร้อยเรียง เป็นสร้อยข้อมือชิ้นเดียวในโลกที่ไม่เหมือนใคร เป็นของที่ระลึกติดไม่ติดมือกลับบ้าน

✅DIY ROCKING VESPA โมเดลรูปเวสป้าจากฝีมือตัวเอง เพราะต้องเริ่มตั้งแต่การประกอบตัวโมเดลให้เป็นรูปเวสป้าคันจิ๋ว แล้วตามด้วยการระบายสีตามจินตนาการเลย สามารถนำผลงานที่ทำเสร็จแล้วกลับบ้านได้เหมือนกันนะ

✅THE OUTDOOR CINEMA ตกเย็นหน่อยก็จะมีฉายหนัง VESPA DOCUMENTARY ตามรอยเวสป้าที่เกี่ยวเชื่อมโยงผู้คนจากทั่วทุกมุมเข้าด้วยกัน นั่งเอนหลังไปดูจอไปแบบสบายๆ

เอาจริงๆก็ไม่ได้เป็นคนมีฝีมือทางด้านศิลปะซักเท่าไหร่ การจับคู่สีใดๆก็ทำไปแบบเขินๆ แต่พอมาดูผลงานก็น่ารักไปอีกแบบนะ แล้วก็ไม่ต้องกังวลว่าจะต่อไม่ได้หรือร้อยเชือกไม่เป็น เพราะมีพี่ๆผู้ช่วยคอยเตรียมอุปกรณ์และแนะนำอยู่

และในส่วนของการแสดงดนตรีที่เป็นความบันเทิงหลักในงานนี้ มีหลากหลายเวทีและแนวเพลงมากกกก ตั้งแต่ช่วงเย็นไปจนถึงดึก แต่ละเวทีก็จะมีคิวการแสดงจากศิลปินมาจากทั่วโลก สลับเปลี่ยนกันขึ้นมาสร้างความสนุก จัดเต็มทั้งแสงสีเสียง ใครชอบเพลงแนวไหนหรือมีศิลปินในดวงใจ ก็เลือกตามไปปล่อยจอยปล่อยใจได้เลยยย

ในเรื่องของอาหารและเครื่องดื่มก็ไม่ต้องกลัวอดเลย ร้านอาหารมีให้เลือกเยอะมาก ทั้งไทยและเทศ คาวหวาน รวมถึงเมนูวีแกนหรือเพื่อสุขภาพใดๆมีครบหมด

และที่งานจะเป็นแบบ Cashless ด้วยนะฮะ หลังจากที่ลงทะเบียนเข้างานแล้ว คนที่มางานจะได้ RFID Wristban ที่สามารถใช้แทนเงินสดได้เลย โดยเราก็แค่เติมเงินตรงจุดบริการ เวลาซื้ออาหาร เครื่องดื่ม หรือสินค้าต่างๆก็แค่ยื่นริสแบนด์ไปให้พนักงานสแกนแตะอ่านข้อมูล แค่นั้นคือจบเลย สะดวกมาก จะ drink หรือจะ dance ก็ไม่ต้องกังวลว่ากระเป๋าเงินจะหายเลย ถ้าใช้ไม่หมดสามารถแลกคืนได้ด้วยฮะ

สำหรับเรางาน Wonderfruit ก็คืองาน festival ที่แท้ทรู ไม่ได้มีแต่ความบันเทิงสนุกสนานจากเสียงเพลง แต่เป็นงานรื่นเริงที่รวมคนมากกว่าร้อยประเทศด้วยศิลปะและวัฒนธรรม ไม่ว่าจะมากับกลุ่มเพื่อน คู่รัก หรือครอบครัว การได้มาใช้ชีวิตร่วมกันในช่วงเวลาสั้นๆ บางคนอาจจะไปแค่วันเดียว บางคนอาจอยู่ครบ 4 วันแบบเต็มอิ่ม เราเชื่อว่าทุกคนที่มาจะได้เอนจอยกับตัวเอง เพื่อนๆที่มาร่วมงาน บรรยากาศ อาหาร โชว์และเวิร์คช้อปต่างๆ ซึ่งพูดได้ว่าเป็นงานเดียวในไทยที่ไม่มีใครเหมือน

ภาพที่เห็นทุกคนยิ้มแย้ม แต่งตัวจัดเต็มแบบไม่มีใครยอมใคร ในบรรยากาศที่ล้อมรอบไปด้วยงานศิลปะ การออกแบบและตกแต่งสถานที่และเวทีต่างๆ ที่มันทั้งเท่และกลมกล่อมไปกับธรรมชาติ พร้อมกับแนวคิดที่เน้นถึงความหมายและความยั่งยืนต่อสิ่งแวดล้อมด้วย

การกลับมาของ Wonderfruit Festival ครั้งนี้ หลังจากห่างหายไป 2 ปีเต็มๆ เราเชื่อว่าคุ้มค่ากับการรอคอยของใครหลายๆคนเลยใช่มั้ยฮะ หวังว่าจะได้พบกันใหม่ปีหน้าๆๆๆ ใครที่เคยไปแล้วก็คงจะกลับไปอีก ส่วนใครที่ยังไม่เคยไป แนะนำว่าไม่ควรพลาดฮะ See youuuuuu!


หากใครกำลังหาแพลนเที่ยว ที่กิน ที่พัก ทริปเดินทาง และยังไม่รู้จะไปไหน สามารถติดตามทริปท่องเที่ยวอื่นๆ จาก 247Journey เพิ่มเติมได้ทุกช่องทางเลยนะฮะ Website: https://247journey.in.th Facebook: https://www.facebook.com/247journeyyInstagram: https://www.instagram.com/247JourneyyTwitter: https://twitter.com/247journey

Read More

เปิดโหมดพักผ่อน ชมวิวสวยใจกลางเมืองจากห้องพัก ดินเนอร์หรูบนรูฟท็อปบาร์ พร้อมสปาสุดหรูที่ Mode Sathorn Hotel

Mode-Sathorn-Hotel

เปิดโหมดพักผ่อน ชมวิวสวยใจกลางเมืองจากห้องพัก ดินเนอร์หรูบนรูฟท็อปบาร์ พร้อมสปาสุดหรูที่ Mode Sathorn Hotel

ปลายปีแบบนี้ ติดพันงานหลายโปรเจค อาจจะยังไม่สะดวกเดินทางไปไหนไกล หาเรื่องเปลี่ยนที่นอน เปลี่ยนบรรยากาศทำงาน Staycation กลางเมืองยังเป็นคำตอบที่ดีเช่นเคยฮะ รอบนี้มาแนะนำแพ็คเก็จ Staycation ใจกลางเมืองกับเจ้าเก่าเจ้าเดิม Hungry Hub

แพ็คเกจ Staycation จากเว็บนี้ ไม่เคยทำให้ผิดหวัง รอบนี้เราเลือกเป็น Mode Sathorn Hotel โรงแรมบรรยากาศดี โลเคชั่นปังมาก ริมถนนสาทร จะขับรถมาก็ได้ หรือใครอยากจะนั่ง BTS ก็ลงสถานีสุรศักดิ์ได้เลย ด้านล่างที่พักมี The Coffee Club ด้วย จะนัดพบลูกค้าก็สะดวกสุด ที่นี่เป็นโรงแรมใจกลางเมือง สูงเกือบ 40 ชั้น เห็นวิวเมืองกรุงเทพแบบเต็มๆ ใครกำลังตามหาโรงแรมสำหรับพักผ่อนในวันสบายๆแนะนำเลยฮะ

เริ่มจากบริเวณล็อบบี้กันก่อนเลย ตกแต่งแบบเรียบง่ายแต่ดูดี ดีไซน์แบบโล่งๆ บรรยากาศค่อนข้างสบายๆ ไม่ทางการมากเกิน ทำให้ลูกค้าที่เข้าพักอย่างเราปรับสู่โหมดพักผ่อนได้ง่ายขึ้น

ทริปนี้เราจองเป็นแพ็คเก็จ Executive Mode Room, Spa Package and Dinner Set ราคา 4,499 บาท (มูลค่ารวม 15,300 บาท) บอกเลยว่าคุ้มมากฮะ เพราะได้ทั้งห้องพัก+สปา+อาหาร ครบ ไม่ต้องออกจากที่พักเลยฮะ

  • ห้องพักแบบ Executive Mode 1 คืน สำหรับ 2 ท่าน พร้อมอาหารเช้า (มูลค่า 4,300 บาท)
  • Spa Package 1 ชั่วโมงสำหรับ 2 ท่าน (มูลค่า 5,000 บาท)
  • เซ็ตเมนู 6 รายการสำหรับ 2 ท่านที่ร้าน The Rooftop (มูลค่า 6,000 บาท) 

ห้องพักแบบ Executive Mode ก็คือเอ็กซ์คลูซีฟตามชื่อจริงๆ ขนาดห้องพักขนาด 49.5 ตารางเมตร พร้อมกับ City View แบบส่วนตัว ที่จะทำให้เราได้ชมบรรยากาศวิวเมืองกรุงเทพฯจากห้องพักได้เลย บรรยากาศห้องพักตกแต่งแบบโมเดิร์น มีมุมโต๊ะทำงานและเตียงนอนไซส์ใหญ่หันออกไปทางหน้าต่าง ปลายเตียงมีโซฟา และบริเวณหน้าต่างมีขอบที่นั่งสามารถนั่งชมวิวได้เลยเหมือนกันฮะ

สิ่งอำนวยความสะดวกครบตามแบบโรงแรมห้าดาวเลย ภายในห้องน้ำก็แบ่งสัดส่วนได้ดี มีทั้ง Rain Shower มีอ่างอาบน้ำ สามารถนอนแช่อ่างผ่อนคลายความเหนื่อยล้ากันได้

ไลน์อาหารเช้าจัดเต็มสมฐานะ BUFFET BREAKFAST เสิร์ฟตั้งแต่ 06.00-10.30 น. อยู่ที่ชั้น 10 นะฮะ บรรยากาศดูหรูหราไปอีกแบบ อาหารมีทั้งแบบ American, Asian เลือกได้ตามใจชอบเลย ส่วนตัวคิดว่าอาหารเช้าที่นี่ วัตถุดิบคุณภาพเลยนะ นั่งกินเพลินๆ


นอกจากเพลินไปกับห้องพักและอาหารเช้าแล้ว อยากพาทุกคนไปชมที่นี่กันต่อ

The Roof 38th Bar รูฟท็อปบาร์ ชั้น 38 บนสุดของโรงแรม วิวเปิดโล่ง บรรยากาศดีมาก ช่วงพระอาทิตย์ตกจนไปแสงพระอาทิตย์เริ่มลับไปคือดีที่สุด ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง ชั้นบนสุดเดินวนได้ทุกมุมเลย มุมไหนก็สวยไปหมดจริงๆฮะ เป็นอีกหนึ่ง City View ที่ประทับใจสุดเลย

สำหรับอาหารและเครื่องดื่มนะฮะ ถ้าใครจองแพ็คเก็จนี้มา จะได้เฉพาะอาหาร+ของหวานเท่านั้น สำหรับเครื่องดื่มจะไม่รวมในแพ็คเก็จฮะ แต่ไม่ต้องกังวลไป จังหวะที่ไปเป็นช่วง Happy Hours พอดี มีโปรโมชั่น 1 แถม 1 จิบค็อกเทลสวยๆชมบรรยากาศ City View และแสงช่วงพระอาทิตย์กำลังตก ก็คือลงตัวที่สุด

ส่วนของเมนูอาหารและขนมหวาน สามารถเลือกจากเมนูที่เค้าจัดเตรียมไว้ได้เลย ต้องบอกว่าราคาอาหารแต่ละจานไม่ใช่เล่นๆ แต่ว่าเราจองแพ็คเก็จนี้ไป คือครอบคลุมและคุ้มเลยฮะ

นอกจากดินเนอร์มื้อค่ำแล้ว แพ็คเก็จยังครอบคลุมไปถึง สปา ด้วย เป็นสปาที่บรรยากาศดีมาก เหมาะกับการรีแลกซ์สุดๆ Borisud Pure Spa สามารถเลือกได้คนละ 1 แพ็คเก็จ จะคุ้มไปไหนเนี่ย! เรื่องความคุ้มค่าขอยกให้ที่นี่เลย ทางไปจอง >> คลิกที่นี่เลย

จองแพ็คเก็จ Hungry Hub : คลิกเลย

หากใครกำลังหาแพลนเที่ยว ที่กิน ที่พัก ทริปเดินทาง และยังไม่รู้จะไปไหน สามารถติดตามทริปท่องเที่ยวอื่นๆ จาก 247Journey เพิ่มเติมได้ทุกช่องทางเลยนะฮะ ฝากช่องทางน้องใหม่ สำหรับใครที่ชอบดูคลิปสั้นๆ เรามี Tiktok แล้วนะฮะ ไปรับชมกันได้เลย

Website: https://247journey.in.th 

Facebook: https://www.facebook.com/247journeyy

Instagram: https://www.instagram.com/247Journeyy

Twitter: https://twitter.com/247journey

Tiktok: https://www.tiktok.com/@247journey

Read More

พาไปฮอปปิ้ง 2 คาเฟ่และร้านอาหารสุขภาพ พัทยา ร้านสวย บรรยากาศดี เที่ยวได้ทั้งปีไม่มีเบื่อ

Pattaya-Cafe-Hopping-2

พาไปฮอปปิ้ง 2 คาเฟ่และร้านอาหารสุขภาพ พัทยา ร้านสวย บรรยากาศดี เที่ยวได้ทั้งปีไม่มีเบื่อ

ช่วงสิ้นปีแบบนี้ เทศกาลสังสรรค์เริ่มเยอะขึ้น พอๆกับงานที่หลายคนต้องพบเจอ ฮ่าาาา เราหาทริปสั้นๆมาให้เป็นไอเดีย พาทุกคนแว๊บออกไปพักผ่อนช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ แบบไม่ไกลจากกรุงเทพ เดินทางไม่เหนื่อย ดีต่อใจแถมดีต่อสุขภาพด้วยนะเออ

รอบนี้เราพาไปที่พัทยาฮะ ทริปนี้เราออกเดินทางแต่เช้า ตั้งใจว่าอยากจะถึงไวหน่อย ขับรถมาเรื่อยๆสบายๆตามประสานกที่ตื่นเช้า และก็มาถึง Kun Ying Hypro Farm ในที่สุด อิอิ

Kun Ying Hydroponic Farm (คุญหญิงไฮโดรฟาร์ม)

เป็นคาเฟ่และร้านอาหารสไตล์ฟาร์มมิ่ง มีฟาร์มผักไฮโดรโปนิกส์ ที่ปลูกหลายชนิดมาก ฟิลเล่ย์ไอซ์เบิร์ก, เรดโอ๊ค, กรีนโอ็ค, ผักคอส, บัตเตอร์เฮด สามารถเข้าชมฟาร์มได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายนะฮะ ซึ่งบอกเลยว่าที่นี่ทำให้รู้สึกคุ้มค่ากับการตื่นเช้ามาก บรรยากาศตอนเช้ากับสีเขียวของต้นไม้ สระน้ำตรงกลางที่มีเหล่าน้องห่านและปลากำลังแหวกว่าย ได้ฟีลธรรมชาติมาก

แต่ความเด็ดของที่นี่ไม่ได้มีแค่เรื่องบรรยากาศ เพราะที่นี่เค้าปลูกผักไฮโดรจำหน่ายด้วยฮะ จริงๆที่นี่เค้าปลูกมานานเป็น 10 ปีแล้ว เริ่มจากแปลงเล็กๆที่ปลูกไว้ทานเอง จนพัฒนามากลายเป็นพื้นที่ 5.5 ไร่เลยนะ สุดยอดดดดด

เห็นพื้นที่ค่อนข้างกว้างแบบนี้ แต่ทางร้านเค้าเก็บผักทุกวันเลยฮะ ขายกันวันต่อวัน เรียกได้ว่าสดใหม่ประทับใจคนทานแน่นอน อิอิ

และที่ชอบที่สุดคือ เราสามารถเข้าไปเลือกเก็บผักเองได้เลยนะ ทางร้านจะมีตะกร้าเตรียมไว้ให้ เราก็แค่เดินเข้าไปเลือกเลยว่าชอบต้นไหน อยากได้ต้นเล็กต้นใหญ่ จะเลือกอย่างละกี่ต้น กี่ชนิด ก็แล้วแต่พอใจได้เลย เพราะทางร้านเค้าคิดราคาแค่ต้นละ 15 บาทเท่านั้น รอบนี้เราเลยได้ผักสดกลับบ้านมาถุงโต ไว้ทำสลัดทานก็ได้ หรือจะไปแกล้มกับเมนูอื่นๆก็ดี หรือใครอยากหิ้วไปฝากผู้ใหญ่/ใครที่กำลังใส่ใจสุขภาพก็เป็นอีกไอเดียที่ดีเลยน้า

สำหรับอาหารและเครื่องดื่มก็เป็นแบบโฮมเมดเลย ทำเองหมด วัตถุดิบก็ใช้ของที่ฟาร์มเลย สดใหม่ปลอดสารพิษ เมนูเค้ก ขนม ทางร้านก็ทำเองนะฮะ หน้าตาน่ากินสุด ส่วนเมนูที่เราทานวันนี้ มีสลัดกุ้งย่าง และ สปาเก็ตตี้หมูตุ๋นสูตรคุณพ่อ รสชาติกลมกล่อม เป็นมื้อที่อิ่มอร่อยแบบดีต่อสุขภาพจริงๆ

Facebook >> https://www.facebook.com/Kunyinghydro/

Location >> https://goo.gl/maps/xHeWKZDhLEH6weYL6

เปิด : อังคาร -อาทิตย์ เวลา 8.00-17.00 น. (ปิดวันจันทร์)

โทร : 086-8441348


Black Bean Cafe | Pattaya

อีกหนึ่งคาเฟ่ที่เป็นคาเฟ่ลับในพัทยากลาง ตั้งอยู่ในฟิตเนส The Brick พัทยากลางซอย 12/10 บรรยากาศร้านเท่สุด โทนสีดำ ใครเป็นสายถ่ายรูปต้องชอบแน่นอน แสงสวย และดีไซน์เท่สุด โทนแบบดาร์คๆ พื้นที่กว้างขวางเลยฮะที่นี่ ที่จอดรถเพียบ และด้วยความที่เป็นคาเฟ่ที่ตั้งอยู่ในฟิตเนส เลยขอพาทุกคนไปชมความน่าสนใจของฟิตเนสที่นี่กันด้วย ตกแต่งดีมาก เครื่องเล่นเยอะ ทันสมัย และดูดีจัด จนอยากเปิดบัตรสมาชิกเลยย

ส่วนของคาเฟ่ก็อยู่บริเวณด้านหน้าเลยฮะ บรรยากาศดี น่านั่งสุดๆ เป็นทั้งคาเฟ่และร้านอาหาร ด้วยความเป็นที่เป็นร้านที่อยู่ในฟิตเนส เมนูเครื่องดื่มอาหารที่นี่เป็นอาหารเพื่อสุขภาพด้วย แต่ละเมนูหน้าตาน่ากินมากกกกก ใครว่าอาหารสุขภาพต้องสีซีดๆหรืออกรสจืดๆ มาเจอร้านนี้ก็อาจจะเปลี่ยนใจอยากหันมาทานเมนูเฮลตี้แน่นอนฮะ

นอกจากหน้าตาน่าทานแล้ว ดูรู้เลยว่าคัดสรรวัตถุดิบมาอย่างดี รสชาติก็อร่อยมากด้วยย ลืมอาหารสุขภาพแบบเดิมๆไปได้เลย ไม่ว่าจะเป็น สายกาแฟ สมูทตี้ เวย์โปรตีน เครื่องดื่มแบบไหนก็มาเถอะ

ส่วนอาหารก็มีเมนูให้เลือกเยอะเลยฮะ ทั้งเซ็ตอาหารเช้า แซนวิช สลัด พาสต้า น่ากินหลายเมนูและราคาไม่แพงเลยเป็นอีก คาเฟ่และร้านอาหารสุขภาพ พัทยา ที่น่าแวะพักมากๆ ลองไปกันดูนะ

เมนูที่อยากให้ลอง

  • Spicy chicken salad
  • Salmon fruit salad
  • Egg mayo sandwich
  • Chicken caesar wrap
  • Mixed berry smoothie
  • Mango smoothie
  • Black honey lemon

Facebook >> https://www.facebook.com/juliegrillandmore

Location >> https://maps.app.goo.gl/2xqv5cZv8GWW5XnL8

เวลา : จันทร์-ศุกร์ 7.00-20.00น. / เสาร์-อาทิตย์ 8.00-20.00น.

โทร : 080-9616152


หากใครกำลังหาแพลนเที่ยว ที่กิน ที่พัก ทริปเดินทาง และยังไม่รู้จะไปไหน สามารถติดตามทริปท่องเที่ยวอื่นๆ จาก 247Journey เพิ่มเติมได้ทุกช่องทางเลยนะฮะ ฝากช่องทางน้องใหม่ สำหรับใครที่ชอบดูคลิปสั้นๆ เรามี Tiktok แล้วนะฮะ ไปรับชมกันได้เลย

Website: https://247journey.in.th 

Facebook: https://www.facebook.com/247journeyy

Instagram: https://www.instagram.com/247Journeyy

Twitter: https://twitter.com/247journey

Tiktok: https://www.tiktok.com/@247journey

Read More

Beach Box At Pran (บีชบ๊อกซ์ แอท ปราณ) ที่พักตู้คอนเทนเนอร์ บรรยากาศดี ติดทะเล สามร้อยยอด งบพันเดียว ก็นอนชิลริมทะเลได้

Beach box at pran

Beach Box At Pran (บีชบ๊อกซ์ แอท ปราณ) ที่พักตู้คอนเทนเนอร์ บรรยากาศดี ติดทะเล สามร้อยยอด งบพันเดียว ก็นอนชิลริมทะเลได้

ทริปนี้พาไปพักผ่อนกันที่ อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ ทริปนี้ตั้งใจอยากหาที่พักริมทะเล สงบๆ นั่งเล่นชิลล์ เลยปักหมุดมาเป็นที่นี่ฮะ ขับเลยหัวหินมา ปราณบุรี ไปหน่อย โลเคชั่นนี้เป็นอีกที่นึงที่เราว่าเหมาะกับการพักผ่อนชาร์จแบตมากๆ ถ้าอยากหาที่พักสงบๆ บรรยากาศติดทะเล มาถูกทางแล้วฮะ

และจริงๆแล้วที่ อำเภอสามร้อยยอด มีสถานที่เที่ยวน่าสนใจอยู่หลายที่เลยด้วยนะ ใครอยากเที่ยวแนวธรรมชาติ จุดชมวิวต่างๆ หรือแวะทานร้านอาหาร/ร้านคาเฟ่สวยๆ ใช้เวลาขับรถเลยหัวหินมาอีกนิดหน่อยแต่พูดได้เลยว่าคุ้มมาก ที่เที่ยวที่กินต่างๆไม่แออัดวุ่นวาย ที่พักเน้นร่มรื่นและใกล้ธรรมชาติได้แบบเต็มที่ ตรงคอนเซ็ปต์เรารอบนี้เลยล่ะฮะ

Beach Box At Pran (บีชบ๊อกซ์ แอท ปราณ) ที่พักบรรยากาศดี ติดทะเล เดินจากประตูที่พักแค่ไม่กี่ก้าวก็ถึงทะเลแล้วววว ความโดดเด่นของที่นี่ นอกจากบรรยากาศที่ดูเข้าถึงง่าย สนุกสนาน ห้องพักก็เก๋มาก จะเป็นสไตล์ตู้คอนเทนเนอร์ สีสันหลากสีสดใส แต่ละห้องแต่ละหลังก็จะตกแต่งมีมุมแตกต่างกันด้วยนะ จะมาคนเดียว มาเป็นคู่ หรือมาเป็นกลุ่มเราว่าก็เหมาะเลยล่ะ ที่สำคัญราคาน่ารัก แบงค์พันใบเดียวก็เอาอยู่

จำนวนของห้องพักที่นี่มีไม่เยอะมาก แต่ก็ไม่ได้น้อยขนาดนั้น ส่วนตัวคิดว่าใครกำลังหาสถานที่แบบเหมาที่พักสำหรับทำกิจกรรม รับน้อง หรือมาแบบกลุ่ม หมู่คณะ ปิดเหมาที่พักไปเลยก็คือดีนะ เป็นส่วนตัวและมีพื้นที่สำหรับทำกิจกรรม สามารถรองรับได้สูงสุดประมาณ 50 คนฮะ

มาพักที่นี่ไม่ใช่แค่จะได้เอนจอยวิวทะเลอย่างเดียวนะฮะ พอเดินเข้าประตูรั้วและโซนบ้านพักด้านหน้าเข้ามา เราก็จะเจอมุมสวนและน้ำตก ร่มรื่นตัดกับสีสันของบ้านคอนเทนเนอร์แต่ละหลัง

รอบนี้ เรามาพักที่ห้องเบอร์ 10 ฮะ เป็นห้องพักสำหรับ 2 คนอยู่ตรงมุมสวนด้านในสุดเลย ห้องขนาดกะทัดรัดแต่ก็ไม่ทำให้รู้สึกอึดอัด ในห้องจะแบ่งเป็นโซนเตียงนอน ด้านหน้ามีกระจกบานใหญ่ เผื่อใครอยากเปิดม่านอ่านหนังสือ นอนชมวิวสวนชิลล์ๆ

โซนโต๊ะบาร์ไว้นั่งจิบเครื่องดื่มเล่นเพลินๆ และมุมไฮไลท์ที่เราชอบสุดก็คงเป็นมุมเปลผ้าตรงระเบียง ช่วงกลางวันมานั่งเล่นชมสวน นั่งมองสีเขียวของต้นไม้กับฟังเสียงน้ำตกไปพลางๆ ไกวเปลไปเล่นๆอาจเคลิ้มหลับจริงได้เลย อิอิ

อาหารเช้าที่นี่จะเสิร์ฟมาเป็นเซ็ตฮะ แต่ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่อิ่ม เพราะเค้ายกถาดมาแบบแน่นมากกก ไม่ว่าจะเป็นชุดอาหารเช้าแบบ American breakfast ยังมีข้าวต้มร้อนๆชามโต พร้อมกับผลไม้และของหวาน ชากาแฟก็มีครบ เป็นมื้อเช้าที่อิ่มจนอยากกลับไปนอนต่อเลยฮะ ฮ่าๆ

ด้วยความที่บ้านแต่ละหลังจะอยู่ใกล้ๆกัน อีกกิจกรรมที่อยากแนะนำตอนมาพักที่นี่คือหมูกระทะเลยฮะ ฟีลรวมตัวแคมป์ปิ้งแบบนี้ถ้ามีเมนูปิ้งย่างก็จะเพอร์เฟคมากอ่ะเนอะ ถึงเราจะไปกันแค่สองคนก็ไม่หวั่น เพราะเค้ามีให้เลือกชุดเล็กชุดใหญ่ เราขอเพิ่มความโรแมนติกรีเควสขอไปทานบนบ้านต้นไม้กันสองต่อสอง ฮ่าๆ ช่วยกันปิ้งไปท่ามกลางวิวมุมสูง แนะนำจัดชุดใหญ่ไปเลย อร่อย!

ไฮไลท์ที่สุดของทริปนี้ เราขอยกให้ บรรยากาศริมทะเลสุดปัง ด้วยความที่ สามร้อยยอด อาจจะยังไม่ใช่เป็นอำเภอยอดฮิตขนาดนั้น ถ้าใครอยากพักผ่อนแบบสงบๆ เราคิดว่าน่าจะเป็นโลเคชั่นในการพักผ่อนที่ดี ถนนโล่งๆ เดินริมชายหาด เลียบชายหาดได้เรื่อยๆ ได้ยินเสียงคลื่นทะเลชัดแจ๋ว เพราะเงียบสงบจริงๆ และแน่นอนว่ามาพักริมทะเลแล้ว กิจกรรมที่ห้ามพลาด คืออออออออออ ชมพระอาทิตย์ขึ้น เป็นบรรยากาศเริ่มต้นวันใหม่ที่ดีจริง

รายละเอียดเพิ่มเติม :

Facebook >> https://www.facebook.com/beachboxatpran

Tel >> 062-704-9994

เช็คราคา & จองที่พักผ่าน Agoda >> คลิกที่นี่


หากใครกำลังมองหาที่เที่ยว ที่กิน ที่พัก ทริปเดินทาง สามารถติดตามพวกเรา 247Journey ได้ทาง >> https://247journey.in.th หรือ Facebook : https://www.facebook.com/247journeyy เลยฮะ

Read More
error: Content is protected !!